svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"อนุสรี" แจงย้ายซบภูมิใจไทย ปัดต่อรองตำแหน่ง รับชอบไม่ถูกเรียก "งูเห่า"

"อนุสรี" โพสต์แจงเหตุผลย้ายค่ายจากรวมพลังซบภูมิใจไทย ยืนยันหวังสร้างผลงาน ไม่เกี่ยวต่อรองตำแหน่ง รับไม่ชอบถูกเรียก "งูเห่า"

16 ธันวาคม 2565 นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรครวมพลัง  (รวมพลังประชาชาติไทย) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงสมัครเข้าสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า 

วันนี้คือวันเริ่มต้นชีวิตการเมืองเส้นทางใหม่ของดิฉัน กับเส้นทางพรรค ภูมิใจไทย อดรู้สึกไม่ชอบใจนักที่มีการพูดถึงการย้ายพรรคครั้งนี้ว่าเป็น “งูเห่า” 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"อนุทิน"สวมแจ็กเก็ต 34 อดีต ส.ส. "ลูกเนวิน-แฟนลูกเสี่ยหนู" ลงสนาม

นางสาวอนุสรี ระบุ ดิฉันกล้าพูดได้ว่า วันที่ดิฉันตัดสินใจที่จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยนั้น  ดิฉันได้กล่าวกับพี่หนู หรือท่านหัวหน้าพรรค อนุทิน ว่า ขอให้การทำงาน เป็นสิ่งพิสูจน์ ไม่มีการต่อรองตำแหน่ง ลำดับ ผลตอบแทนใด ๆ 

\"อนุสรี\" แจงย้ายซบภูมิใจไทย ปัดต่อรองตำแหน่ง รับชอบไม่ถูกเรียก \"งูเห่า\"
 

ดิฉันกล่าวแค่ว่า ดิฉันจะสามารถทำอะไรให้พรรคภูมิใจไทยได้ เคยมีประสบการณ์ใดบ้าง และต้องการจะเสนอนโยบายเรื่องอะไรที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนคนไทย ในมิติสังคม การต่างประเทศ เมืองหลวงและท้องถิ่น ด้วยเครือข่ายใด ดิฉันเป็นคนพูดจริงและทำจริง รับปากใครก็รักษาคำพูด “พูดแล้วทำ” จึงน่าจะเข้ากันได้กับอนุสรี

วันนั้นและวันนี้ ของอนุสรี เงิน ไม่สามารถซื้อตัวดิฉันได้ งาน โอกาส กับ เกียรติ ที่มีให้ต่อกัน และความเชื่อมั่นจากตัวผู้นำ ก็เป็นสิ่งสำคัญ จากการที่ได้รู้จักกับพี่หนู หัวหน้าอนุทิน ในระยะเวลาพอสมควร ก่อนที่จะมาเป็นท่านรองนายกฯ ก็พบว่าเป็นคนที่มีน้ำใจ พูดตรงไปตรงมา ตั้งใจทำงาน มีอะไรเดือดร้อนถ้าติดต่อกับพี่หนู ก็จัดการด้วยความรวดเร็วให้กับทุกคน แม้งานในหน้าที่จะมากมาย แต่ภารกิจหัวใจติดปีกก็ไม่เคยทิ้ง 

ทุกอย่าง คือ คำตอบที่ทำให้ดิฉันตัดสินใจจะเดินต่อไปในเส้นทางการเมือง เพื่อสร้างผลงานให้กับประชาชนด้วยความภูมิใจ กับ "ภูมิใจไทย" เส้นทางการเมืองใหม่ของ 

 


 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นางสาวอนุสรี ได้โพสต์ถึงเหตุผลการตัดสินใจย้ายพรรคในครั้งนี้ โดยระบุว่า 

วันนี้ เป็นอีกวันที่สำคัญสำหรับชีวิตของดิฉันที่ต้องตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมพลัง (รวมพลังประชาชาติไทย) เป็นการลาออกก่อนสิ้นสุดสมัยประชุมของสภาผู้แทนราษฎรสมัยสุดท้าย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566

