ญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือในกรุงเบรุตในปี 2563 ชูภาพถ่ายหรือภาพวาดของเหยื่อระเบิดระหว่างปิดกั้นถนนใกล้ท่าเรือเมื่อวันอังคาร โดยเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการดับไฟไหม้ไซโลในท่าเรือที่ลุกไหม้นาน 1 เดือน 16 วันแล้ว และกล่าวโทษว่าความเพิกเฉยของรัฐบาลทำให้ไซโลพังถล่มซ้ำแล้วซ้ำอีก
ซีกเหนือของไซโลเก็บธัญพืชที่ได้รับความเสียหายจากระเบิดเมื่อสองปีก่อนพังถล่มลงมาเมื่อเช้าวันอังคาร ทำให้เกิดกลุ่มฝุ่นฟุ้งกระจายหนาทึบ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ ขณะที่รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมเลบานอน เปิดเผยว่า รัฐบาลจะหาทางป้องกันให้ซีกใต้ของไซโลยังคงยืนหยัดได้อย่างแข็งแรง และเตือนให้ประชาชนในละแวกใกล้เคียงท่าเรือสวมหน้ากาก และจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปตรวจวัดคุณภาพอากาศ
ก่อนหน้านี้มีคำเตือนหลายครั้งแล้วว่า ไซโลอายุเก่าแก่ 50 ปีและสูง 48 เมตรดังกล่าวอยู่ในสภาพเอียงมากเกินกว่าจะยืนหยัดอยู่ได้ ไฟไหม้ไซโลอย่างต่อเนื่องมานานหลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพอากาศร้อนจัดทำให้ธัญพืชที่เน่าเสียติดไฟลุกไหม้
เปลวไฟสีส้มที่ลุกไหม้ไซโลในยามค่ำคืนทำให้ชาวเบรุตยังคงหวนนึกภาพความหายนะจากเหตุระเบิดเมื่อปี 2 ปีที่แล้ว และต้องทนสูดควันไฟมานานเดือนครึ่ง
ส่วนหนึ่งของไซโลพังถล่มเมื่อวันที่ 31 ก.ค. และอีกส่วนหนึ่งถล่มลงมาเมื่อวันที่ 4 ส.ค. ตรงกับวันครบรอบ 2 ปีของเหตุระเบิด แต่ยังมีข้อถกเถียงว่าควรจะทำอย่างไรกับไซโลที่ได้รับความเสียหาย
เมื่อเดือน เม.ย. รัฐบาลตัดสินใจจะรื้อทำลายไซโลเพื่อความปลอดภัย แต่ระงับไปหลังจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดจัดชุมนุมประท้วงหลายครั้งเพื่อเรียกร้องให้คงอนุรักษ์ไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกเหตุระเบิดที่คร่าชีวิตประชาชนมากกว่า 220 รายและมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน นอกจากนี้พวกเขาคิดว่า ไซโลอาจมีหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนเพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบต่อเหตุระเบิดครั้งนั้น