21 กรกฎาคม 2566 ข่าวเศร้าวงการเพลงลูกทุ่ง ที่ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ สำหรับกาารจากไปของ “ครูชลธี ธารทอง” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักประพันธ์เพลงลูกทุ่ง) ประจำปี 2542 เจ้าของฉายา "เทวดาเพลง" ที่จากไปอย่างสงบในวัย 85 ปี ที่ รพ.ศิริราช หลังจากเข้ารักษาตัว ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด มานานกว่า 3 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปถึงประวัติของ “ครูชลธี ธารทอง” ครูผู้ประพันธ์ทั้งคำร้อง และทำนองเพลงลูกทุ่ง ที่มีผลงานยอดนิยม มากที่สุดท่านหนึ่ง ของวงการเพลงลูกทุ่งไทย ผู้มีนามจริงว่า นายสมนึก ทองมา หรือที่รู้จักกันโดยทั่วไป ในนามของ “ชลธี ธารทอง” ผู้สร้างดาวให้วงการลูกทุ่ง ครูเป็นศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักแต่งเพลงลูกทุ่ง) ประจำ ๒๕๔๒
แต่ก่อนที่ครูจะโด่งดังมีลูกศิษย์ลูกหาและแฟนเพลงมากมายขนาดนี้ ครูก็ผ่านช่วงชีวิตที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองมาอย่างมาก โดยใช้ความถนัดในการแต่งเพลง ใช้ถ้อยคำที่จริงใจตรงไปตรงมาเข้าใจง่าย แฝงด้วยลีลาการประพันธ์ที่แหลมคม ทำให้ผู้ฟังคล้อยตามอารมณ์เพลงจนเห็นเป็นภาพได้อย่างชัดเจน “ครูชลธี ธารทอง” ได้ฝากผลงานเพลงล้วนแต่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักฟังเพลง สร้างนักร้องลูกทุ่งให้มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมากอาทิ สายัณห์ สัญญา, ยอดรัก สลักใจ, ก๊อต จักรพันธ์, ศรเพชร ศรสุพรรณ, สดใส รุ่งโพธิ์ทอง, เสรีย์ รุ่งสว่าง, เอกพจน์ วงศ์นาค, แอ๊ด คาราบาว, มนต์สิทธิ์ คำสร้อย, ดำรง วงศ์ทอง เป็นต้น
“ครูชลธี ธารทอง” เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2480 ปัจจุบันอายุ 85 ปี พื้นเพเป็นชาวจังหวัดชลบุรี และจบการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษา จากโรงเรียนประชาสงเคราะห์ อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ก่อนที่ต่อมาจะย้ายไปอยู่กับญาติ ณ จังหวัดราชบุรี โดยชีวิตในวัยเด็กของครูชลนั้น ลำบากมาก พ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่นั้นก็ตกเลือดตาย ตั้งแต่ครูชลอายุได้เพียง 6 เดือน เมื่อเติบโตขึ้น ครูชลก็รับจ้างทำทุกอย่าง
แต่ด้วยที่ชอบ ในการร้องเพลงลูกทุ่ง ทำให้ได้เป็นนักร้องเพลงเชียร์รำวง ของวงดาวทอง จากนั้นก็ได้ไปเป็นนักร้องในวงดนตรีของ สุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่งไทยในสมัยนั้น ทว่าก็มีเหตุให้ครูชลธี ต้องถูกไล่ออกจากวงหลัง จากเข้าร่วมได้เพียง 3 วัน เนื่องจากครูชลธี ไม่ได้พักในกรุงเทพฯ ทำให้ต้องเดินทางไปกลับราชบุรี เป็นเหตุให้เข้าวงมาทำงานสาย และถูกไล่ออกในที่สุด
หลังถูกไล่ออกจากวงของสุรพล ครูชลก็เดินสายทำอาชีพหลากหลาย ไม่ว่าจะอยู่กับวงลิเก และเป็นนักพากย์หนัง กระทั่งออกบวชและสึกออกมาเป็นหางเครื่องให้กับวงดนตรีของ เทียนชัย สมญาประเสริฐ สามีของนักร้องดัง ผ่องศรี วรนุช
แต่โชคชะตา ก็ทำร้ายครูชลอีกครั้ง ทำให้ครูชลต้องลาออกจากวง เพราะถูกกล่าวหาว่าขโมยของคนในวง ต่อมา ครูชลก็เข้าร่วมประกวดร้องเพลง ที่จัดขึ้นโดยวงรวมดาวกระจายของ สำเนียง ม่วงทอง ซึ่งในการประกวดครั้งนั้น ผลปรากฏว่า ครูชลได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการร้องเพลงที่แต่งขึ้นเอง และทำให้ได้เข้าไปอยู่กับคณะวงดนตรีรวมดาวกระจาย พร้อมกันนี้สำเนียงก็ได้ตั้งชื่อในวงการให้ว่า ชลธี ธารทอง เนื่องจากเป็นคนจังหวัดชลบุรี
แต่การอยู่ในคณะดนตรีของ สำเนียง ม่วงทองได้อัดแผ่นเสียง 4 เพลง แต่กลับไม่มีเพลงไหนโด่งดังซึ่งในช่วงที่มีเวลาว่าง ครูชลก็จะศึกษาเรียนรู้วิชาแต่งเพลงจาก สำเนียง ทองม่วง อยู่เป็นประจำ ทำให้มีความชำนาญการแต่งเพลงมากขึ้น แต่จู่ ๆ เพลง “พอหรือยัง” ของครูชลโด่งดังขึ้นมา เนื่องจาก ศรคีรี ศรีประจวบ นำไปร้อง แต่กลับไม่มีการอ้างอิงถึงผู้แต่งอย่างครูชล ทำให้ครูชลต้องออกมาทักท้วง แต่สุดท้ายเรื่องราวก็จบลง ด้วยความเข้าใจของทั้งสองฝ่าย ต่อมาไม่นานครูชล ก็ถูกไล่ออกจากวงรวมดาวกระจาย
ชะตาชีวิตหลังจากนี้ของครูชล ดูเหมือนจะเริ่มดีขึ้น เพราะได้แต่งเพลงให้กับ ศรคีรี ศรีประจวบ แต่เพลงยังไม่ทันจะมีชื่อเสียง ศรคีรี ก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเสียก่อน หลังจากนั้นครูชล ก็หันหลังให้วงการเพลงลูกทุ่ง แต่ก่อนจะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ ก็ได้มีโอกาสมอบเพลงให้กับเด็กปั๊มคนหนึ่ง ซึ่งในภายหลังเด็กปั๊มคนนี้ก็คือนักร้องดัง สายัณห์ สัญญา นั่นเอง
ชื่อเสียงที่โด่งดังของสายัณห์ เปิดโอกาสให้ครูชลได้กลับกรุงเทพฯ มาแต่งเพลงอีกครั้ง โดยมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงจากเพลง “ทหารอากาศขาดรัก” ก็คือ เสกศักดิ์ ภู่กันทอง นับแต่นั้นมาครูชล ก็ตั้งใจแต่งเพลงทำผลงาน และเฟ้นหานักร้องเสียงดี มาสร้างงานคุณภาพประดับวงการเพลงลูกทุ่งอยู่ตลอด กระทั่งได้รับฉายาจากสื่อมวลชนว่า เทวดาเพลง สำหรับลูกศิษย์คนโปรดอีกคนของครูชล ที่จากวงการเพลงลูกทุ่งไปอย่างน่าเสียดายคือ สุริยัน ส่องแสง
สำหรับจุดเด่นของผลงานเพลง ที่แแต่งโดยครูชลนั้น จะมีการเลือกสรรถ้อยคำให้ไพเราะแบบกวีนิพนธ์ เนื้อหาเพลงก็ส่งเสริมคุณค่าวิถีชีวิตคนไทย รวมถึงท่วงทำนองเพลง ที่ไพเราะติดหูผู้ฟัง อาจกล่าวได้ว่าครูชลเป็นศิลปิน ที่มีความสามารถในการประพันธ์เพลง ผ่านการใช้ฉันทลักษณ์ได้หลากหลายรูปแบบ ทำให้ในปี พ.ศ. 2542 ครูชลก็ได้ถูกยกย่องให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติอย่างสูงยิ่งสำหรับชีวิตคนดนตรี
ซึ่งการได้รับเลือกให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ "ครูชลธี ธารทอง" โดยก่อนการเสียชีวิตของ "ครูชลธี ธารทอง" "ครูปุ้ม ศศิวิมล รัตนอำพันธุ์" ได้มีการโพสต์ระบุว่า
เหรียญศิลปินแห่งชาติ เหรียญที่ครูชลรักมากที่สุด วันนี้นำมาให้ครูชลที่เตียงนอน ตั้งแต่ 2507 เทวดาเพลงโลดแล่น บนถนนลูกทุ่ง ที่หาใครเทียบยากในการประพันธ์เพลง สมเกียรติ “เทวดาเพลง”
บทเพลงที่ทรงคุณค่า 5,000 กว่าเพลง เป็นบทเพลง ที่ทุกคนประทับใจ งานของครูชล
การเขียนเพลงลูกทุ่งแท้ เขาเลย “เทวดาเพลง ชลธี ธารทอง”