ภาพที่เห็นอยู่ด้านบน คือภาพถ่ายที่ถูกระบุว่าเป็นของนักข่าว เคนนี่ ชาร์ป Kenny Sharpe นักข่าวของ CBC เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้ถ่ายภาพเหล่านี้ที่ St John's เเละเขียนบน Twitter บอกว่า
เขาไม่รู้ว่ากำลังถ่ายภาพอะไรในเวลานั้น มันกลายเป็นเรือดำน้ำไททันที่ถูกลากออกไปในทะเล
ภาพแสดงถึงเรือดำน้ำขนาดเล็กที่ถูกลากโดยเรือ Polar Prince ขณะที่ลูกเรือมุ่งหน้าไปยังจุดที่เรือไททานิคที่อับปาง
สำนักข่าว BBC รายงานว่า การค้นหาเรือดำน้ำที่หายไประหว่างทริปชมซากเรือไททานิคเข้าสู่ช่วงวิกฤติ คาดว่าออกซิเจนหมดวันนี้
"เราต้องมองโลกในแง่ดีและมีความหวัง" เจมี่ เฟรเดอริก (Jamie Frederick) กัปตันหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะยังคงเป็นปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย แม้ลูกเรือของเรือดำน้ำที่หายไปคาดว่ามีออกซิเจนเหลืออยู่ไม่ถึง 10 ชั่วโมง จากการประมาณการครั้งก่อน
ผู้เชี่ยวชาญด้านยารักษาโรคความดันเลือดสูง ในเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์ ดร. เคนเนธ เลเดซ อธิบายปัจจัยบางอย่างที่มีผลต่อผู้ที่อยู่บนเรือไททัน เขากล่าวว่า
การมีชีวิตรอดหลังจากออกซิเจนหมดจะขึ้นอยู่กับระบบเผาผลาญของแต่ละคน และบางคนอาจอยู่ได้นานกว่าคนอื่นๆ กิจกรรมมากเกินไปอาจทำให้การเผาผลาญเพิ่มขึ้นและสร้างคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นด้วย
ข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. ตามเวลาไทย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เรือพิเศษ 10 ลำและเรือดำน้ำระยะไกลหลายลำจะเข้าร่วมการค้นหาในวันนี้ เพิ่มปฏิบัติการมากกว่า 2 เท่า เพราะคิดว่ากระแสน้ำใต้ทะเลอาจดึงเรือดำน้ำไททันออกจากบริเวณที่จมลงไปได้ และเรือฝรั่งเศสพร้อมหุ่นยนต์ที่สามารถเข้าถึงก้นทะเลได้อย่างง่ายดายซึ่งอยู่ลึกลงไปเกือบ 4 กิโลเมตรก็เข้าร่วมการค้นหา แต่กัปตันที่นำการค้นหายังกล่าวว่า "เราไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน"
ขอบเขตการค้นหาได้ขยายขึ้นเนื่องจากตรวจพบเสียงในวันอังคารและวันพุธ ตอนนี้ครอบคลุมพื้นที่ 2 เท่าของคอนเนตทิคัต และพื้นที่ใต้ผิวดินลึก 2.5 ไมล์ (4 กม.) และไม่ชัดเจนว่าเสียงกระเเทกที่ได้ยินมาจากไหน ในขณะที่ The Polar Prince เรือแม่ของเรือดำน้ำไททัน ยังคงเป็นศูนย์บัญชาการสำหรับการค้นหาโดยตั้งอยู่ใกล้กับซากเรือไททานิค และยานพาหนะควบคุมระยะไกล (ROV) ที่ติดตั้งกล้องจะสแกนความลึกของก้นทะเลตลอดทั้งวัน
ไขข้อสงสัย 5 คนบนเรือดำน้ำ Titan ที่สูญหายหลังดำดิ่งชมซากเรือไททานิค คือใครกันบ้าง?
