ขาดเสาหลัก! แม่วิศวกรร่ำไห้เปิดใจ เสียลูกจากเหตุคานถล่มพระราม 2

16 มีนาคม 2568 จากอุบัติเหตุ คานถล่มพระราม 2  บริเวณโครงการการก่อสร้างสะพานทางยกระดับ โครงการทางพิเศษสาย พระราม 3 - ดาวคะนอง เชื่อมต่อมาจากสะพานพระราม 10 ทางลง ถนนพระราม 2 ถนนจอมทอง-ราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง กทม. เส้นทางลัดไปประชาอุทิศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 5 ราย บาดเจ็บ 27 ราย เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 15 มีนาคม 2568  ที่ผ่านมา โดยพบว่าหนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นวิศวกร

ล่าสุด ช่วงสายวันนี้ บรรยากาศที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช ช่วงสายที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความโศกเศร้า หลังจากครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทยอยนิมนต์พระสงฆ์เดินทางมาติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิต เพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยกรุงเทพมหานครอำนวยความสะดวก รวมทั้งประสานงานพาครอบครัวของแรงงานชาวเมียนมาที่เสียชีวิตมาดำเนินการด้านเอกสาร เพื่อรับศพด้วยเช่นกันเดียวกัน

โดยครอบครัวของนายนรากร อายุ 39 ปี วิศวกรหนุ่ม หนึ่งในผู้เสียชีวิต มีทั้งแม่  น้องสะใภ้ น้องชาย รวมทั้งลูกชายของนายนรากรวัย 6 ขวบ เดินทางมาติดต่อขอรับศพ

โดยแม่ของนายนรากร เปิดใจทั้งน้ำตา ว่า ทางครอบครัวทราบข่าวเวลา 03.00 น. ของวันเกิดเหตุว่าลูกชายเสียชีวิตจากเหตุการณ์คานถล่มแล้ว รู้สึกช็อกเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก

แม่และครอบครัวของวิศวกรหนุ่ม หนึ่งในผู้เสียชีวิต

ส่วนลูกชายของนายนรากรที่ผูกพันกับพ่อเป็นอย่างมาก ยังคงถามหาว่า “พ่ออยู่ไหน” เพราะก่อนที่นายนรากรจะออกไปทำงานที่จุดเกิดเหตุ ก็จะต้องกอดและหอมแก้มลูกชายทุกครั้ง สร้างความสะเทือนใจให้กับครอบครัวอย่างมาก

สำหรับนายนรากร เป็นเสาหลักของครอบครัว ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลทั้งแม่ลูกชายของเขาและครอบครัวเป็นอย่างดี โดยนายนรากรเพิ่งมาสมัครงานกับผู้รับเหมารายนี้ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และเพิ่งย้ายมาที่ไซต์ก่อสร้างดังกล่าว เพียงแค่ 3 วันก่อนเกิดเหตุ

ครอบครัวของนายนรากร เปิดใจว่า ที่ผ่านมาเคยเตือนลูกชายตลอดว่าให้ระมัดระวังอันตรายจากไซส์ก่อสร้างพระราม 2  เพราะมักจะมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ตัวเขาเองก็ไม่อยากทำงานที่นี่หรอก แต่ที่ยังทำงานต่อเพราะมีรายได้ที่ดี ที่เขายอมเหนื่อยก็เพื่อครอบครัวที่เขาได้ดูแลเป็นอย่างดี ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิตเขาเดินมาบอกว่า จะพาครอบครัวไปทานข้าว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป หลังจากที่ลูกชายเสียชีวิตอยากจะทราบสาเหตุที่ชัดเจนว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่

ตนเองไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมถนนพระราม 2 แบบนี้เกิดขึ้นกับใครซ้ำอีก หลังจากนี้จะนำศพนายนรากรไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางพูน ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี บ้านเกิดต่อไป

น.ส.ผิว ชาวเมียนมา

ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน นางสาวผิว อายุ 37 ปี ชาวเมียนมา เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อประสานเจ้าหน้าที่ ให้ช่วยตามหานายไท้ หุ่ย หยาง อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้อง ชาวเมียนมา ที่สูญหาย เธอเล่าว่า หลังเกิดเหตุไม่สามารถติดต่อหานายไท้ ได้อีกเลย พอไปเช็กรายชื่อผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลก็ไม่มี จึงสันนิษฐานว่า นายไท้อาจยังติดอยู่ในซากที่ถล่มลงมา จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหา ยอมรับว่าหากสูญเสียนายไท้ไปครอบครังคงลำบาก เพราะนายไท้ถือเป็นเสาหลักของครอบครัวคอยทำงานส่งเงินกลับไปให้ที่บ้านทุกเดือน

กระทั่งต่อมาได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ ว่านายไท้ หุ่ย หยาง ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลตากสิน ในวันเกิดเหตุ เป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 6