กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้มีคำสั่งในวันจันทร์ (9 ธันวาคม) ห้ามประธานาธิบดียุน ซอก ยอล เดินทางออกนอกประเทศตามคำร้องขอของสำนักงานสอบสวนคดีทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง หรือ ซีไอโอ โดยครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่มีคำสั่งห้ามประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งอยู่ออกนอกประเทศ ปัจจุบันนายยุนตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากการสอบสวนของทั้งฝ่ายตำรวจ อัยการ และซีไอโอ เกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันอังคารก่อนยอมยกเลิกในเช้ามืดวันพุธ หลังรัฐสภาลงมติให้ยุติการบังคับใช้
ขณะที่เจ้าหน้าที่แผนกสอบสวนแห่งชาติในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอบคำถามสื่อถึงความเป็นไปได้ในการควบคุมตัวประธานาธิบดียุนระหว่างการสอบสวนว่า อาจเป็นไปได้หากเข้าเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งยังต้องมีการตรวจพิจารณาก่อน โดยส่วนใหญ่จะมีการสั่งควบคุมตัวฉุกเฉินเมื่อผู้ต้องสงสัย ที่เชื่อว่า ก่ออาชญากรรมร้ายแรง มีแนวโน้มทำลายหลักฐานหรือหลบหนี แต่ชุดสอบสวนต้องขอหมายจับอย่างเป็นทางการจากศาลภายใน 48 ชม.
ขณะเดียวกันในวันนี้คณะกรรมาธิการนิติบัญญัติและตุลาการของรัฐสภาลงมติอนุมัติร่างกฎหมายแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาพิเศษถาวร เพื่อสอบสวนคดีกบฏกับประธานาธิบดียุนเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึก และพรรคประชาธิปไตย หรือ พรรคดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านใหญ่ที่สุด ต้องการให้มีการลงมติอนุมัติร่างกฎหมายในที่ประชุมรัฐสภาในวันอังคารนี้ โดยพรรคไม่มั่นใจว่า หน่วยงานทั้ง 3 หน่วยจะสามารถสอบสวนคดีอย่างละเอียด
เมื่อวันอาทิตย์ ปัก ชาน แท สมาชิกพรรคดีพี ที่เป็นประธานวิปฝ่ายค้านในรัฐสภา วิจารณ์ความพยายามของพรรคพลังประชาชนหรือ พีพีพี ที่จะให้นายกรัฐมนตรีฮัน ดัก ซู บริหารประเทศแทนประธานาธิบดียุน ซึ่งจะถูกระงับการใช้อำนาจทั้งกิจการในประเทศและต่างประเทศจนกว่าจะลาออกจากตำแหน่ง โดยบอกว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และการรัฐประหารรอบสอง นอกจากนี้ สส. อีกคนของพรรค บอกว่า นายฮัน ดอง ฮุน หัวหน้าพรรครัฐบาลไม่มีอำนาจตัดสินใจกระทำการดังกล่าว
ขณะที่กระทรวงกลาโหม ยืนยันในวันนี้ว่า ประธานาธิบดียุนยังคงมีฐานะเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประเทศ ซึ่งหมายความว่า หากมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับนยายต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ในทางทฤษฎีแล้ว เขายังมีอำนาจตัดสินใจได้
ประธานาธิบดียุนรอดพ้นการลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งเมื่อวันเสาร์ หลังจากพรรคพีพีพีบอยคอตต์การประชุม โดยมีเพียง 3 คนร่วมโหวตสนับสนุนญัตติเช่นเดียวกับ สส.ฝ่ายค้าน แต่ก็ยังไม่ถึง 2 ใน 3 ของสภาที่จะทำให้ญัตติผ่านการเห็นชอบได้ แต่พรรคดีพี ยืนยันจะยื่นญัตติใหม่ในวันพุธ และลงมติในวันเสาร์