ทีมค้นหากำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อค้นหาเรือดำน้ำไททัน (Titan) เรือดำน้ำเชิงพาณิชย์ ของบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชันส์ (OceanGate Expeditions) เพื่อการเที่ยวชม ซากเรือไททานิค ที่จมอยู่ใต้มหาสมุทรแอตแลนติกนอกชายฝั่งแคนาดา หายไประหว่างการดำลงไปที่ซากเรือไททานิคเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
การติดต่อกับเรือดำน้ำขาดหายไปเมื่อวันอาทิตย์เนื่องจากเรือไททานิคจมดิ่งลงไป 3,800 เมตรนอกชายฝั่งนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา เครื่องบินและเรือระหว่างประเทศได้เข้าร่วมการค้นหา ปฏิบัติการค้นหาครั้งใหญ่ที่ดำเนินการจากเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ กำลังพยายามค้นหาตำแหน่งเรือและคนทั้ง 5 คนบนเรือ
แม้ว่าจะไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อของผู้ที่อยู่บนเรือดำน้ำไททัน เเต่รายชื่อถูกเปิดเผยผ่านโซเชียลมีเดียโดยเพื่อนๆ เเละครอบครัวของพวกเขา สำนักข่าวบีบีซีได้รายงานเกี่ยวกับรายละเอียดของคนที่อยู่บนเรือ
หากคุณเพิ่งติดตามเรื่องนี้ นี่คือการเตือนสั้นๆ ว่าผู้โดยสาร 5 คนบนเรือดำน้ำที่หายไปคือใครบ้าง และนี่คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขา
ฮามิช ฮาร์ดิง
นักผจญภัยชาวอังกฤษวัย 58 ปี บริหารบริษัท Action Aviation ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในดูไบ เขาไปเยือนขั้วโลกใต้หลายครั้ง ครั้งหนึ่งกับอดีตนักบินอวกาศ บัซ อัลดริน และบินขึ้นสู่อวกาศในปี 2565 บนเที่ยวบินที่ 5 ของยานบลูออริจิน
เขาเป็นเจ้าของสถิติกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดถึง 3 รายการ ซึ่งรวมถึงการใช้เวลานานที่สุดที่ระดับความลึกของมหาสมุทร ระหว่างการดำน้ำไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของร่องลึกสมุทรมาเรียนา
ในฤดูร้อนปี 2022 เขาบอกกับนิตยสาร Business Aviation ว่าเขาเติบโตในฮ่องกง มีคุณสมบัติเป็นนักบินในช่วงกลางทศวรรษ 1980 ขณะที่เรียนอยู่ที่เคมบริดจ์ และตั้งบริษัทเครื่องบินหลังจากสร้างรายได้จากซอฟต์แวร์ธนาคาร
เขายังกล่าวอีกว่า การดำน้ำของเรือไททานิกมีขึ้นในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2565 แต่เกิดความล่าช้าเนื่องจาก เรือดำน้ำได้รับความเสียหายจากการดำน้ำครั้งก่อนหน้า เเต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
มุมมองเกี่ยวกับสำรวจ เขากล่าวว่า
"มุมมองของผม ความเสี่ยงเหล่านี้มีการคำนวณไว้แล้ว และเข้าใจเป็นอย่างดีก่อนที่เราจะเริ่ม"
เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว เขากล่าวบนเฟซบุ๊กว่าภารกิจนี้
"น่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในปี 2566" เนื่องจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ในนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ซึ่งภารกิจเริ่มต้นขึ้น ต่อมาลูกเลี้ยงของเขากล่าวในโพสต์ที่ตอนนี้ถูกลบบนเฟซบุ๊กว่า พ่อของเขา หายตัวไปในเรือดำน้ำ
