ทางการเกาหลีใต้ แถลงในวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิง, ตำรวจ และทีมนิติเวช เสร็จสิ้นภารกิจค้นหาทั้งภายในและรอบนอกส่วนหางเครื่องบินโดยสารของสายการบินเจจูแอร์ภายในสนามบินมูอันแล้วเมื่อคืนวันเสาร์ โดยส่วนหางเครื่องบินเป็นเพียงส่วนเดียวที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์หลังจากเครื่องบินชนกระแทกกำแพงและระเบิดไฟลุกท่วม หลังการลงจอดฉุกเฉินโดยล้อไม่กางเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2566
โศกนาฏกรรมเที่ยวบินเจจูแอร์คร่าชีวิต 179 ราย จากทั้งหมด 181 ราย บนเครื่องบิน โดยมีเพียงลูกเรือ 2 คน รอดชีวิต และเจ้าหน้าที่สามารเก็บกู้ชิ้นส่วนศพเหยื่อได้ทั้ง 179 ราย และ 151 ราย ได้รับการส่งคืนให้ครอบครัวแล้ว พร้อมกับสิ่งของส่วนตัวของเหยื่อที่สามารถยืนยันความเป็นเจ้าของแล้ว และชิ้นส่วนร่างอีก 25 รายจะส่งคืนครอบครัวในวันนี้
ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้ เปิดเผยในวันอาทิตย์ด้วยว่า เครื่องยนต์ทั้ง 2 ตัว ของเครื่องบินถูกเคลื่อนย้ายจากจุดเกิดเหตุไปยังโรงจอดเครื่องบินแล้ว โดยตัวหนึ่งถูกย้ายออกไปวันพฤหัสบดีและอีกตัวในวันศุกร์
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ถอดบทสนทนาจากคลิปบันทึกเสียงนาน 2 ชม.ที่บันทึกโดยกล่องดำบันทึกเสียงในห้องนักบินเสร็จแล้ว ซึ่งอาจช่วยให้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุ และชุดสอบสวนของกระทรวงฯ จะนำกล่องดำบันทึกข้อมูลการบินที่ได้รับความเสียหายไปมอบให้คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ ในวันจันทร์เพื่อช่วยตรวจวิเคราะห์
และทางการจะตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737-800 ทั้ง 101 ลำ ที่มี่อยู่ในประเทศ และเป็นของสายการบินเกาหลี 6 แห่ง เนื่องจากเป็นรุ่นเดียวกับลำที่ประสบเหตุในสนามบินมูอัน
ขณะนี้ทางการเกาหลีใต้และสหรัฐฯ รวมถึงบริษัทโบอิ้ง กำลังทำงานร่วมกันเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุ ขณะมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดจากนกชน และล้อลงจอดมีปัญหา และกำแพงคอนกรีตที่ปลายรันเวย์อาจเป็นปัจจัยเพิ่มความรุนแรงของการกระแทกทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก