นักแข่งรถชื่อดัง ติ๊งโน๊ต ฐิติพงศ์ ตอนนี้เจ้าตัวได้เข้าประตูวิวาห์กับแฟนสาวนอกวงการ ปุ๊ก สุธาศิณี ลูกสาวคนสวยของเซียนพระชื่อดัง ป๋อง สุพรรณ ล่าสุดออกควงภรรยาสุดที่รัก คุณปุ๊ก ออกมาเปิดใจถึงชีวิตหลังแต่งงาน ที่ตอนนี้แฮปปี้มาก พร้อมประกาศแขวนหมวก เลิกแข่งรถ เพราะภรรยาคนสวยขอไว้ และตอนนี้เจ้าตัวเดินตามรอยพ่อตา กลายเป็นเซียนพระท่านหนึ่งแล้วนั่นเอง
โดย ติ๊งโน๊ต เปิดใจว่า หลังแต่งงานก็ดีครับ ชีวิตแฮปปี้ งานค่อนข้างเยอะ รถก็ไม่ได้ขับแล้ว เพราะได้แชมป์ 6 สมัยติดต่อกัน แล้วเขาไม่อยากให้แข่งแล้ว ซึ่ง คุณปุ๊ก บอกว่า เราไม่อยากให้แข่งแล้ว เป็นห่วง มันเร็วมาก แล้วเราไม่รู้วันไหนมันจะพลาด คือเราเคยเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่แข่งมา 20 ปีไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้เลย เกือบตาย เขามาย้อนดูคลิป บอกว่าเธอไหนๆ ก็ได้แชมป์ 6 สมัยติดต่อกันแล้วไม่มีใครทำได้ หยุดดีกว่าไหม ก็เลยตัดสินใจหยุด ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ เราเป็นตัวแทนประเทศไทยชิงแชมป์โลก พยายามเอาแต้มมาฝากพี่ๆ น้องๆ ชาวไทย เพราะไทยเป็นเจ้าภาพที่บุรีรัมย์
ช่วงแข่งผมพลาด เกิดอุบัติเหตุล้ม เป็นเคสหนักมาก การแข่งขันยุติ เขาบอกถ้าโชคไม่ดีคือตายเลย ผมรู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล ที่บุรีรัมย์หมอบอกว่ากระดูกสันหลังหัก ตรวจเจอหักแค่ 2-3 ชิ้น หมอที่บุรีรัมย์บอกว่าผ่าได้ แต่ไม่รู้ปกติหรือเปล่า ซึ่งทางผู้ใหญ่บอกให้เข้ารักษาตัวที่กรุงเทพ ผมแอดมิดที่นั่นหนึ่งคืน แต่ก่อนกลางคืนผมเหมือนจะตาย เราแน่นหน้าอกมาก ตั้งแต่กลางวัน ผมบอกคุณหมอว่าแน่นหน้าอกมาก ไม่ไหว
แล้วเขาทีซีสแกนเจอกระดูกร้าวที่หน้าอกนิดนึง แต่ช่วงกลางดึก ผมบอกพยาบาลว่าไม่ไหวแล้ว ผมปวดข้างในเหมือนจะระเบิด คุณหมอฉีดมอร์ฟีนให้ ผมบอกจะอ้วก เขาบอกเป็นผลข้างเคียง เขาเอาถุงมาให้ อ้วกแรกเป็นเลือดหมดเลย ครั้งต่อไปเป็นข้าวที่เรากิน แล้วสลบไปเลย จากนั้นถูกส่งตัวมาที่กรุงเทพ กระดูกหักกับร้าวประมาณ 27 ชิ้น ผมโชคดีหลายๆ อย่าง เรามาทัน ได้คุณหมอเก่งระดับประเทศ คุณหมอบอกว่าอาจจะไม่ปกตินะ อาจจะไม่เหมือนเดิม
หลังจากออกจากห้องผ่าตัด เราไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้ นอนร้องไห้คนเดียว 2 ชั่วโมง ขยับตัวไม่ได้ เป็นอะไรที่ทรมานมาก นอนอยู่เฉยๆ โดยไม่รู้ว่าตัวจะขยับได้ไหม จะเดินได้หรือเปล่า จะพิการไหม วันนั้นก็คิดว่าไม่เอาแล้วไม่แข่งรถแล้วเลิกเลย แต่ผมเป็นคนไม่ยอมแพ้ กลับมาแข่งรถอีกครั้ง แต่คุณหมอบอกว่าถ้าเกิดแบบนี้อีกครั้งไม่สามารถซ่อมได้ ถ้าโดนอีกทีกระดูกจะขาดเลย มีโอกาสตายเลย ผมเลยบอกตายก็ไม่เป็นไร เขาตื้อไม่อยากให้แข่ง แต่สุดท้ายก็ยอม แข่งมาจนถึงแชมป์ปีที่แล้ว 6 สมัย
พอแต่งงานก็เลิกแข่งเพื่อเขาเลย แล้วป๊ากับแม่ปุ๊กเขาก็ไม่ได้อยากให้แข่ง ส่วนทางบ้านผมแม่ก็แล้วแต่ผม คือผมทำได้ที่สุดของที่สุดแล้ว อยากใช้ชีวิตครอบครัว ตอนนี้เลิกแข่งรถมาก็เดินตามพ่อตา ป๋อง สุพรรณ เต็มตัว เริ่มทำงานเยอะ แต่คุณปุ๊กจะอารมณ์แบบคุณหนูไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่
ถามว่ามีฉายาไหม คือบางคนก็เรียกเซียน บางคนก็เรียกอาจารย์ แต่ผมยังไม่ได้ขนาดนั้น ถ้าพระใหม่โอเค แต่ถ้าพระเก่ายังต้องใช้เวลาค่อนข้างเยอะ เราเข้ามาอยู่เป็นลูกเขยเขาแล้ว เราต้องทำให้เขาภูมิใจ ไม่ใช่บ้านเขารวยอยู่แล้วมากิน มาใช้ไม่ได้ทำอะไร
หลายคนที่มองว่าผมตกถังข้าวสาร ผมไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น ผมทำงานทุกวัน ถึงคุณปุ๊กจะรวย ป๊าจะรวย แต่มันก็คือเงินของเขา ถ้าเราอยากได้เราก็หาเอง แต่ป๊าก็ช่วย อย่างล่าสุดป๊าเปิดโอกาสให้ผมเป็นผู้จัดสร้างเอง เพราะเราร่วมบุญและศึกษามาประมาณ 2-3ปีกว่าแล้ว