แพทริก วูดเฮด ผู้ก่อตั้งบริษัททัวร์ White Desert Antarctica ของอังกฤษ กล่าวว่า นายฮาร์ดิงเป็นนักสำรวจการบินที่เหลือเชื่อและส่งคำอธิษฐานของเขาไปยังลินดา ภรรยาและลูกชายของนายฮาร์ดิง
นักบินอวกาศของ Nasa ที่เกษียณแล้ว บอกกับรายการ Newshour ของ BBC ว่า เขาเป็นนักสำรวจ ไม่ใช่นักแสวงหาความตื่นเต้นและสามารถจัดการกับเหตุฉุกเฉินได้
นายชาห์ซาดา ดาวูด มหาเศรษฐีชาวปากีสถาน และ นายสุไลมาน ดาวูด บุตรชายของเขา
นักธุรกิจชาวอังกฤษ วัย 48 ปี มาจากตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดตระกูลหนึ่งของปากีสถาน เขากำลังเดินทางกับลูกชายของเขา สุไลมาน ซึ่งเป็นนักเรียนอายุ 19 ปี
เขาศึกษาในฟิลาเดลเฟีย สหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยบัคกิงแฮมในอังกฤษ ซึ่งเขาสำเร็จการศึกษาในปี 2541 อาศัยอยู่กับภรรยา คริสทีน และลูกอีกคน อลินา ในเซอร์บิตัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของลอนดอน แต่ครอบครัวใช้เวลา 1 เดือนในแคนาดาก่อนดำน้ำ
ชาห์ซาดา เป็นรองประธานกลุ่มบริษัท Engro Corporation ของปากีสถาน ซึ่งเป็นบริษัทปุ๋ยขนาดใหญ่ทำงานร่วมกับ Dawood Foundation ของครอบครัว รวมถึง SETI Institute ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยในแคลิฟอร์เนียที่ค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
เขายังเป็นผู้สนับสนุนองค์กรการกุศล 2 แห่งที่ก่อตั้งโดย King Charles - British Asian Trust และ Prince's Trust International
ในถ้อยแถลง ครอบครัวของชาห์ซาดา กล่าวว่าเขาสนใจที่จะสำรวจที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติที่แตกต่างกัน และเคยพูดที่ทั้งสหประชาชาติและ Oxford Union และพูดถึงสุไลมานว่าเป็นแฟนตัวยงของวรรณกรรมนิยายวิทยาศาสตร์และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆและมีความสนใจในรูบิคและเล่นวอลเลย์บอล
พอล เฮนรี นาร์โกเล็ต
พอล เฮนรี นาร์โกเล็ต วัย 77 ปี อดีตนักประดาน้ำของกองทัพเรือฝรั่งเศสก็อยู่บนเรือลำนี้ด้วย มีรายงานว่าเขาใช้เวลาอยู่ในซากเรือนานกว่านักสำรวจคนอื่นๆ และเป็นส่วนหนึ่งของคณะสำรวจแรกที่ไปเยี่ยมชมซากเรือไททานิกในปี 1987 เพียงสองปีหลังจากการค้นพบ
เขาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยใต้น้ำของบริษัทที่เป็นเจ้าของสิทธิ์ในซากเรือไททานิก เเละก่อนขึ้นเรือดำน้ำไม่นาน นาร์โกเล็ตกล่าวว่า เขาตั้งตารอที่จะมีการสำรวจในปีหน้าเพื่อกู้วัตถุต่างๆ จากซากเรือ
สต็อคตัน รัช
วัย 61 ปี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทโอเชียนเกต เอ็กซ์พีดิชันส์ ผู้เป็นเจ้าของเรือดำน้ำและเป็นบริษัทผู้จัดทัวร์ท่องเที่ยวชมซากเรือไททานิก เป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์ซึ่งเคยออกแบบเครื่องบินทดลองมาก่อนและทำงานเกี่ยวกับเรือดำน้ำขนาดเล็กอื่นๆ
เขาก่อตั้งบริษัทในปี 2009 โดยมอบโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางใต้ท้องทะเลลึก และกลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกในปี 2021 เมื่อบริษัทเริ่มนำเสนอทริปไปยังจุดที่เรือไททานิกอับปาง
