svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

DSI ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังค้น 4 จุด คดีนอมินีสร้างตึก สตง.

DSI ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังค้น 4 จุด คดีนอมินีสร้างตึก สตง.
18 เมษายน 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

DSI ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังเข้าค้น 4 จุด คดีนอมินีสร้างตึก สตง. เร่งประสาน 51 วิศวกรมีรายชื่อควบคุมงานให้ข้อมูล ด้าน โฆษกดีเอสไอ เผย ไม่กังวล หลังมีข้อมูลคนแก้ไขแบบเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ใน สตง.

18 เมษายน 2568 ช่วงเช้าวันนี้ ที่ห้องประชุมกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้ามาประชุมร่วมกัน หลังเมื่อวานนี้ ได้เข้าตรวจค้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัทกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง รวม 4 จุด คือ บริษัท คาร์ฮัพ จำกัด, บริษัท กิจการร่วมค้า PKW, บริษัท ว.และสหาย และบริษัท PN ซิงโครไนส์ โดยได้ยึดพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารและการประกอบธุรกิจ รวมถึงหลักฐานต่างๆ ได้เป็นจำนวนมาก

โดยการประชุมวันนี้ เป็นการนำเอกสารที่ไปตรวจยึดเมื่อวานนี้ เข้ามาหารือ และทำการตรวจสอบพยานหลักฐาน ในคดีที่เกี่ยวข้องของกฎหมายการประกอบธุรกิจคนต่างด้าว และกฎหมายฮั๊วประมูล และความผิดที่เกี่ยวข้อง กรณีอาคาร สตง.ถล่ม ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ให้ข้อมูลว่า ในการประชุมวันนี้ เป็นความลับ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ 

DSI ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังค้น 4 จุด คดีนอมินีสร้างตึก สตง.

มีรายงานว่า จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ พนักงานสอบสวนได้ยึดพยานหลักฐานต่างๆ และยังพบใบเอกสารควบคุมงานรายวันอีกเป็นจำนวนมาก รวมประมาณ 12-13 ลัง โดยพบว่า มีรายชื่อ วิศวกรควบคุมงานในนามกิจการร่วมค้า PKW จำนวน 51 ราย โดยมี นายสมชาย ทรัพย์เย็น, นายสมเกียรติ ชูแสงสุข, นายปฏิวัติ ศิริไทย และนายชัยฤทธิ์ (สงวนนามสกุล) ลงนามลายเซ็นในบางส่วน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนำหลักฐานไปตรวจสอบก่อนว่า บริษัทใดในนามกิจการร่วมค้า PKW มีวิศวกรเกี่ยวข้องกี่ราย ซึ่งบางงานอาจมีการว่าจ้างฟรีแลนซ์บ้าง เพราะค่าจ้างวิศวกรค่อนข้างสูง จากนั้นจะพิจารณาเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำตามขั้นตอน 

และ มี 2 วิศวกร จาก 51 รายชื่อ ประสานขอเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ แต่ขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัว และไม่ต้องการให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ พนักงานสอบสวนจึงเปลี่ยนสถานที่สอบปากคำ ส่วนจะสอบปากคำประเด็นใดบ้างขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน

ซึ่งนอกเหนือจาก 2 คนที่เข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ ก่อนหน้านี้ มีวิศวกร 2 ราย คือ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข และนายชัยฤทธิ์ ได้แสดงตัวเพื่อปฏิเสธว่าถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นไปแล้ว และวันนี้นายชัยฤทธิ์ ได้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าว่า หลังจากที่ตรวจหลักฐาน 2 ส่วน คือคอมพิวเตอร์ ก็จะนำมาหาว่ามีพยานหลักฐานอะไรที่เกี่ยวข้องกับโครงการ และพยานเอกสาร จะต้องตรวจสอบว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องกับโครงการ ซึ่งวันนี้ กรมโยธาธิการฯ และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างร่วมกันตรวจสอบ ซึ่งเอกสารมีหลายส่วน โดยเฉพาะเรื่องวิศวกร ก็จะต้องติดตามมาข้อมูลว่าประเด็นการควบคุมงานเป็นอย่างไร ซึ่งจากกรายชื่อ ที่พบ 51 ราย ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ 2 ราย หนึ่งในนั้นคือนายสมเกียรติ เบื้องต้นมีการสอบปากคำประเด็นเรื่องถ่ายรูปที่สตง.ด้วย แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดการสอบปากคำได้ว่ามีประเด็นใดบ้าง

