ผู้ประท้วงรวมตัวจุดเทียนประท้วงที่จัตุรัสในกรุงโซล ก่อนเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดีในช่วงเย็น เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล ลาออกจากตำแหน่ง สืบเนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อคืนวันอังคาร
ผู้จัดการชุมนุมประกาศว่า ประธานาธิบดียุนเตรียมแถลงต่อทั้งประเทศในเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น แต่เชื่อว่า เขาไม่น่าจะกล่าวขอโทษสำหรับสิ่งที่ได้ทำลงไป และพวกเขาจะจัดชุมนุมทุกวันทำการในเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น จนกว่าประธานาธิบดียุนจะยอมลาออก
นอกจากนี้มีรายงานว่า สหภาพแรงงานและองค์กรภาคประชาสังคมนัดชุมนุมหรือเดินขบวนในหลายเมืองทั่วประเทศช่วงค่ำวันนี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงเมืองกวางจู, เมืองซุนชอน, เมืองอูลซาน, เมืองชุนชอน และเกาะเชจู
ขณที่ประธานาธิบดียุน ประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรี ฮัน ดัก ซู และบรรดาแกนนำของพรรคพลังประชาชน หรือ พีพีพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ในบ่ายวันพุธ เพื่อหารือแนวทางการรับมือ หลังจากพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติถอดถอนประธานาธิบดีออกจากตำแหน่งที่สำนักงานรัฐสภา และเตรียมเสนอญัตติต่อที่ประชุมสภาในวันพฤหัสบดี และคาดว่าจะมีการลงมติอย่างเร็วในวันศุกร์ หรือ เสาร์
การประกาศกฎอัยการศึกของเขาอ้างเหตุผลเพื่อยับยั้งการกระทำของพรรคฝ่ายค้านที่มุ่งโค่นล้มรัฐบาล และปราบปรามกองกำลังฝักใฝ่เกาหลีเหนือ รวมถึงปกป้องเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่กลับถูกประณามทันทีว่า เป็นการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดรัฐธรรมนูญ
นักวิเคราะห์ มองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดต่อประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ในรอบหลายสิบปี อาจทำลายชื่อเสียงของเกาหลีใต้ในฐานะชาติประชาธิปไตย ยิ่งกว่าเหตุการณ์จลาจลบุกรัฐสภาใสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 โดยเป็นการกระทำที่เกินกว่าขอบเขตทางกฎหมาย และการประเมินทางการเมืองที่ผิดพลาด สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศโดยไม่จำเป็น รวมถึงยังเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองของนายยุน
การตัดสินใจของนายยุนถูกมองว่า อาจมีแรงกดดันจากการที่เขากลายเป็นประธานาธิบดีเป็ดง่อย รัฐบาลมีเสียงข้างน้อยในรัฐสภา ทำให้ไม่สามารถผ่านกฎหมายได้ตามที่ต้องการ และทำได้เพียงใช้อำนาจยับยั้งร่างกฎหมายที่ผลักดันโดยฝ่ายค้านเท่านั้น
ในสัปดาห์นี้พรรคฝ่ายค้านพยายามตัดลดตัวเลขงบประมาณที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการงบประมาณรัฐสภา และยื่นญัตติถอดถอนคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าอัยการ
นอกจากนี้นายยุนยังมีคะแนนนิยมตกต่ำอย่างมากเหลือเพียงไม่ถึง 17% ขณะที่เผชิญเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับคอร์รัปชันหลายเรื่องในปีนี้ ซึ่งรวมถึงกรณีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งรับกระเป๋าดิออร์เป็นของขวัญ ทำให้เขาจำใจต้องออกมาแถลงขอโทษต่อประชาชนทางทีวีเมื่อเดือนที่แล้ว แต่เขาปฏิเสธการขยายผลการสอบสวนเรื่องนี้ตามที่พรรคฝ่ายค้านเรียกร้อง