ด้วยราคา 250,000 ดอลลาร์ (195,600 ปอนด์) บริษัทของเขาเสนอโอกาสให้ผู้โดยสารได้เห็นสิ่งที่เหลืออยู่ของเรือที่มีชื่อเสียงอย่างใกล้ชิด
ผู้เข้าร่วมเดินทางประมาณ 370 ไมล์ (595 กม.) บนเรือขนาดใหญ่เพื่อไปยังพื้นที่เหนือซากเรือ จากนั้นดำดิ่ง 8 ชั่วโมงไปยังเรือไททานิกด้วยเรือดำน้ำขนาดเท่ารถบรรทุกที่รู้จักกันในชื่อไททัน
เขากล่าวกับNew York Timesในปี 2022 ว่า เขาปกป้องรูปแบบธุรกิจดังกล่าว และราคาตั๋วเป็นเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายในการไปอวกาศ และมันแพงมากสำหรับเราในการหาเรือดำน้ำเหล่านี้และออกไปที่นั่น
ในปี 2017 ที่เขียนขึ้นสำหรับเว็บไซต์ของ Princeton University ที่เขาศึกษา รายงานว่า สต็อคตัน รัช ไปดำน้ำที่ OceanGate ทุกครั้ง
อัปเดตข่าวนี้ ล่าสุดในวันนี้ พลเรือตรี จอห์น มอเกอร์ ผู้บัญชาการยามฝั่งสหรัฐฯ เขตที่ 1 ผู้นำปฏิบัติการค้นหาระบุว่า ยังไม่ทราบแหล่งที่มาของเสียงใต้น้ำ และยังไม่ได้ข้อสรุปใด
สื่อหลายสำนักให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า
เสียงปริศนาจากใต้น้ำ ดังเป็นระยะ ๆ ห่างกันประมาณ 30 นาที เกิดขึ้นอยู่นานประมาณ 4 ชั่วโมง ออกซิเจนในเรือ คาดว่าจะหมดลงในเวลาประมาณ 17.00 น. วันนี้ตามเวลาในไทย
ล่าสุดบนโลกออนไลน์ ระบุว่า สื่อต่างประเทศเผยเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ ชาวโลกอีกส่วนหนึ่งก็กำลังสวดมนต์และกำลังภาวนาขอให้ 5 ชีวิตในเรือดำน้ำ ‘ไททัน’ รอดปลอดภัย หลังจากเรือดำน้ำลำดังกล่าวนี้ได้สูญหายตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.2566 ตามเวลาท้องถิ่น ขณะดำลงไปชมซากเรือไททานิก ที่จมอยู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก
ความคืบหน้าทางด้าน นางเวนดี้ รัช ภรรยาของนายสต็อคตัน รัช วัย 61 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO บริษัทโอเชียนเกต ซึ่งเป็นผู้บังคับการเรือดำน้ำไททัน ที่สูญหายไปนั้น เขาเป็นเหลนของ นายอิซิดอร์ และนางไอด้า สเตราส์ สองสามีภรรยาที่เสียชีวิตใน โศกนาฏกรรมเรือไททานิค ที่ชนกับภูเขาน้ำแข็งจนจมสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อ 111 ปีก่อน
อ.ธรณ์ เผยขั้นตอนการค้นหา เรือดำน้ำ "ไททัน" ที่สูญหาย ขณะลงไปสำรวจ "เรือไททานิก"
ในประเด็ๆ เช่นนี้ ทางด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล และอาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า การกู้ภัยยาน Titan เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทะเล จึงขอพาเพื่อนธรณ์ไปตามสถานการณ์แบบต่อเนื่อง การค้นหา 3 บริเวณ มีความคืบหน้าไปบ้าง
บนผิวน้ำ ใช้เครื่องบินเป็นหลัก ตอนนี้บินหาในพื้นที่กว้างมากกว่า 2 หมื่น ตร.กม. ปัญหาสำคัญคือ ต่อให้ยาน Titan ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญให้ข้อมูลว่า ประตูเปิดจากข้างในไม่ได้หรือยากมาก อันเป็นหลักการของยานสำรวจใต้ทะเลลึก ปกติต้องให้คนข้างนอกมาเปิดให้ เพราะฉะนั้น คนข้างในยานอาจยังคงต้องใช้ออกซิเจนที่มีจำกัดต่อไป จนกว่าจะมีทีมกู้ภัยมาเจอ การทุบยานให้เป็นรู หรือทุบกระจกเป็นไปไม่ได้ เพราะยานสร้างจากไททาเนียม ป้องกันแรงกดดัน 370 เท่า (ลงไปใต้น้ำ แรงกดดันเพิ่ม 1 บรรยากาศต่อความลึก 10 เมตร)