โดยหลังจากนี้จะเชิญทั้ง 51 คนมาให้ข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะวิศวกร จะต้องตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจริงหรือไม่ ทำหน้าที่อะไร ได้มาร่วมกับกิจการนี้จริงหรือไม่ แล้วค่อยไปตรวจสอบเรื่องลายเซ็น ส่วนอีก 2 รายที่ประสานเข้ามาใหม่ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อมาสอบข้อเท็จจริงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง

สำหรับความคืบหน้าทางคดีที่ดีเอสไอดำเนินการหลักคือ คดีนอมินี ปัจจุบัน คืบหน้าไป 50% หลังจากนี้ก็จะพิจารณาว่าหลักฐานพอจะแจ้งข้อกล่าวหาใครหรือไม่ 

ทั้งนี้ ดีเอสไอยังมีการตรวจสอบเรื่องการแข่งขันราคาว่าเป็นธรรมหรือไม่ ซึ่งหากพบว่า มีการกระบวนการในการแข่งขันราคาไม่เป็นธรรมแล้วเข้ากฎหมายฮั๊วประมูลเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาค่าว่าจ้างงานและลดค่าใช้จ่าย พนักงานสอบสวนก็อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบว่าจะมีความผิดเรื่องนี้หรือไม่เพราะเป็นประเด็นเกี่ยวพันกัน

ส่วนกรณีที่ลงไปหน้างานเพื่อตรวจสอบเหล็ก ว่าเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือไม่ หากพบความผิดว่าไม่ได้มาตรฐานกระทรวงอุตสาหกรรมก็จะกล่าวหาเรื่องมาตรฐานเหล็กเข้ามาเพิ่มเติม ส่วนกรณีการขายเหล็กให้โครงการ ก็จะตรวจสอบเรื่องการใช้เอกสารภาษีไม่ถูกต้องด้วย

พ.ต.ต.วรณัน ยังบอกอีกว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสสนคดีพิเศษ ได้ทำตารางพยานที่จะเรียกมาสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ทั้งนายปฏิวัติ ศิริไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จะต้องเรียกตัวมาสอบปากคำ หรือหากตำรวจ สน.บางซื่อ มีการเรียกสอบปากคำนายปฏิวัติในวันที่ 21 เมษายนนี้ ดีเอสไอก็อาจไปสอบปากคำด้วยก็ได้

ส่วนกรณีของนายพิมล (สงวนนามสกุล) อายุ 85 ปีที่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นผู้ออกแบบอาคาร สตง.นั้น ล่าสุดเจ้าตัวได้ประสานแจ้งว่ามีอาการเจ็บป่วย ไม่สามารถเข้าพบพนักงานสอบสวนในช่วงนี้ได้ แต่หากหายป่วยแล้วจะให้ความร่วมมือเข้าพบดีเอสไอ คาดว่าเป็นสัปดาห์หน้า

รวมถึงกรณีการเรียก บริษัทอิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เข้าให้ปากคำ มีรายงานด้วยว่า บริษีทอิตาเลียนไทย ขอเลื่อนเนื่องจากอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารชี้แจง 

ส่วนหลังจากนี้ สตง.ต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่นั้น พ.ต.ต.วรณัน ระบุว่า ขณะนี้ยังอยู่ที่กระบวนการสอบสวน โดยอธิบายว่า การดำเนินการจะมี 4 ส่วนในตอนนี้คือ การเกิดเหตุมี 4 เรื่อง คือสถานที่เกิดเหตุ ที่กทม.เข้าไปช่วยรื้อถอนและช่วยชีวิต และกระบวนการสอบสวนรวมรวบหลักฐาน ชันสูตรพลิกศพ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจ และส่วนของดีเอสไอ ที่ทำการตรวจสอบ รวมถึงทีมของโยธาธิการและผังเมืองที่ต้องตรวจสอบว่าตึกพังเพราะอะไร ก่อนจะสรุปได้ทั้งหมด

พ.ต.ต.วรณัน ยังยืนยันด้วยว่า ไม่กังวล แม้จะมีกระแสข่าวว่าคนที่แก้ไขแบบอาคาร สตง. มีความเกี่ยวข้องกับผู้หลักผู้ใหญ่ใน สตง. โดยบอกว่า เรื่องนี้สปอร์ตไลท์ของสังคมค่อนข้างเยอะ ไม่น่าจะมีปัญหา และดีเอสไอรับคดีขนาดใหญ่ ทำงานเป็นรูปแบบคณะกรรมการ เรื่องนี้จึงไม่เป็นประเด็น


DSI ประชุมลับ ตรวจเอกสาร หลังค้น 4 จุด คดีนอมินีสร้างตึก สตง.

logoline
News Hub