เจอร์มัน กาลุชเชนโก รัฐมนตรีพลังงานของยูเครน ออกแถลงการณ์แจ้งว่า ยูเครนระงับการอนุญาตให้ลำเลียงก๊าซธรรมชาติรัสเซียผ่านท่อส่งในยูเครนแล้ว ซึ่งจะทำให้รัสเซียสูญเสียตลาดสำคัญ และสูญเสียรายได้อย่างหนัก
นอกจากนี้บริษัทก๊าซพรอม ผู้ผลิตพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ยืนยันว่า การส่งออกก๊าซธรรมชาติไปยุโรประงับลงแล้วตั้งแต่เวลา 8.00 น. ของวันพุธ (1 มกราคม 2568) ตามเวลามอสโก หลังจากยูเครนปฏิเสธต่อสัญญาข้อตกลงให้ส่งก๊าซธรรมชาติผ่านดินแดนยูเครนระยะเวลา 5 ปี ที่หมดอายุลงแล้ว
แต่คณะกรรมาธิการยุโรป ยืนยันว่า สหภาพยุโรปเตรียมตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงมานานกว่า 1 ปีแล้ว และชาติสมาชิกส่วนใหญ่จะไม่ได้รับผลกระทบ ขณะที่มอลโดวา ซึ่งไม่ใช่สมาชิกอียูกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก อย่างไรก็ตามรัสเซียยังสามารถส่งก๊าซให้ฮังการี, ตุรกี และเซอร์เบียผ่านทางท่อส่ง “เติร์กสตรีม” ผ่านทะเลดำได้
ส่วนมอลโดวา ซึ่งมีพรมแดนติดกับยูเครน และต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการหนุนหลังจากรัสเซีย ประกาศภาวะฉุกเฉินนาน 60 วันล่วงหน้าแล้วในเดือนนี้ เนื่องจากคาดว่ายูเครนจะปิดท่อส่งก๊าซ
อียูเพิ่มความพยายามลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย นับจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อต้นปี 2565 แต่สมาชิกบางประเทศทางฝั่งตะวันออก อย่าง สโลวาเกีย ยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย ทำให้รัสเซียยังมีรายได้เกือบ 5,000 ล้านยูโรต่อปี
ด้านนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ของสโลวาเกีย ซึ่งมักวิจารณ์จุดยืนของอียูที่สนับสนุนยูเครน บอกเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลจะพิจารณามาตรการตอบโต้ต่อยูเครน เช่น ระงับการจ่ายไฟฟ้าสำรองแก่ยูเครน หากไม่ปล่อยก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียผ่านยูเครน