ขบวนผู้ประท้วงชาวเมารีและผู้สนับสนุน ที่เดินทางผ่านหลายเมืองจากตอนเหนือของประเทศรวมเวลานาน 9 วัน มารวมตัวที่จุดสุดท้ายหน้าอาคารรัฐสภาในกรุงเวลลิงตันในวันอังคาร (19 พฤศจิกายน) และตำรวจคาดว่า มีผู้เข้าร่วมราว 42,000 คน ซึ่งเป็นหนึ่งในการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ หลายคนสวมชุดที่เป็นสีของธงเมารี ได้แก่ แดง ดำ และขาว
ผู้ประท้วงต้องการคัดค้านร่างกฎหมาย Treaty Principles ที่ต้องการตีความใหม่เกี่ยวกับหลักการบางข้อในสนธิสัญญาไวตังกิ Treaty of Waitangi สนธิสัญญาอายุ 184 ปีฉบับนี้ จัดทำขึ้นระหว่างเจ้าอาณานิคมอังกฤษและผู้นำชาวเมารี 500 คน ในปี ค.ศ. 1840 เพื่อกำหนดหลักการเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและชาวเมารี โดยให้สิทธิอย่างกว้างขวางในการรักษาดินแดนและปกป้องผลประโยชน์ของชาวเมารี เพื่อแลกกับการยอมอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ
แต่นักวิจารณ์หลายคน มองว่า การตีความใหม่อาจเป็นการลิดรอนสิทธิของชาวเมารี ขณะที่ผู้สนับสนุนให้มีการแก้ไข มองว่า สนธิสัญญาไม่ได้สะท้อนถึงสังคมพหุวัฒนธรรมในปัจจุบัน และต้องการให้แก้ไขบางถ้อยคำในสนธิสัญญาก่อตั้งประเทศ ประกาศใช้เป็นกฎหมาย และขยายครอบคลุมชาวนิวซีแลนด์ทุกคน
การโต้เถียงและความแตกแยกเกี่ยวกับประเด็นนี้จะยังคงยืดเยื้อต่อไป จนกว่าจะมีการแปรญัตติครั้งที่ 2 ในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ค่อนข้างชัดเจนว่าร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่น่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอผ่านความเห็นชอบและบังคับใช้เป็นกฎหมายได้