ลุยจิ แมนจิโอนี วัย 26 ปี ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมไบรอัน ธอมป์สัน ซีอีโอของบริษัทประกันสุขภาพ "ยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์" ถูกนำตัวขึ้นศาลในเมืองอัลทูนา รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อวันอังคาร เพื่อพิจารณาเรื่องการส่งตัวเขาไปดำเนินคดีที่รัฐนิวยอร์ก เนื่องจากอัยการของเกาะแมนฮัตตัน ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ออกหมายจับเขาในข้อหาฆ่าคนตาย แต่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว
ทนายความของแมนจิโอนี บอกว่า ลูกความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงทอมป์สัน ที่ด้านนอกโรงแรมฮิลตันในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม และจะสู้คดีเพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมและข้อหาเกี่ยวกับปืนและปลอมแปลงเอกสารที่รัฐนิวยอร์ก และแมนจิโอนีจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาที่อัยการรัฐเพนซิลเวเนียยื่นฟ้องเรื่องปืนและบัตรประจำตัวปลอม ที่ตำรวจพบในเป้สะพายหลังขณะเข้าจับกุมเขาที่เมืองอัลทูนาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม
ขณะที่แคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ยืนยันว่า เตรียมทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อนำตัวแมกจิโอนีกลับไปดำเนินคดีที่นิวยอร์กให้ได้
คดีของแมนจิโอนีได้รับความสนใจจากสังคมอเมริกัน เมื่อข้อมูลส่วนตัว ระบุว่า เขาเติบโตในครอบครัวที่เป็นเจ้าของธุรกิจมากมายในรัฐแมรีแลนด์ และจบการศึกษาจากมหาวิทยารัฐเพนซิลเวเนีย ที่เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมเขาจึงก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงอย่างอุกอาจ
มีรายงานว่า ตอนที่ตำรวจพาตัวลงจากรถเพื่อเดินเข้าศาลในเมืองอัลทูนาเมื่อวันอังคาร แมนจิโอนี ซึ่งถูกสวมกุญแจมือ ตะโกนว่า "มันเป็นการขาดความเห็นอกเห็นใจโดยสิ้นเชิง มันเป็นการดูถูกสติปัญญาชาวอเมริกัน มันเป็นประสบการณ์ชีวิต"
ชุดสอบสวนกำลังตรวจสอบการเคลมเงินประกันเมื่อแมกจิโอนีได้รับบาดเจ็บที่หลังเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 หลังพบว่า เขาบ่นเรื่องอาการปวดหลังในข้อเขียนหลายชิ้น โดยจะตรวจสอบว่า เขาถูกปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมจากบริษัทประกันหรือไม่
นอกจากนี้ตำรวจนิวยอร์กประเมินแนวคิดของนายแมนจิโอนีผ่านสิ่งที่เขาโพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า ผู้ต้องสงสัยมีความโกรธแค้นต่อธุรกิจประกันสุขภาพและความโลภของภาคธุรกิจโดยรวม เขามองว่าการสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของบริษัทเป็นการท้าทายโดยตรงต่อเกมอำนาจ
นอกเหนือจากแถลงการณ์ยาว 3 หน้าเขียนด้วยลายมือหัวข้อ “claim of responsibility” ที่พบขณะจับกุมตัวเขา เจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบสมุดโน้ตของเขาที่มีข้อความเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการฆ่า และระบุด้วยว่า การใช้ระเบิดกับเป้าหมายอาจทำให้ผู้บริสุทธ์เสียชีวิต แต่การยิงจะเจาะจงเป้าหมายได้มากกว่า รวมถึงยังบอกด้วยว่า คงจะดีกว่าถ้าจะฆ่าซีอีโอในการประชุมของเขาเอง