แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า รัฐบาลได้สรรอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนให้กับยูเครนอีก 500 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงระบบยิงจรวดด้วยปืนใหญ่เคลื่อนที่คล่องตัวสูง หรือ ไฮมาร์ส (HIMARS, เครื่องกระสุน, โดรน และยานเกราะ
การประกาศความช่วยเหลือครั้งใหม่มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน เพิ่งจัดสรรความช่วยเหลือด้านความมั่นคง 988 ล้านดอลลาร์ และความช่วยเหลือด้านอาวุธ 725 ล้านดอลลาร์ในเดือนนี้ ซึ่งเป็นความพยายามเสริมอาวุธให้ยูเครนเป็นการทิ้งทวนก่อนพ้นตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ท่ามกลางความวิตกว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน
นอกจากแพ็กเกจความช่วยเหลือล่าสุด ไบเดนยังสามารถใช้อำนาจเบิกถอนของประธานาธิบดีที่ยังมีงบเกือบ 5,600 ล้านดอลลาร์ เพื่อเร่งจัดส่งอาวุธให้กับยูเครนโดยไม่ต้องผ่านการอนุมัติของสภาคองเกรส
และจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ บอกด้วยว่า ไบเดนจะยังคงจัดสรรความช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ยูเครนจนกว่ารัฐบาลจะพ้นวาระ
ขณะที่บทสัมภาษณ์ของของทรัมป์ที่ลงในนิตยสารไทม์ฉบับที่ประกาศให้ทรัมป์เป็นบุคคลแห่งปี ระบุว่า เขาไม่เห็นด้วยอย่างมากกับการตัดสินใจของไบเดนที่อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ อะแทคซิมส์ (ATACMS) โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย และบอกด้วยว่า เป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา แต่ก็ยืนยันว่า เขาจะไม่ทอดทิ้งยูเครน
การประกาศความช่วยเหลือครั้งใหม่ของไบเดนมีขึ้นในขณะที่ทหารรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้เมืองโปครอฟสก์ ในแคว้นโดเนตสก์ ของยูเครนมากขึ้น หลังใช้ความพยายามนานหลายเดือน โดยเมืองนี้เป็นศูนย์กลางของโลจิสติกส์ที่สำคัญสำหรับกองทัพยูเครน และหากถูกรัสเซียยึดได้ จะเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน
ขณะที่นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาหารือกับประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งทหารต่างชาติไปประจำการในยูเครน หากสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยมาครงเรียกร้องให้หาทางออกเพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของยูเครนและสหภาพยุโรป