ศาลแขวงกลางกรุงโซลมีคำสั่งในวันศุกร์ (7 มีนาคม) อนุมัติตามคำร้องขอของประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ที่ให้เพิกถอนหมายจับและปล่อยตัวเขา แต่เขาจะได้รับการปล่อยตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าอัยการจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ และหากอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์ภายใน 7 วัน เขาก็จะได้รับอิสระ
นายยุนถูกคุมขังที่ศูนย์กักขังในเขตอึยวัง ทางตอนใต้ของกรุงโซลตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม ภายใต้หมายควบคุมตัว เนื่องจากชุดสอบสวนของสำนักงานตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่ระดับสูง (CIO) ต้องการตัวเพื่อสอบปากคำในข้อหาปลุกปั่นก่อกบฏจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม 2567 และบังคับใช้เพียง 6 ชม. ก่อนยกเลิกในเช้ามืดวันรุ่งขึ้น ต่อมา CIO ยื่นขอหมายจับอย่างเป็นทางทางการ และอัยการยื่นฟ้องนายยุนข้อหาก่อกบฏในวันที่ 26 มกราคม ที่ทำให้สามารถขยายเวลาควบคุมตัวเขาได้ต่อไป
แต่ศาลชี้ขาดตามคำร้องของฝ่ายนายยุนที่ว่า การอนุมัติหมายจับนายยุนไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากอัยการยื่นฟ้องนายยุนในค่ำวันที่ 26 มกราคม หลังระยะเวลาควบคุมตัวนายยุนครบกำหนดสิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่ช่วงเช้า นอกจากนี้ศาลชี้ขาดด้วยว่า CIO ไม่มีอำนาจสืบสวนคดีก่อกบฏ
ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีและพรรครัฐบาลแสดงความยินดีกับการตัดสินใจของศาลแขวงกลางกรุงโซล แต่พรรคฝ่ายค้านหลักเรียกร้องให้อัยการยื่นอุทธรณ์คัดค้านทันที และย้ำว่า คำสั่งของศาลแขวงจะไม่ส่งผลกระทบต่อคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาเรื่องการถอดถอนประธานาธิบดียุน
ศาลรัฐธรรมนูญอาจมีคำตัดสินในเดือนนี้ว่าเห็นด้วยกับมติถอดถอนประธานาธิบดีของรัฐสภาเมื่อเดือนธันวาคมหรือไม่ ซึ่งหากเห็นด้วย ก็จะทำให้ผู้นำวัย 64 ปี ที่ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่มานานหลายเดือน ต้องพ้นจากตำแหน่ง แต่หากคัดค้าน นายยุนก็จะสามารถกลับเข้าดำรงตำแหน่งตามเดิม