ชวนคอข่าวเนชั่นออนไลน์ มาทำความรู้จักกับชื่อนี้ เปิดประวัติและเส้นทางชีวิตสาวสวยสุดสตรองคนนี้ "เอ๋ มิรา" สาวสวยจากจังหวัดเลย มาทบทวนและทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้นอีกสักนิด
เจ้าของแฮชแท็กสุดปัง ในวันนี้ #ฟ้ามีตา
ชื่อนี้กำลังปัง กำลังถูกค้นหา ร่วมเปิดประวัติ เอ๋ มิรา
เอ๋ มิรา เธอมีชื่อจริงว่า มิรา ชลวิรัลวานิศร์
ภูมิลำเนา เป็นคนจังหวัดเลย
จบการศึกษาระดับมัธยมจาก โรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์
ศึกษาที่ สาขาการตลาด วิทยาลัยเทคโนโลยีเมืองชลบริหารธุรกิจ
ศึกษาที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหานครเลย
IG : Chonwiralwanit
เอ๋ มิรา เป็นชาวอำเภอผาลาด จังหวัดเลย เป็นช่างแต่งหน้าอิสระ อีกทั้งยังเปิดร้านเสริมสวย ทั้งทำผมและทำเล็บอีกด้วย ในอดีตเคยคบหากับ "ครูไพบูลย์" มาตั้งแต่อายุ 16 ปี กระทั่งจดทะเบียนสมรสและมีลูกด้วยกัน 1 คน นอกจากนั้น เธอก็ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเปิดค่ายเพลงจ้วดจ้าดสตูดิโอ โดยตอนนั้นอดีตสามีอยากเปิดค่ายเพลง เธอจึงช่วยเหลือตามประสาสามีภรรยา กู้เงินมาช่วยทำค่ายเพลงอีกด้วย
ในช่วงที่ผ่านมา เธอประสบกับมีปัญหามากมายที่รุมเร้าเข้ามาในชีวิต บางปัญหามันยิ่งใหญ่ จนทำให้เธอต้องเสียสละอนาคตของตัวเองโดยการเลือกที่จะหยุดเรียนไป
ทว่า เมื่อฟ้ามีตา และได้รับโอกาสครั้งใหม่ เธอจึงขอก้าวย่างใหม่กับชีวิตใหม่ บทบาทใหม่ เธอจึงขอทวงคืนอนาคตของตัวเอง และกลับไปเข้าเรียนเป็นที่เรียบร้อย โดยตอนนี้เธอได้เข้าศึกษาต่อที่ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหานครเลย
ก่อนหน้านี้เธอได้จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสันติวิทยาสรรพ์ และ เคยศึกษาทางด้านสาขาการตลาด ที่ M-BAC (วิทยาลัยเทคโนโลยีเมืองชลบริหารธุรกิจ)
โดยในปัจจุบัน เอ๋ มิรา มีงานรีวิวสินค้ามามากมาย รวมถึงกลายเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอ และเป็นศิลปินนักร้องโดยการให้โอกาสจากนายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ อีกด้วย
อดีตเมียหลวง อย่าง "เอ๋ มิรา" กลายเป็นคนที่ถูกพูดถึงอย่างมาก และล่าสุดยอดผู้ติดตามในเฟซบุ๊ก พุ่งสูงทะลุอย่างรวดเร็ว มากกว่า 8 หมื่นไปแล้ว เรียกได้ว่าเป็นสาวที่มากความสามารถอีกคน โดยตัวเธอนั้น อดีตเคยเป็นช่างแต่งหน้าอิสระ อีกทั้งยังเปิดร้านทำผม และร้านทำเล็บอีกด้วย
ย้อนไปอ่านโพสต์สุดปัง สนั่นโซเชียล เมื่อ 4 สิงหาคม 2564
"เอ๋ มิรา" โพสต์ขอบคุณ "หนุ่ม กรรชัย" ที่ทำให้คนทั้งประเทศตาสว่าง หลังต้องทุกข์ทรมาน กว่า 3 ปี
จากกรณี "เอ๋ มิรา" อดีตภรรยา "ครูไพบูลย์" ผู้จัดการส่วนตัวและสามีนักร้องดัง "กระต่าย พรรณนิภา" แม่ลูกอ่อนวัย 17 ปี ได้เปิดใจกลางรายการโหนกระแสของ "หนุ่ม กรรชัย" เผยเรื่องราวสุดช้ำเมื่อ 3 ปีก่อน หลังอดีตสามีชวนปั้นนักร้องหญิง ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 14 ปี ก่อนจะเกิดปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว เมื่ออดีตสามีกลับจากกรุงเทพฯ ร้องไห้สารภาพต่อหน้าอดีตภรรยาว่ารักเด็กหญิงที่ปลุกปั้นเป็นนักร้องพร้อมเผยสัมพันธ์เกินเลย จนสุดท้ายนำไปสู่การหย่า ที่เจ็บปวดเมื่ออดีตสามีกล่าวหาว่าตัวเองมีชู้ ต้องทนทุกข์โดนคนตราหน้ามาตลอด 3 ปี
