ควงแขนจับมือเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เช้านี้ (1 มีนาคม 2566) “ปอย ตรีชฎา” และ “โอ๊ค บรรลุ หงษ์หยก ” นักธุรกิจหนุ่มตระกูลดัง ทายาทบ้านอาจ้อ ร้านอาหาร ร้านกาแฟชื่อดัง พิพิธภัณฑ์บ้านสีขาว สไตล์ “ชิโน-โคโลเนียล” อายุ 84 ปี (สร้างเมื่อปีพศ. 2479) ที่จังหวัดภูเก็ต
โดยเป็นงานแต่งงานตามแบบประเพณีดั้งเดิมของบ่าวสาว ที่จังหวัดภูเก็ต ที่มีแต่ญาติและครอบครัวคนสนิทเท่านั้นที่มาร่วมงาน โดยก่อนหน้านี้ “ปอย ตรีชฎา” เปลี่ยนไปใช้นามสกุลฝ่ายชาย รวมไปถึงจัดงานฉลองสละโสดที่กรุงเทพฯ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้มีภาพของ "ปอย" ว่าที่เจ้าสาวแสนสวยสวมแหวนหมั้น ซึ่งเป็นแหวนสุดรักของอาม่าถูกปล่อยออกมาให้แฟนๆได้เห็น โดยในวันวิวาห์ตามแบบประเพณีดั้งเดิมของบ่าวสาว ที่จังหวัดภูเก็ตนั้น "ปอย" สวมชุดบาบ๋าแบบเจ้าสาวโบราณปักด้วยดิ้นทองคำ สวมใส่เครื่องประดับทองคำและเพชรพลอยโบราณ รวมถึง มงกุฎดอกไม้ไหว (ฮัวก๋วน) ซึ่งเป็นการขึ้นมือจากทองคำแท้ทั้งหมด โดยปรับเปลี่ยนรายละเอียดให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดยชุดแต่งกายที่นำเสนอจะเป็นการแต่งกายของคนภูเก็ต เมื่อสมัยร้อยกว่าปีมาแล้ว ซึ่งเป็นการผสมผสานของหลายชนชาติออกมาอย่างสวยงาม
โดยมงกุฎดอกไม้ไหว (ฮัวก๋วน) เป็นการขึ้นมือเป็นเครื่องทองเครื่องเพชรโบราณเพื่อนำไปเป็นเครื่องประดับชุดบาบ๋าในงานแต่งงานของทั้งคู่ โดยมงกุฎดอกไม้ไหวนี้จัดทำขึ้นโดยกลุ่มหัตถศิลป์ดิ้นโบราณจังหวัดระนอง ใช้เวลาทำทั้งสิ้น 3 เดือน ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำเป็นทองคำแท้ทั้งหมดที่ทางปอยเป็นคนนำมาเอง รูปแบบมงกุฎจะเป็นมงกุฎทรงโบราณที่มีดอกไม้ละเอียดตามแบบฉบับเจ้าสาวโบราณ
โดยเจ้าสาวจะรวบมวยผมเป็นฮั่วก๋วน หรือ มงกุฎเจ้าสาว ประดับด้วยดอกไม้ไหว ซึ่งทำจากทองคำ ปักปิ่นทองคำ เครื่องประดับ เป็นทองและเพชรอลังการ ใส่ตุ้มหูระย้า สวมสร้อยคอทอง เรียก หลั่นเต่ป๋าย ที่หน้าอกเสื้อจะประดับประดาด้วยปิ่นตั้งทองคำเหมือนรูปดาวเต็มหน้าอก ห้อยสายสร้อยทอง สวมแหวน กำไลมือ กำไลข้อเท้า สวมรองเท้าปักดิ้นเงินดิ้น ส่วนชุดเจ้าบ่าว จะหันมานิยมสวมสูท แบบตะวันตก แต่ยังนำจี้สร้อยคอหรือปิ่นตั้งมาติดที่ปกเสื้อนั่นเอง
ส่วนรองเท้าของเจ้า เป็นรัดส้นทอง สง่างามดุจนางหงส์ รักกันตลอดไป (หงส์คู่บนรองเท้า) เหยียบเงินเหยียบทอง (เส้นที่ใช้ปักและเพชรพลอย) ขอให้ก้าวเท้าข้ามตู (ธรณีประตู) เข้าบ้านผั้ว (สามี) เพื่อปกครองครอบครัวใหม่ ให้ร่มเย็นเป็นสุข และเจริญรุ่งเรืองต่อไป โดยร้านที่ทำรองเท้าคือร้าน ก. เปรมศิลป์ ร้านเก่าแก่ในดวงใจของใครหลายๆ คน ยืนหยัดที่แยกพิชัยแถววัดวัง มากว่า 50 ปี (สมัยตัดให้ทหารญี่ปุ่นและฝรั่งในไทยโน่นเลย) โดยพ่อไก่ที่ยึดอาชีพตัดรองเท้า และเป็นช่างตัดรองพระบาท ร.9 มาอย่างยาวนาน
โดยรองเท้าเจ้าสาวคู่นี้โชค 2 ชั้น ก เปรมศิลป์ ช่างรองเท้าระดับตำนานเลือกใช้หนังแกะคุณภาพที่ดีที่สุดจากออสเตรเลีย สีทองธรรมชาติ ออกแบบและปักโดยฝีมือช่างชั้นครู อาจารย์สรพล ถีระวงษ์ เส้นทองคำ มุกภูเก็ตเจี่ยๆ (แท้) เพชรซีกและอัญมณีโบราณ กว่าจะเสร็จแต่ละข้างก็แรมเดือน เรียกว่าประณีตเหมาะสมกับความเป็นเจ้าสาวเมืองภูเก็ตจริงๆ