svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ค้นทำเนียบ ปธน.เกาหลีใต้สะดุด หลัง จนท.ไม่ค่อยร่วมมือ

ตำรวจเกาหลีใต้ใช้ความพยายามเข้าตรวจค้นทำเนียบประธานาธิบดีหลายชั่วโมง หลังหน่วยงานอารักขาประธานาธิบดีไม่ให้ความร่วมมือ แต่ยุติภารกิจแล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ทำเนียบยอมมอบหลักฐานให้เล็กน้อย

ตำรวจชุดสอบสวน 18 นาย เดินทางถึงทำเนียบประธานาธิบดีตั้งแต่ก่อนเที่ยงวันพุธ (11 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อตรวจค้นหาหลักฐานที่เกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งรวมถึง บันทึกการประชุมคณะรัฐมนตรีช่วงก่อนประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ประกาศค่ำสั่งเมื่อคืนวันที่ 3 ธันวาคม

แต่จนถึง 16.00 น. ชุดสอบสวนก็ยังไม่สามารถเข้าไปในอาคารที่ทำงานของประธานาธิบดีได้ และยังคงพยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาประธานาธิบดีที่ต้องการทราบรายละเอียดของการตรวจค้น โดยตามหมายค้นที่ระบุว่า นายยุนเป็นผู้ต้องสงสัย ต้องการตรวจค้นส่วนที่ทำงานของประธานาธิบดี ห้องประชุมคณะรัฐมนตรี อาคารหน่วยอารักขาประธานาธิบดีและสำนักงานประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม 

ตอนแรกมีรายงานว่า นายยุนไม่ได้อยู่ในอาคารในช่วงเวลาที่ตำรวจพยายามเข้าตรวจค้น แต่ต่อมาข่าวดังกล่าวไม่อาจยืนยันได้ และสุดท้ายตำรวจประกาศยุติความพยายามตรวจค้นแล้ว หลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบยอมมอบเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ ให้เพียงเล็กน้อย

ค้นทำเนียบ ปธน.เกาหลีใต้สะดุด หลัง จนท.ไม่ค่อยร่วมมือ

อัยการประกาศให้นายยุนเป็นผู้ต้องสงสัยคดีกบฏและใช้อำนาจในทางมิชอบ และกระทรวงยุติธรรมสั่งห้ามออกนอกประเทศระหว่างมีการสอบสวน โดยเขากำลังถูกสอบสวนจากทั้งตำรวจ สำนักงานอัยการ และสำนักงานสอบสวนคดีทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง

ล่าสุดวู วอน ชิก ประธานรัฐสภาประกาศคำสั่งในวันนี้ให้รัฐสภาดำเนินการสอบสวนกรณีประธานาธิบดียุนประกาศกฎอัยการศึก ที่บังคับใช้ได้เพียง 6 ชม. ก่อนถูกยกเลิก และเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสวนโดยเร็ว รวมทั้งบอกว่า จำเป็นต้องให้ประธานาธิบดียุนเข้าให้การด้วย

การตัดสินใจมีขึ้นหลังจากผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษให้การต่อคณะกรรมาธิการกลาโหมของรัฐสภาว่า ประธานาธิบดีสั่งให้เขาขัดขวางไม่ให้สมาชิกรัฐสภาเข้าประชุมเพื่อลงมติให้ยกเลิกประกาศกฎอัยการศึก โดยสั่งให้พังประตูและลากตัว สส.ออกไป

ส่วนพรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก เตรียมยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งใหม่เข้าสู่สภาในวันพฤหัสบดี เพื่อให้มีการลงมติในเวลา 17.00 น. ของวันเสาร์ หลังจากความพยายามลงมติครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมล้มเหลว เพราะไม่ครบองค์ประชุมเนื่องจากสมาชิกพรรคพลังประชาชนที่เป็นพรรครัฐบาลวอล์กเอาต์จากห้องประชุม โดยมีเพียง 3 คนร่วมโหวตสนับสนุนญัตติ