8 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ควบคุมตัว "น.ส.ฐิติพร" โบรกเกอร์สาว คนสนิทของ "หมอบุญ" นพ.บุญ วนาสิน
หลัง น.ส.ฐิติพร ได้หลบหนีไปกบดานที่ประเทศจีน โดยจับกุมได้ ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
ในคดีนี้ ดีเอสไอจะประสานไปยังองค์การตำรวจสากล ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง กระทั่งทางการจีนสามารถจับกุมตัว น.ส.ฐิติพร โบรกเกอร์สาว คนสนิทของ "หมอบุญ" ได้ จึงประสานทางการไทยเพื่อผลักดันกลับประเทศให้มาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
โดยพฤติการณ์ของ น.ส.ฐิติพร ได้เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุน ด้วยการนำเงินมาให้ "หมอบุญ" กู้ยืมและอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง แต่ต่อมากลับไม่จ่ายผลตอบแทน และไม่คืนเงินต้น จึงเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง มีประชาชนตกเป็นผู้เสียหายกว่า 605 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 16,000 ล้านบาท
ต่อมาดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ เมื่อช่วงปลายปี 2567 ก่อนจะสรุปสำนวน จำนวน 342 แฟ้ม รวมเอกสารกว่า 130,000 แผ่น ส่งอัยการพิจารณาสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 27 ม.ค.68 ในความผิดฐาน "ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนด การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และร่วมกันฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา"
ซึ่งคดีนี้ดีเอสไอจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 13 คน อยู่ระหว่างหลบหนี 3 คน ประกอบด้วย 1. หมอบุญ 2.น.ส.กชพร และ 3.น.ส.ฐิติพร
ซึ่ง น.ส.ฐิติพร โบรกเกอร์สาว คนสนิทของ "หมอบุญ" ถือเป็นผู้ต้องหาคนที่ 14 ที่สามารถจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ระบุว่า จากการสอบสวนในชั้นจับกุม น.ส.ฐิติพร ให้การภาคเสธ ระบุว่า ไม่ได้รู้จักกับหมอบุญโดยตรง แต่ประสานงานผ่านเพื่อนอีกราย โดยจะได้รับค่านายหน้าในการหาคนมาลงทุน ร้อยละ 13.5 แต่จากพยานหลักฐาน เส้นทางการเงิน พนักงานสอบสวนพบว่ามีความเกี่ยวโยง และทั้งคู่รู้จักกันเป็นอย่างดี
ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ ระบุว่า ขณะนี้ขณะนี้ทราบ พื้นที่กบดานของหมอบุญและผู้ต้องหาอีกรายแล้ว ว่าหลบหนีอยู่ในประเทศไหน แต่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ คาดว่าจะสามารถประสานและนำตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ
ชมคลิปข่าว