ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์เมื่อคืนวันเสาร์ (1 กุมภาพันธ์)ว่า เขาสั่งการให้กองทัพดำเนินการโจมตีทางอากาศอย่างแม่นยำ โดยพุ่งเป้ากำจัดผู้วางแผนโจมตีและผู้ก่อการร้ายอื่น ๆ ของกลุ่มไอเอส ในโซมาเลีย โดยกล่าวหาว่า ฆาตกรเหล่านี้ที่หลบซ่อนในถ้ำเป็นภยคุกคามต่อสหรัฐฯ และพันธมิตร รวมทั้งบอกว่า ผลการโจมตีสามารถทำลายถ้ำที่ซ่อนตัว และสังหารผู้ก่อการร้ายได้หลายคน โดยไม่เป็นอันตรายต่อพลเรือน
เขายังเตือนด้วยว่า “สารที่ต้องการสื่อถึงไอเอสและกลุ่มอื่น ๆ ที่จะโจมตีชาวอเมริกันว่า เราจะหาพวกคุณ และเราจะฆ่าพวกคุณ”
นอกจากนี้ทำเนียบประธานาธิบดีของโซมาเลีย เผยว่า ได้รับแจ้งจากสหรัฐฯ เรื่องการโจมตีแกนนำระดับสูงของไอเอสในพื้นที่ภาคเหนือของโซมาเลีย และยินดีที่สหรัฐฯ สนับสนุนการต่อสู้กับการก่อการร้ายข้ามชาติ
รัฐบาลภูมิภาคพันท์แลนด์ ซึ่งเป็นเขตกึ่งปกครองตนเองในโซมาเลีย ระบุว่าการโจมตีของสหรัฐฯ อยู่ในบริเวณเทือกเขาโกลิส ทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอสโซมาเลีย และสามารถกำจัดแกนนำคนสำคัญของไอเอส ซึ่งเป็นความคืบหน้าที่สำคัญ
กลุ่มนี้ก่อตัวในโซมาเลียตั้งแต่ปี 2558 โดยเป็นกลุ่มที่แปรพักตร์มาจากกลุ่มอัล-ชาลับ ที่เกี่ยวพันกับเครือข่ายอัลไกดา โดยกลุ่มอัล-ชาบับเป็นกลุ่มญิฮัดกลุ่มใหญ่ที่สุดในโซมาเลีย ไอเอสในโซมาเลีย ซึ่งเชื่อว่า มีสมาชิกหลายร้อยคน มักก่อเหตุรีดไถประชาชนและก่อเหตุโจมตีระดับเล็ก ๆ และประปราย
พีท เฮ็กเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า จากการประเมินเบื้องต้นพบว่า สมาชิกไอเอสหลายคนเสียชีวิต และไม่มีพลเรือนได้รับอันตราย การโจมตีสามารถทำลายศักยภาพของไอเอสในการวางแผนและก่อเหตุโจมตี พร้อมทั้งส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ ยังพร้อมตามล่าและกำจัดผู้ก่อการร้าย
ทรัมป์เคยสั่งโจมตีโซมาเลียในช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก แม้ว่าสั่งถอนทหารออกจากที่นั่นภายในชั่วโมงที่ 11 หลังเข้ารับตำแหน่ง แต่สมัยที่โจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในปี 2564 ก็สั่งให้คงทหารไว้ในโซมาเลีย และในสมัยแรก ทรัมป์ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับทวีปแอฟริกา เคยต้อนรับผู้นำจากแอฟริกา 2 คน และไม่เคยไปเยือนทวีปนี้
แต่ในรัฐบาลสมัยที่ 2 ทรัมป์ประเดิมการโจมตีไอเอสในโซมาเลีย และอาจให้ความสำคับกับแอฟริกามากขึ้น หลังจากรัสเซียและจีนแผ่ขยายอิทธิพลการค้าในทวีปนี้มากขึ้น