ฮัน ทง ฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล เผยกับสื่อในวันพฤหัสบดี (5 ธันวาคม) ว่า เขาต้องการให้ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ลาออกจากพรรคและให้ความมั่นใจว่า สมาชิกรัฐสภาของพรรคจะไม่สนับสนุนให้ญัตติถอดถอนประธานาธิบดีผ่านความเห็นชอบในสภา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความโกลาหลที่ไม่มีการเตรียมรับมือแก่ประชาชนและผู้สนับสนุน
นอกจากนี้ชู คยอง โฮ วิปรัฐบาล ประกาศว่า สส.ของพรรคทั้ง 108 คน จะออกเสียงคัดค้านญัตติถอดถอนประธานาธิบดี
แต่นายฮัน ยืนยันว่า การตัดสินใจนี้ไม่ได้เป็นการปกป้องการประกาศกฎอัยการศึกที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญของประธานาธิบดียุน และผู้มีส่วนสร้างความวุ่นว่ายแก่สาธารณชนผ่านการประกาศกฎอัยการศึกที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ รวมถึง ประธานาธิบดี จะต้องรับผิดชอบต่อผลการกระทำ
พรรคประชาธิปไตย หรือ ดีพี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก กับอีก 5 พรรคเล็กในซีกฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดียุนเมื่อวันพุธ และพรรคดีพี เผยวันนี้ว่า จะมีการลงมติในสภาในเวลา 19.00 น. ของวันเสาร์ (7 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 17.00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาไทย
ญัตติถอดถอนจะผ่านความเห็นชอบได้ต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 จากทั้งหมด 300 เสียง ซึ่งพรรคฝ่ายค้านมีเสียงรวมกันทั้งหมด 191 เสียง จึงต้องอาศัยเสียงสนับสนุนอย่างน้อย 8 เสียง จากพรรคพีพีพี จึงจะผ่านความเห็นชอบได้
และหากสภามีมติถอดถอน จะส่งผลให้นายยุนต้องถูกพักงานชั่วคราวระหว่างรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ และหากผู้พิพากษามีคำตัดสินรับรองการถอดถอน จะทำให้นายยุนต้องพ้นตำแหน่ง และจะต้องจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีภายใน 60 วัน
นายยุนประกาศบังคับใช้กฎอัยการศึกเมื่อคืนวันอังคาร (3 ธันวาคม) โดยอ้างว่าพรรคฝ่ายค้านวางแผนก่อกบฏ แต่ยอมยกเลิกในอีกเกือบ 6 ชม. ต่อมา หลังจากรัฐสภามีมติด้วยเสียง 190 เสียง คัดค้านการประกาศกฎอัยการศึก
อี แจ มยอง หัวหน้าพรรคดีพี กล่าวในการประชุมพรรค โดยยืนยันจะถอดถอนนายยุน เพราะมองว่า การประกาศกฎอัยการศึกเป็นความพยายามก่อรัฐประหาร และกล่าวหาว่า นายยุนพยายามรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จเหมือนกษัตริย์ ที่จะดึงสถาบันต่าง ๆ ของชาติและรัฐธรรมนูญให้มาอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเอง พร้อมกับเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคพีพีพี แสดงความรับผิดชอบครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการไม่ปล่อยให้พรรคกลายเป็นผู้สมคบคิดทรยศต่อชาติ
ขณะที่ผลสำรวจที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดี ระบุว่า ผู้ตอบคำถาม 73.6% จาก 504 คน สนับสนุนการถอดถอนประธานาธิบดียุน หลังจากการประกาศกฎอัยการศึกสร้างความวุ่นวายทางการเมืองและความผันผวนแก่ตลาดเงินและตลาดหุ้น ขณะที่อีก 24% คัดค้านการถอดถอน นอกจากนี้ผู้ตอบคำถาม 70% เห็นด้วยว่า การกระทำของนายยุนเข้าข่ายการทรยศต่อชาติ และ 25% ไม่เห็นด้วย