svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

DSI เผย “ผกก.โจ้” ถูกทำร้าย ไม่เป็นคดีพิเศษ แต่เป็นคดีอุ้มหาย

DSI เผย “ผกก.โจ้” ถูกทำร้าย ไม่เป็นคดีพิเศษ แต่เป็นคดีอุ้มหาย
14 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

DSI เผย “ผกก.โจ้” ถูกทำร้ายในเรือนจำ ไม่ได้เป็นคดีพิเศษ แต่เป็นคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย หลัง ตร.ขยายผลจากคดีทำร้ายร่างกาย

14 มีนาคม 2568 ความคืบหน้ากรณีที่ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริง กรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ได้เชิญ น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ ผกก.โจ้ และ แม่ มาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม ถึงย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ ผกก.โจ้ เข้าไปอยู่ในเรือนจำ จนถึงวันที่เสียชีวิตเพื่อรวมรวบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ ผกก.โจ้ และ แม่ น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของ ผกก.โจ้ และ แม่

ล่าสุด ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเชิญญาติมาให้ถ้อยคำ เนื่องจากวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางญาติมายื่นหนังสือถึงดีเอสไอ และเรื่องนี้มีการพิจารณาโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานทำให้บุคคลสูญหาย ที่มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน ส่วนคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จะมี กรมคุ้มครองสิทธิ์ ดีเอสไอ สตช. แพทย์ และฝ่ายปกครอง ซึ่งมีหน้าที่ติดตามและแสวงหาข้อเท็จจริง ในเรื่องของ พ.ร.บ.อุ้มหาย

 

และวันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ประขาชื่น ได้มาสอบปากคำญาติ จึงมาภารกิจเดียวกัน ในการสอบปากคำที่ดีเอสไอ และการสอบปากคำของ สน.ประชาชื่น จะมีทั้งคดีชันสูตรพลิกศพ หรือคดีการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ และคดีทำร้ายร่างกายที่ญาติเคยแจ้งความไว้ ซึ่งตำรวจได้ขยายผลในคดีทำร้ายร่างกายดีงกล่าว เป็นคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย แล้ว โดยคดีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ารับผิดชอบคดี และได้แจ้งไปที่พนักงานอัยการ เพื่อให้มาช่วยกำกับดูแลการสอบสวน

ดังนั้นคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ก็จะอยู่ในความรับผิดชอบของ สน.ประชาชื่น ที่มีพนักงานอัยการกำกับดูแลคดี และร่วมสอบปากคำด้วย โดยมีคณะอนุกรรมการฯ จะติดตามว่า ความคืบหน้าคดีไปถึงไหนอย่างไร ดังนั้นคดีดังกล่าวจะ “ไม่ได้เป็นคดีพิเศษ” เพราะ ตำรวจทำคดีแล้ว
ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ


 

ร้อยตำรวจเอกวิษณุ กล่าวว่า ส่วนบทบาทของดีเอสไอ และคณะอนุกรรมการฯ จะมีบทบาทในการดูข้อเท็จจริงว่า มีการดำเนินการในคดีนี้อย่างไร เพื่อเป็นการติดตามความคืบหน้าทางคดีด้วย ส่วนตำรวจก็จะมีการพิจารณาโทษตามความผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งหากมีการแจ้งความตามความผิดนี้ ผู้ชี้ขาดทางคดี ก็จะเป็น อัยการสูงสุด เบื้องต้นจะเข้าข่ายมาตรา 5, 6, 7 ทั้งนี้ความผิดจะถึงเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน

ส่วนการสอบปากคำญาติของ ผกก.โจ้ ในวันนี้ ญาติได้ยินยอมให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมรับฟัง โดยผู้ที่ทำการสอบสวนหลักคือ ตำรวจ แต่วันนี้ยังไม่ใช่การสอบในคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพราะส่วนนี้ต้องรอพนักงานอัยการร่วมสอบด้วย จึงเป็นการสอบในคดีการเสียชีวิตก่อน โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ จะรับฟังข้อมูลในวันนี้เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง และจะนำไปประชุมกับคณะกรรมการชุดใหญ่ในวันที่ 17 มีนาคมนี้

เมื่อถามว่า ประเด็นที่สอบถามญาติในวันนี้ เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกับ ผกก.โจ้ ในเรือนจำด้วยหรือไม่ ร้อยตำรวจเอกวิษณุ ตอบว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ก็มีหมด และญาติก็ให้การที่เป็นประโยชน์ ส่วนในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ วันที่ 17 มีนาคมนี้ จะมีความชัดเจนถึงรายชื่อผู้กระทำผิดเลยหรือไม่ ขอรอประชุม เพื่อรายงานความคืบหน้าของข้อเท็จจริง และการรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ผกก.โจ้ ผกก.โจ้

logoline
News Hub