กลางน้ำ เครื่องบินทิ้ง Sonar probe ลงมาตามจุดต่างๆ นอกเหนือไปจากการใช้เรือ เพื่อครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น มีรายงานว่าได้ยินเสียงใต้น้ำ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นเสียงอะไรหรือที่ไหน
บนพื้น มีการส่งอุปกรณ์สำรวจทะเลลึกมาจากหน่วยงานต่างๆ เช่น กองทัพเรือสหรัฐฯ (อุปกรณ์เป็นความลับทางทหาร) ยานสำรวจไร้คน (ROV) จากฝรั่งเศสและอังกฤษ (ส่วนใหญ่เป็นของบริษัทขุดเจาะน้ำมัน/วางท่อ โดยเฉพาะในยุโรปที่หลายแหล่งอยู่ลึก) เรือ Atalante สำรวจทะเลลึกของฝรั่งเศส พร้อมยานสำรวจที่ลงได้ถึง 4,000 เมตร กำลังเดินทางมาที่จุดหมาย น่าจะเป็นความหวังมากที่สุดในขณะนี้ เมื่อเจอ Titan แผนช่วยเหลือจะปรับตามสภาพว่า ควรทำอย่างไร อากาศเหลือพอใช้ถึงวันพฤหัสบดีตอนค่ำ นี่คือการกู้ภัยใต้ทะเลลึกครั้งสำคัญสุด และเป็นการระดมพลังในทุกด้าน ทุกเทคโนโลยีที่โลกคิดค้นมาในการสำรวจทะเลลึก ดินแดนลับแลแห่งสุดท้ายของดาวเคราะห์ดวงนี้ หวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริงครับ
สรุปสถานการณ์กู้ภัยยาน Titan ยังคงตามหาต่อไปแบบปฏิบัติการ "ช่วยชีวิต" (Search&Rescue) แม้ออกซิเจนเหลือน้อย แต่ปริมาณออกซิเจนเป็นการคาดการณ์ อาจแตกต่างในสถานการณ์จริงของการหายใจแต่ละคน ยังระบุจุดที่ได้ยินเสียงไม่ได้ อีกทั้งยังไม่สามารถวิเคราะห์เสียงว่าเป็นอะไรแน่ แต่ยังพยายามส่ง ROV ไปสำรวจ ยังไม่พบอะไร
การค้นหาทางอากาศยังดำเนินต่อไป ครอบคลุมพื้นที่ 3 หมื่น ตร.กม.หรือมากกว่า เครื่องบินปล่อย sonobuoy มีทั้งแบบ active (Sonar) ยิงคลื่นลงไปเพื่อกระทบวัตถุแล้วรับสัญญาณสะท้อน และแบบ passive รับเสียงที่เกิดขึ้นใต้น้ำ (โซนาร์ที่เราเรียก หมายถึงระบบแอกทีฟเท่านั้น)
ใช้ยาน ROV หลายลำ (ไม่มีคนขับ) ยาน Victor6000 ของฝรั่งเศสน่าจะเป็นความหวังมากสุด มีมือจับกลสามารถดึงหรือแกะของที่อาจติดอยู่ หรือนำสายไปเกี่ยวเพื่อช่วยดึงยาน titan ขึ้นมา อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในโครงการ ทำให้เราเห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทะเลลึก เช่น sonobuoy, sidescan sonar, ROV ฯลฯ
sidescan sonar มีในไทย เคยนำมาลองใช้ทำ mapping พื้นที่ชายฝั่งขนาดเล็ก ROV ในไทยมีนานแล้ว ตอนนี้มีใช้ทั่วไป รู้จักในนาม underwater drone ส่วนใหญ่ใช้สาย ลงลึกได้ 100-150 เมตร (ขนาดเล็ก) ปัญหาสำคัญคือสายแพง และกระแสน้ำอาจทำให้สายตกท้องช้าง
Deep Water Robot ใช้ในกิจการพลังงาน วางท่อ รวมถึงวางสายไฟเบอร์ออปติก/สายไฟใต้น้ำ ฯลฯ เรายังไม่มียานสำรวจทะเลลึกแบบมีคนอยู่ข้างใน และคงยังไม่มีอีกนาน เพราะราคาสูงมากและไม่จำเป็นขนาดนั้น (อ่าวไทยตื้นมาก) ทั้งโลกมียานสำรวจที่ลงไปได้ในระดับ 3,800 เมตร ประมาณ 10 ลำ
ขอขอบคุณข้อมูล : BBC และ ฐานเศรษฐกิจ มา ณ โอกาสนี้ #ขอพระเจ้าคุ้มครอง