กระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์ (8 ธันวาคม) ว่า หลังจากมีการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสู้รบในประเทศ อัสซาดตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว พร้อมกับขอให้มีการถ่ายโอนอำนาจด้วยความสงบเรียบร้อย แต่แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า อัสซาดอยู่ที่ใด และชี้แจงว่า รัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาเกี่ยวกับการลาออกของอัสซาด
รัสเซียยังแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในซีเรีย และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายละเว้นการใช้ความรุนแรง และคลี่คลายปัญหาทุกอย่างผ่านวิถีทางการเมือง ซึ่งรัสเซียได้ติดต่อกับทุกกลุ่มในฝั่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ส่วนฐานทัพรัสเซียในซีเรียอยู่ในขั้นเฝ้าระวังระดับสูง แต่ไม่เป็นภัยคุกคามต่อพวกเขาในเวลานี้
การยืนยันของรัสเซียมีขึ้นหลังจากกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของกลุ่มฮายาต ทาห์รี อัล-ชาม หรือ เอชทีเอส สามารถเข้ายึดกรุงดามัสกัส เมืองหลวงในเช้าวันนี้ และประกาศสิ้นสุดอำนาจของรัฐบาลภายใต้การนำของอัสซาด ผู้นำทรราช กลุ่มกบฏซีเรียเริ่มปฏิบัติการสายฟ้าแลบเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน และสามารถยึดเมือง อเลปโป, ฮามา, ฮอมส์ และดามัสกัสได้อย่างรวดเร็ว
กลุ่มกบฏซึ่งเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ของทางการประกาศการยึดครองดามัสกัส และระบุว่า อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-จูลานี ผู้นำกลุ่มเอชทีเอส อยู่ในกรุงดามัสกัสแล้ว และอัล-จูลานี ซึ่งมีชื่อจริงว่า อาห์เหม็ด อัล-ชารา เรียกร้องให้นักรบฝ่ายต่อต้านช่วยกันปกป้องและคุ้มครองสถาบันและทรัพย์สินของสาธารณะ ที่เป็นของประชาชนซีเรีย ขณะเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองหลวง เขาบอกด้วยว่า หน่วยงานทั้งหมดของรัฐจะยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรีที่ได้รับแต่งตั้งในสมัยของอัสซาดจนกว่าจะมีการส่งมอบอำนาจอย่างเป็นทางการ
ซีเรียเผชิญสงครามกลางเมืองยาวนาน 13 ปี ที่กองกำลังฝ่ายกบฏหลายกลุ่มพยายามโค่นล้มนายอัสซาดในปี 2554 ขณะที่รัฐบาลได้รับการช่วยเหลือจากทั้งรัสเซียและอิหร่าน ทำให้การสู้รบสงบลงในปี 2565 แต่ยังไม่ยุติอย่างเป็นทางการ
การล่มสลายของระบอบอัสซาด ที่ยาวนาน 50 ปี ตั้งแต่สมัยของประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของอัสซาด ทำให้ชาวซีเรียทั้งในประเทศและทั่วโลกออกมาเฉลิมฉลองด้วยความยินดี แต่ก็สร้างความกังวลต่อสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง
กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ออกแถลงการณ์ว่า ชะตาของซีเรียควรเป็นความรับผิดชอบของประชาชนซีเรียเท่านั้น และไม่ควรมีการกำหนดหรือการแทรกแซงจากต่างประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องยุติการสู้รบโดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้, ป้องกันการก่อการร้าย และเริ่มการเจรจาระดับชาติโดยมีตัวแทนจากทุกกลุ่มในสังคมซีเรียเข้าร่วม เพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่เป็นตัวแทนของประชาชนทุกกลุ่ม นอกจากนี้อิหร่านจะหารือกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะในภูมิภาค และช่วยเหลือฟื้นฟูความมั่นคงและเสถียรภาพในซีเรีย
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล โพสต์ใน X ว่า สถานการณ์ในซีเรียทำให้วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์สำหรับตะวันออกกลาง การล่มสลายของอัสซาดเป็นโอกาสยิ่งใหญ่ แต่ก็เต็มไปด้วยอันตราย แม้เขาบอกว่า อิสราเอลปรารถนาดำเนินความสัมพันธ์อย่างสันติกับซีเรีย แต่ก็พร้อมปกป้องประเทศจากภัยคุกคามหากจำเป็น