หน่วยดับเพลิงกรุงวอชิงตันของสหรัฐฯ แถลงในวันพฤหัสบดี (30 มกราคม) ว่า ขณะนี้ไม่เชื่อว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารของอเมริกันแอร์ไลน์และเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์กของกองทัพสหรัฐฯ ชนกันกลางอากาศและตกลงในแม่น้ำโปโตแมคเมื่อคืนวันพุธ และภารกิจค้นหากู้ภัยได้ปรับเปลี่ยนสู่การกู้ศพผู้เคราะห์ร้ายแล้ว โดยจนถึงขณะนี้พบศพแล้ว 28 ราย และมั่นใจว่า จะสามารถกู้ศพได้ครบทั้งหมด
เครื่องบินโดยสารบรรทุกผู้โดยสาร 60 คน และลูกเรือ 4 คน เดินทางจากเมืองวิชิตา รัฐแคนซัสเพื่อลงจอดในสนามบินเรแกน แนชันแนล และเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพที่อยู่ระหว่างการฝึกบิน มีทหารบนเครื่อง 3 นาย
ฌอน ดัฟฟี รัฐมนตรีคมนาคม แถลงว่า ซากลำตัวเครื่องบินอยู่ในสภาพหงายท้อง แตกหักเป็น 3 ท่อน และจมอยู่ในน้ำระดับเอว โดยการกู้ซากเครื่องบินจะดำเนินการได้ในวันนี้ นอกจากนี้เขาบอกด้วยว่า ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์บินตามแผนการบินปกติและกำลังรอข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เท่าที่ทราบเวลานี้ คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่น่าจะป้องกันได้ ซึ่งสอดคล้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่โพสต์ก่อนหน้านี้ว่า เป็นเหตุการณ์ที่น่าจะป้องกันได้
ขณะที่โรเบิร์ต ไอซอม ซีอีโอ ของอเมริกันแอร์ไลน์ เหมือนจะกล่าวโทษว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเฮลิคอปเตอร์ โดยบอกว่า ไม่รู้ว่าทำไมเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพถึงบินไปอยู่ในทิศทางของเครื่องบิน และยืนยันว่า นักบินทั้งสองคนบนเที่ยวบิน 5342 ที่ให้บริการโดยพีเอสเอ แอร์ไลน์ ซึ่งอยู่ในเครือของอเมริกันแอร์ไลน์ มีประสบการณ์การบินมากพอ โดยกัปตันทำงานกับพีเอสเอเกือบ 6 ปี และนักบินอีกคนอยู่กับพีเอสเอเกือบ 2 ปี
เหตุการณ์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ชนกันครั้งนี้คล้ายกับอุบัติเหตุเมื่อ 43 ปีที่แล้ว โดยในวันที่ 13 มกราคม 2525 เครื่องบินของแอร์ฟลอริดา เที่ยวบิน 90 ที่ออกจากสนามบินวอชิงตัน แนชันแนล มุ่งหน้าไปฟอร์ต ลอเดอร์เดล ชนกับสะพานถนนสาย 14 ก่อนตกลงสู่แม่น้ำโปโตแมคที่เย็นเป็นน้ำแข็ง หลังทะยานออกจากสนามบินได้เพียงครู่เดียว ทำให้ผู้โดยสาร 70 คน และลูกเรือ 4 คน เสียชีวิตทั้งหมด เช่นเดียวกับอีก 4 คนในรถยนต์บนสะพาน
เหตุการณ์ล่าสุดเป็นภัยพิบัติทางการบินที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ นับจากวันที่ 12 พฤศจิกายน 2544 ที่เครื่องบินอเมริกันแอร์ไลน์ตกในนครนิวยอร์ก ทำให้ 260 คนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด