svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตร.ไซเบอร์รวบบัญชีม้า แก๊งคอลฯ หลอกลงทุนทองคำ สูญเงินกว่า 8 ล้าน

13 เมษายน 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ตำรวจไซเบอร์รวบบัญชีม้า แก๊งคอลฯ หลอกลงทุนทองคำ สูญเงินกว่า 8.8 ล้าน เจ้าตัวให้การปฏิเสธ ขณะที่ จนท.ตรวจสอบประวัติพบเคยไปทำงานแก๊งคอลฯที่ปอยเปต

13 เมษายน 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.  สั่งการให้ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 นำกำลังพร้อมหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุมตัวนายปรัชญา(สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ชาว จ.สระแก้ว ในความผิดฐาน  "ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู้ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยบิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง"

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2567 มีผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจ ได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าตนถูกหลอกให้โอนเงินลงทุนทองคำผ่านเว็บไซต์ชื่อ“activtrades” โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้รับข้อความผ่านทาง SMS ก่อนมีการพูดคุยกับคนร้ายผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ใช้ชื่อบัญชี "ชานิตรา สุขรุ่งเรือง" ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าผู้ติดต่อมีความรู้ด้านการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจทองคำ ก่อนถูกชักชวนให้ลงทุนผ่านแพลตฟอร์มปลอม หลอกให้โอนเงินลงทุนครั้งละ 1 ล้านบาท 

โดยอ้างว่าสามารถสร้างผลกำไรตอบแทนสูง ในช่วงแรกสามารถถอนเงินกำไรออกมาได้จริง จึงยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินเพิ่มการลงทุนรวมทั้งหมด 9 ครั้ง เป็นเงิน จำนวน 8,880,000 บาท จากนั้นไม่สามารถถอนเงินได้และติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงรู้ตัวว่าถูกมิจฉาชีพหลอก

ต่อมา พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวน ทำการสืบสวนแกะรอยจนทราบว่านายปรัชญากับพวกอีก 8 คน เป็นกลุ่มขบวนการแก๊งหลอกลวง ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารองรับการโอนเงินจากเหยื่อ จึงขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดของขบวนการนี้รวม 9 ราย  โดยสามารถติดตามจับกุมนายปรัชญา ได้ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่วนที่เหลืออีก 8 รายอยู่ระหว่างการติดตามตัว

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.66 นายปรัชญาได้เคยไปทำงานให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก่อนหลบหนีมายังฝั่งไทย โดยอ้างกับทหารที่ทำการช่วยเหลือว่าตนเองถูกหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่จากการตรวจสอบฐานข้อมูลและพยานหลักฐานที่รวบรวมไว้ พบว่ามีชื่อบัญชีรับโอนเงินตรงจากผู้เสียหายเข้าบัญชีที่เชื่อมโยงกลับผู้ต้องหารายนี้

สอบสวนเบื้องต้นนายปรัญชาการ ยังให้การปฏิเสธว่าตนได้เปิดบัญชีธนาคารที่สาขาคลองสอง จ.ปทุมธานี พร้อมผูกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของตนเองกับบัญชีดังกล่าว โดยนำบัญชีและเบอร์โทรไปใช้ทำงานกับบริษัทเกี่ยวกับการเทรดคริปโต ซึ่งเปิดรับสมัครผ่านทางเพจหางานในเฟซบุ๊ก โดยมีค่าจ้างเดือนละประมาณ 40,000-50,000 บาท ก่อนควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

logoline
News Hub