การตัดสินใจของดิฉันอยู่บนพื้นฐานของการที่จะได้เลือกทำงาน ในสิ่งที่เป็นความสนใจ และเป็นประสบการณ์ที่ดิฉันมี ในที่ใหม่ โดยที่การเดินออกมาจากพรรคเดิม เหมือนเป็นการเดินออกจากสถาบันที่ให้การบ่มเพาะทางการเมือง เหมือนเป็น โรงเรียนการเมือง ที่เมื่อเราได้วิชาแล้ว ก็อยากที่จะออกไปฝึกฝน ไปทำงาน ในที่ใหม่เพื่อสร้างสิ่งที่ดี ที่เป็นประโยชน์แก่แผ่นดินไทย ประชาชนไทย และสถาบันหลักของชาติ ที่ทั้งสองพรรคการเมือง คือ รวมพลัง

และพรรคใหม่ที่ดิฉันจะไปทำงานนั้น มีอุดมการณ์หลักสำคัญ คือ การจงรักภักดีต่อสถาบัน ที่เหมือนกัน ชัดเจน เพียงแต่การได้ออกไปทำงานในองค์กรที่มีความต่างกัน ในรูปแบบการทำงาน แนวนโยบายการทำงาน วิถีปฏิบัติ ที่มีความต่างกัน มีแนวนโยบายที่เป็นโอกาสใหม่สำหรับดิฉัน ที่จะได้ทำงานเพื่อสร้างประสบการณ์การเป็นนักการเมืองให้มากขึ้น ในเส้นทางใหม่ ที่เป็นมิตรกันได้ทางการเมือง

ดิฉันได้ไปกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ ที่สั่งสอน แนะนำ แก่ดิฉัน ด้วยความสำนึกในพระคุณที่มีต่อดิฉัน ท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้มีบทบาทสำคัญที่ทำพรรคเพื่อประชาชน ท่านเหมือนครูการเมือง ที่ดิฉันจะไม่มีวันลืมพระคุณท่านที่ทำให้มี ส.ส.อนุสรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก คนนี้

สำหรับท่านประธานสภาฯ ชวน หลีกภัย ท่านเสมือนญาติผู้ใหญ่ ของครอบครัวทับสุวรรณ ท่านเมตตากับดิฉันและครอบครัวเสมอ ท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฏร สุชาติ ตันเจริญ ที่ให้โอกาสดิฉันทำงานในด้านการต่างประเทศของสภาตลอดสมัยที่ผ่านมา ดิฉันได้ขอบพระคุณท่านทั้งสอง และท่านได้อวยพรให้ดิฉันประสบความสำเร็จในเส้นทางใหม่

ดิฉันขอขอบพระคุณท่าน รมต.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ท่านอาจารย์ทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ผู้ใหญ่ทั้งสองของพรรค ที่ให้ความเมตตา ความอบอุ่นแก่ดิฉันเสมอตั้งแต่มาเข้าพรรคนี้

ขอบคุณ ส.ส.พรรครวมพลัง สมาชิกและทีมงานพรรครวมพลัง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ร่วมกันทำงานมา ตลอดจนญาติผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ พี่น้อง เพื่อนๆ มิตรสหาย ที่ให้การสนับสนุน “อาย อนุสรี ทับสุวรรณ” คนนี้ จนได้เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จนจะครบสมัย 

แม้ดิฉันจะเปลี่ยนเสื้อพรรค แต่หัวใจ และอุดมการณ์ของ ความเป็น “อาย อนุสรี ทับสุวรรณ”  ไม่เคยเปลี่ยน ขนาดของหัวใจดิฉันเพียงพอที่จะรักและให้กับทุกคน ภารกิจในการทำงานเพื่อประชาชนยังมีอีกมากมายนัก แม้เป็นผู้หญิง แต่ดิฉันก็มีความมั่นใจและมีความมั่นคงในความตั้งใจที่จะเดินต่อกับงานการเมืองในวิถีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เสียสละเพื่อประชาชน และยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต ขอให้ทุกท่านที่ยังเชื่อมั่นในความเป็น “อนุสรี” ที่ไม่ว่าจะเป็นอะไร แต่ “อนุสรี” คนนี้ก็ยังเหมือนเดิม ไม่เคยเปลี่ยน รักษาคำพูด รับปากแล้วทำ  ถ้าเชื่อใจดิฉัน ขอให้เดินต่อไปกับดิฉัน คนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนไป 

วันพรุ่งนี้ ขอให้สนับสนุน อนุสรี ทับสุวรรณ เพื่อให้ทำงานตามอุดมการณ์ กับเส้นทางใหม่ต่อไปนะคะ 



\"อนุสรี\" แจงย้ายซบภูมิใจไทย ปัดต่อรองตำแหน่ง รับชอบไม่ถูกเรียก \"งูเห่า\"