ช่วงที่ผ่านมาอดีตสามียังกลับมาขอคืนดีตลอด แต่ตัวเองไม่ยอมคืนดีด้วย คิดว่ากระต่ายคงไม่รู้เรื่องนี้ ส่วนสาเหตุที่ตัวเองต้องออกมาพูดเรื่องนี้ เพราะอดทนมา 3 ปี เมื่อได้ฟังที่เขาออกมาแถลงข่าวว่าเลิกกันโดยไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เลยอยากขอออกมาพูดบ้าง และอยากบอกว่าเอ๋ไม่เคยมีชู้ ส่วนที่จะฟ้องเพื่อนเอ๋ด้วย เอ๋ บอกว่า แกบอกจะฟ้องแฟนคลับคนที่บูลลี่หน้าตาแก แกจะฟ้องด้วย ส่วนกรณีเพื่อนไปแชร์ว่าครูพูดไม่หมด ทำไมไม่พูดความจริงให้หมด ที่ผ่านมาไม่สงสารเอ๋เหรอ เขาก็แคปแล้วบอกว่าจะไปฟ้องเพื่อนเอ๋
ระหว่างนั้นทางรายการพยายามติดต่อครูไพบูลย์ โทร. หลายสายไม่รับ จนเอ๋บอกว่า "เขาคงอ่านสคริปต์อยู่" ทีมงานติดต่อไปเรื่อย ๆ กระทั่งครูรับสาย หนุ่ม กรรชัย จึงถามว่าจริงหรือไม่ที่ไปโพสต์ต่อว่าเอ๋มีชู้ ครูบอกว่าตอนนั้นเราต่างคนต่างมีอารมณ์ เลยโพสต์ไปแบบนั้น ที่ทะเลาะกันเขาก็ไปกับชายอื่น ขณะที่ เอ๋ โต้ตอบยืนยันว่า "ไม่จริง รู้ได้ยังไงผู้หญิงมีเพื่อนผู้ชายไม่ได้เหรอ" ครูไพบูลย์พยายามจะโต้กลับก่อนยอมรับว่าก็โพสต์ข้อความว่าอดีตภรรยามีชู้จริง
ต่อมา หลังจากจบรายการ "เอ๋ มิรา" ก็ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งผ่านเฟซบุ๊กด้วยการโพสต์ภาพคู่กับ หนุ่ม กรรชัย และขอบคุณอีกฝ่าย รวมไปถึงทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ และส่งกำลังใจจนกล้าออกมาพูดในสิ่งที่ทนเก็บมากว่า 3 ปี ว่า
"#ขอบคุณพี่หนุ่ม กรรชัย และทีมงานโหนกระแสทุกท่าน #ทนายเกิดผล ขอบคุณทางเพจมธุสอน มธุสอน ตลาดล่างอัพเกรด ขอบคุณแอดมินที่เข้ามาให้กำลังใจแล้วเตือนสติว่า ให้เอ๋สู้เพื่อตัวเอง ความจริงเอ๋ไม่คิดที่จะพูดแล้ว เอ๋กลัวจะเจ็บแบบ 3 ปีก่อน
แต่เพราะได้กำลังใจจากทางเพจและเพื่อน ๆ แล้วก็คนรอบตัว เพื่อนทุกคนปกป้องเรา แต่เราทำไมไม่ออกมาปกป้องตัวเอง ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เจ็บแค่ไหน อดทนเก่งแค่ไหน สุดท้ายความจริงก็ชนะทุกอย่าง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นช่างมัน ขอแค่เราได้พูดความจริงบ้าง ต่อไปนี้ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก ไม่ขอจองเวรกับใคร #หลุดพ้นสักทีนะตัวฉัน"
ล่าสุด ทางด้าน "เอ๋ มิรา" ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กสตอรี่อีกครั้ง โดยระบุข้อความว่า "ขอบคุณทีมงานโหนกระแสมากนะคะ ที่มารับส่ง ตอนนั้เอ๋ถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วนะคะ ขอบคุณทุกกำลังใจ ไม่ได้ตอบใครแต่เห็นทุกคอมเมนต์ เอ๋ขอพักผ่อนก่อนนะคะ พรุ่งนี้จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว"
เปิดใจ “ทนายเก่ง” หลังชนะคดี “เอ๋ มิรา” ฟ้อง “ครูไพบูลย์”
