โฆษกพรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี แถลงเมื่อค่ำวันเสาร์ (7 ธันวาคม)ว่า พรรคตัดสินใจจะจัดประชุมวาระพิเศษทุกสัปดาห์ และยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดี เพื่อเลี่ยงกฎข้อบังคับที่ห้ามยื่นร่างกฎหมายฉบับเดียวกันในสมัยประชุมเดียวกัน โดยพรรคจะยื่นร่างญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งใหม่ในวันพุธ (11 ธันวาคม) และลงมติในวันเสาร์ (14 ธันวาคม)
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังรัฐสภาจัดการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากการใช้อำนาจโดยมิชอบโดยประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันอังคาร ก่อนยกเลิกในเช้าวันพุธ แต่ญัตติได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 195 เสียง ไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน 3 จากทั้งหมด 300 เสียงในสภา ทำให้ไม่ผ่านความเห็นชอบ
สาเหตุที่ญัตติไม่ผ่านเป็นเพราะสมาชิกสภาเกือบทั้งหมดของพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี วอล์กเอาต์จากห้องประชุม โดยมีเพียง 3 คน ที่โหวตสนับสนุนญัตติบวกกับอีก 192 เสียงจากฝ่ายค้าน
ก่อนหน้านี้พรรคพีพีพีแสดงจุดยืนจะไม่สนับสนุนญัตติถอดถอน เพราะจะหมายถึงว่าต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ และแน่นอนว่าพรรคจะพ่ายแพ้ ในขณะที่อี แจ มยอง หัวหน้าพรรคดีพี แพ้นายยุนอย่างฉิวเฉียดในการเลือกตั้งเมื่อปี 2565 มีโอกาสคว้าชัยชนะ หากจัดการเลือกตั้งใหม่ในเวลานี้
พรรคพีพีพีไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยปี 2559 ที่การถอดถอนประธานาธิบดีปัก กึน เฮ นำไปสู่ความแตกแยกภายในพรรคฝ่ายอนุรักษ์นิยม และชัยชนะของพรรคฝ่ายเสรีนิยมในการเลือกตั้งใหม่ในปี 2560
และแม้นายยุนรอดพ้นจากการถอดถอน แต่การตัดสินใจผิดพลาดที่ประกาศกฎอัยการศึกจนสร้างความวุ่นวายในประเทศและกระแสประท้วงขับไล่ในขณะนี้ ทำให้เกิดคำถามว่าเขายังสามารถบริหารประเทศในระยะเวลาที่เหลืออีก 2 ปีครึ่งได้หรือไม่ โดยเสี่ยงเผชิญการดำเนินคดีทางกฎหมายและความพยายามของฝ่ายค้านที่จะยื่นถอดถอนครั้งใหม่
ขณะที่ประชาชนเกือบ 150,000 คน ที่ผิดหวังการลงมติของสภา ชุมนุมที่ด้านนอกสภาเพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนและจับกุมนายยุน ส่วนผู้สนับสนุนพรรคพีพีพีเกือบ 20,000 คน ชุมนุมที่จัตุรัสกวางฮวามุน
นายฮัน ดอง ฮุน หัวหน้าพรรคพีพีพี ให้ความมั่นใจแก่ประชาชนหลังการลงมติในสภาว่า นายยุนจะถูกระงับการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะลาออก และพรรคจะดำเนินการเพื่อให้ประธานาธิบดีลงจากตำแหน่งด้วยความสงบเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งประธาธิบดีก็บอกแล้วว่าพร้อมน้อมรับการตัดสินใจของพรรค
แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า พรรคพีพีพีพยายามซื้อเวลาจนกว่านายอี หัวหน้าพรรคดีพี จะหลุดจากสนามเลือกตั้ง โดยนายอีเสี่ยงถูกตัดสิทธิเป็นผู้สมัครประธานาธิบดี หลังจากศาลกรุงโซลตัดสินเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนว่ามีความผิดจากการกล่าวเท็จเรื่องข้อกล่าวหาคอร์รัปชันช่วงการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2565 และให้รับโทษจำคุก 1 ปี โดยรอลงอาญา 2 ปี
นอกจากนี้นักวิเคราะห์ คาดว่า ภาวะชะงักงันทางการเมืองในประเทศจะยืดเยื้อยาวนาน และเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบหนักจากการไร้เสถียรภาพ และพลังประชาชนจะอยู่เหนือทุกสิ่งในที่สุด โดยเชื่อว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่โกรธแค้นจะไม่ยอมล้มเลิกความพยายามถอดถอนนายยุนพ้นตำแหน่ง และสุดท้ายแล้วนายยุนและพรรคจะเผชิญการลงโทษอย่างหนัก