เมื่อวันพฤหัสบดี (6 มีนาคม) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่ประกาศให้เลื่อนการเก็บภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี (USMCA) ออกไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเขาสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีคลาวเดีย เชนบาม ของเม็กซิโก และคณะเจ้าหน้าที่แคนาดาและสหรัฐฯ หารือร่วมกัน
ข้อตกลง USMCA เป็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา ที่ลงนามในรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก
เดิมสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาเมื่อวันที่ 4 มีนาคม แต่คำสั่งใหม่ของทรัมป์เพิ่มความซับซ้อนให้กับการปฏิบัติ โดยสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกเกือบ 50% และสินค้านำเข้าจากแคนาดา 36% อยู่ภายใต้ข้อตกลง USMCA และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว แนะนำให้ผู้ผลิตสินค้าที่อยู่ในข้อตกลง USMCA ลงทะเบียนเพื่อได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 25% เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือน
ส่วนยานพาหนะอยู่ภายใต้ข้อตกลง USMCA และทรัมป์ประกาศเมื่อวันพุธแล้วว่าจะเลื่อนการเก็บภาษีสำหรับยานพาหนะออกไปหนึ่งเดือน ทั้งที่มาตรการเก็บภาษีเพิ่งเริ่มบังคับใช้ได้เพียงวันเดียว
ขณะที่พลังงานจากแคนาดาไม่ได้อยู่ใน USMCA แต่ทรัมป์สั่งเก็บภาษีนำเข้าพลังงานของแคนาดาในระดับเพียง 10% ต่ำกว่าสินค้าอื่น ๆ และจะยังคงบังคับใช้ต่อไป ขณะเดียวกันเขาลดภาษีแร่โปแตชเหลือ 10% ชั่วคราวจาก 25%
ขณะเดียวกันแคนาดาประกาศเลื่อนการขึ้นภาษี 25% ระลอกสองสำหรับสินค้าสหรัฐฯ กว่า 4,000 ชนิดออกไปจนถึงวันที่ 2 เมษายน และจะพยายามหาทางให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าทั้งหมด
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงเมื่อวันพฤหัสบดี โดยดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดลดลง 1.78% และดัชนีแนสแด็กร่วง 2.6% นอกจากนี้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.05% เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอีก 6 สกุล และนับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 2 หุ้นเอสแอนด์พี 500 ตกลงไปกว่า 4% และหุ้นแนสแด็ก ดิ่งลงเกือบ 8%
ส่วนความสัมพันธ์กับแคนาดายังคงตึงเครียด โดยทรัมป์วิจารณ์รุนแรงว่านายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด พยายามแสวงประโยชน์ทางการเมืองจากความโกรธแค้นของชาวแคนาดาต่อการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เพื่อหวังลงสมัครชิงตำแหน่งอีกสมัย
ขณะที่ทรูโด ซึ่งจะก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังพรรคสรีนิยมของเขาเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันอาทิตย์นี้ เตือนว่า ชาวแคนาดาจะเผชิญช่วงเวลายากลำบากเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา และยืนยันว่า มาตรการตอบโต้ของแคนาดาจะยังคงบังคับใช้จนกว่าสหรัฐฯ จะยกเลิกภาษีนำเข้ากับสินค้าแคนาดาอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่ชั่วคราว