เปิดใจ “ทนายเก่ง” ทนายความ “เอ๋ มิรา” หลังชนะคดีพรากผู้เยาว์ที่เอ๋ มิรา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ครูไพบูลย์” อดีตสามี โดยศาลสั่งจำคุก 8 ปี ไม่รอลงอาญา
7 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิษรุษ มณีรัตน์ หรือ ทนายเก่ง ทนายความของ “เอ๋ มิรา” หรือ น.ส.มิรา ชลวิรัลวานิศร์ อดีตภรรยา “นายไพบูลย์ แสงเดือน” ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลจังหวัดหนองบัวลำภู พิพากษาจำคุกครูไพบูลย์ 8 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่เอ๋ มิรา ฟ้องครูไพบูลย์ อดีตสามี ในความผิดข้อหาพรากผู้เยาว์ ว่า คดีนี่ที่ศาลพิพากษาตัดสินออกมาแบบนี้ เนื่องจากครูไพบูลย์ ได้ต่อสู้คดีไม่ได้รับสารภาพและให้การที่เป็นประโยชน์ในชั้นศาล และหลังจากที่เอ๋ มิรา ทราบผลคำพิพากษา ก็รู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้มีความเครียด จนกินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะกังวลเกี่ยวกับเรื่องคดีตั้งแต่เกิดเรื่องมาจนถึงปัจจุบัน เพราะปกติเอ๋ จะมาหาตนเองที่บ้านสัปดาห์ละ 2-3 วัน แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาเอ๋ เก็บตัวเงียบไม่ได้มาหาตนเองที่บ้านเหมือนทุกครั้ง แต่ตอนนี้ความเครียดทุกอย่างจบลงแล้วและตัวน้องเองก็พอใจกับผลคำตัดสิน
ทนายเก่ง กล่าวว่า ส่วนทางครูไพบูลย์จะมีการต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์นั้น ยืนยันพยานหลักฐานที่มีในศาลชั้นต้นนั้นมีพร้อม และมั่นใจในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นวนั้นถูกต้องด้วยกฎหมาย และสำหรับคดีระหว่างเอ๋ มิรา และครูไพบูลย์นั้น ขณะนี้เหลืออยู่เพียงคดีเดียว คือคดีที่ครูไพบูลย์ ฟ้องเอ๋ มิรา ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่น้องเอ๋ ไปออกรายการโหนกระแส ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบพยานฝ่ายจำเลย ส่วนเรื่องบุตร คือน้องสายแนน ที่เกิดระหว่างเอ๋ มิรา และครูไพบูลย์นั้น เมื่อสามปีที่แล้วหลังจากที่ทั้งคู่หย่ากันบุตร อยู่ในการดูแลของครูไพบูลย์ แต่หลังจากที่ทนายเก่ง ได้เข้ามาดูแลคดีจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเลย และมีคำพิพากษา ให้น้องสายแนน กลับมาอยู่ในการดูแลของเอ๋ มิรา แล้ว
ทนายเก่ง กล่าวอีกว่า คดีนี้ถือเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจเพราะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็กและเยาวชน ที่เปรียบเสมือนแก้วที่ครอบเด็กเยาวชนอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่คิดไม่ดีไปกระทำชำเรากับเด็กและเยาวชนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และบทลงโทษก็สูงมาก แต่ที่ผ่านมาสังคมไม่ได้ตีแผ่เรื่องนี้มากนัก จึงทำให้ประชาชนคิดว่าทำได้ และเมื่อศาลพิพากษาออกมาในลักษณะนี้ก็จะทำให้คนไม่กล้าไปยุ่งหรือกระทำความผิดเกี่ยวกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี