8 เมษายน 2568 จากกรณี คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ นางแบบ ดาราช่องมากสี ออกมาเปิดโปงว่า ถูก นายฮอต หรือไฮโซฮอต ที่เป็นไฮโซเก๊ มีประวัติต้องคดีเพียบหลอกลวง โดยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี หลอกลวงคบหา และหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญให้กับนายกรัฐมนตรีจำนวน 98,000 บาท ต่อมานายกรัฐมนตรีได้คืนเงินจำนวนดังกล่าวแล้วนั้น จนกลายเป็นกระแส ไฮโซเก๊คะน้า
โดย คะน้า มีการแจ้งความไฮโซเก๊ ไว้กับตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ฐานฉ้อโกง เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
ขณะที่ นายฮอต ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และก่อเหตุกระโดดตึก ลงมาจากห้องสอบสวน ชั้น 3 สน.โคกคราม โดยทำทีขอเข้าห้องน้ำขณะถูกสอบปากคำ และกระโดดลงมา ร่างกระแทกหลังคาชั้น 1 ได้รับบาดเจ็บนั้น
คะน้า
โดยในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพไฮโซเก๊ ถ่ายภาพคู่กับบุคคลดังในแวดวงการเมือง และบันเทิง รวมถึงมีภาพไฮโซเก๊ มีสารวัตรทหาร (สห.) 2 คน ขับรถนำขบวน ให้ด้วย
ล่าสุด วันนี้ทางกระทรวงกลาโหม ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกำลังพล 2 นาย ที่ปรากฏในภาพเป็นคนขับรถนำขบวนให้กับไฮโซเก๊
ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบพฤติการณ์ว่า ทั้งรถมอเตอร์ไซต์ที่เป็นรถนำขบวน และรถยนต์ตามขบวน เป็นรถส่วนตัวของกำลังพลที่นำไปดัดแปลง อีกทั้งเป็นการรับงานนอกเวลาราชการ อย่างไรก็ดีตามหลักการ สารวัตรทหารไม่สามารถรับงานนอกได้ และต้องมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
ภูมิธรรม เวชยชัย
ที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีภาพรถนำขบวนไฮโซเก๊ ว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น(7เม.ย.68) และมีการตั้งกรรมการสอบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว โดยคนที่ทำผิดก็ยอมรับสารภาพแล้ว เบื้องต้นทราบว่ารถที่ใช้นำขบวนไม่ใช่รถหลวง ถ้าเป็นรถหลวงโทษคือให้ออก แต่อันนี้เป็นรถที่นำไปดัดแปลง ก็ต้องดูว่าจะโดนโทษอย่างไร คงจะมีการสรุปบทลงโทษได้ภายในวันนี้
ทั้งนี้ ทั้ง 2 คน ที่ไปขับรถนำขบวนพบว่า ถูกว่าจ้างไป กองทัพไม่ได้ส่งไป
“เขายอมรับว่าไปหารายได้พิเศษก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ว่าโทษจะแค่ไหนอย่างไร วันนี้ก็น่าจะสรุปได้” นายภูมิธรรมกล่าว