"บิ๊ก D Gerrard" ชีวิตที่ไม่มีสูตรสำเร็จ กว่าจะดังเคยคิดสั้นเกือบจบชีวิต

จากชีวิตในวัยเด็กของ "บิ๊ก D Gerrard" เติบโตมาพร้อมกับความเข้มงวดของครอบครัว โดนกลุ่มเพื่อนวัยเด็กบูลลี่ โดนทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวเปิดใจเล่าเรื่องราวชีวิตที่ไม่มีสูตรสำเร็จ ถึงจุดที่ตั้งคำถามว่า เซฟโซนของตัวเองคืออะไร กระทั่งได้เจอดนตรีที่เป็นเหมือนดั่งเพื่อน

บิ๊ก D Gerrard (ดี เจอร์ราร์ด) หรือ ไบรอัน เจอร์ราร์ด อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบียล นักร้องฮิปฮอปลูกเสี้ยวไทย - โปรตุเกส - ศรีลังกา เกิดวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ปัจจุบันอายุ 28 ปี เป็นที่รู้จักจากการเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในรายการดิ เอ็กซ์ แฟกเตอร์ ไทยแลนด์ (The X Factor Thailand) เมื่อปี 2560 ซึ่งต่อมาเขาก็มีผลงานสร้างชื่อมากมาย  อาทิ กาแล็คซี่ (GALAXY), กลัวแฟน (feat. เจนนิเฟอร์ คิ้ม), แมงเม่า, บ้านนอก, Casanova Boy , Hey Bae และ มากับบิ๊ก (feat. OG-ANIC) และเพลงที่ดังสุดๆก็คงจะหนีไม่พ้น รถไฟบนฟ้า (Galaxy Express) ในปีพ.ศ. 2564 บิ๊กได้มีโอกาศแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ 4 kings อาชีวะ ยุค 90's รับบทเป็น ยาท เด็กบ้าน

"เพราะการร้องเพลงของบิ๊กทำให้ถูกฟัง เมื่อถูกฟัง ก็จะไม่โดนทำร้าย" ชีวิตของบิ๊กดิ่งลงอีกครั้งเมื่อประสบเหตุการณ์ความรักที่ไม่สมหวัง เมื่อช่วงอายุ 23-24 ปี เคยคิดสั้นถึงขั้นลงมือทำร้ายตัวเองถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนเบนเข็มชีวิตตัวเองเข้าหาดนตรีอย่างเต็มตัว / ดนตรีคือความสุข และเป็นพื้นที่ที่ทำให้ทุกคนยอมรับตัวตนของบิ๊กมากขึ้น

เส้นทางในวงการบันเทิงของบิ๊กชัดเจนขึ้นจากการประกวด X Factor หลังจากนั้นก็ได้รับเลือกให้เป็น "ยาท" หนึ่งในบทบาทของภาพยนตร์ 4KING / ชีวิตตอนนี้ของบิ๊ก ปรับมุมมองเรื่องคุณค่าของลมหายใจได้มากขึ้น มองเห็นความสุขที่อยู่รอบๆตัว เพียงแต่บางครั้งกลับเลือกมองข้ามมันไป

นำไปสู่การตัดสินใจทำสิ่งดีๆเพื่อตัวเอง คือการเลิกเหล้าถาวร "ถ้าเรารักตัวเองจริงๆ เราจะทำร้ายตัวเองทำไม เหล้าคือสิ่งที่ทำให้ผมลดทอนประสิทธิภาพของตัวเอง / ผมกินเหล้าจนเป็นปกติ หมายความว่าตอนปกติคือเมา แล้วตอนไม่เมา เป็นปกติคือตอนไหน คือมันไม่มี ทำให้ผมกลับมาย้อนคิด ว่าไม่ได้แล้ว ผมต้องกลับมาเป็นคนปกติก่อน เพื่อที่จะให้มองเห็นสิ่งต่างๆชัดขึ้น"

ให้ลองคิดภาพว่าเราอยู่ในทะเล สิ่งที่เราต้องบังคับให้ดีคือไม่ใช่คลื่น สิ่งที่เราต้องบังคับให้ดีคือตัวเราเอง คือตัวของเรา การใช้ชีวิตที่ดี คือไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นยังไงก็ตาม มันอยู่ที่ว่าเราจะรีแอคกับมันยังไง อย่าไปคล้อยตามสิ่งที่มันเป็น จนชีวิตของเราพัง เพราะเราเป็นคนควบคุมเรือของเรา ไม่ใช่คลื่นทะเล เราแค่โต้คลื่นให้สนุก แค่ล่องเรือให้สนุก แค่นั้นก็มีความสุขแล้ว เราแค่กำหนดเป้าหมายของเราให้เจอ ควบคุมหางเสือให้ดี ฝ่าคลื่นชีวิตให้สนุกก็พอ"

ที่มารายการ Level up