มหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ที่กำกับดูแลสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ ดอจ (DOGE) ในรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลดื ทรัมป์ เผยเมื่อวันอังคาร (23 เมษายน) ว่า เขาจะลดเวลาทำงานที่ดอจเหลือเพียง 1-2 วันต่อสัปดาห์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้ และจะให้เวลาส่วนมากกับการบริหารเทสลา บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่เขาก่อตั้งขึ้น
ความเห็นของเขาทำให้หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 4.6% ในการซื้อขายหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิด ท่ามกลางความยินดีของนักลงทุน
หุ้นของเทสลาร่วงกว่า 40% นับจากต้นปีนี้ และกำไรสุทธิลดฮวบ 71% ในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยรายได้ลดลง 20% เหลือเพียง 409 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 1,390 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นับตั้งแต่มัสก์เข้าไปบริหารดอจ ซึ่งมีหน้าที่ลดจำนวนพนักงานและตัดรายจ่ายของรัฐบาลกลาง ได้สร้างความโกรธแค้นและการประท้วงทำลายโชว์รูมของเทสลา มูลค่าแบรนด์ลดลง และยอดขายลดลง 13% ทั่วโลก ซึ่งเป็นผลจากกระแสความไม่พอใจของผู้บริโภคต่อบทบาทของเขาในรัฐบาลทรัมป์ นอกจากนี้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้กัน ยังทำให้เทสลา ที่นำเข้าชิ้นส่วนจากจีน ได้รับผลกระทบด้วย