“คดีแตงโม” ตร.ภ.1 ย้อนเกล็ด DSI ชี้ไม่มีอำนาจออกหมายเรียกคนมาสอบ

13 มีนาคม 2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 ได้มอบผู้เเทนไปยื่นหนังสือถึง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม กรณีอ้างถึงหนังสือของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาให้ถ้อยคำและส่งมอบพยานหลักฐาน ที่ออกโดย พ.ต.ต.ณฐพล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะได้รับมอบหมายจากอธิบดีเอสไอ ให้ดำเนินการแสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพิ่มเติม

จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ "แตงโม" มีพฤติการณ์ต้องสงสัย มีเหตุให้เชื่อได้ว่า อาจมีกลุ่มบุคคลหลายฝ่ายร่วมกันบิดเบือน กระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือบุคคลอื่นให้ไม่ต้องรับโทษทางอาญาหรือรับโทษน้อยลง มีเนื้อหาโดยรวม สรุปได้ว่า

1.ตามที่ พ.ต.ต.ณฐพล ซึ่งรับข้อสั่งการของท่าน ได้มีหนังสือให้ส่งพยานหลักฐานและให้ถ้อยคำดังกล่าว แต่มิได้มิได้ระบุว่า พยานหลักฐาน ดังกล่าวเป็นพยานวัตถุ หรือพยานเอกสาร เป็นเอกสารของทางราชการ หรือเอกสารส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับความครอบครองอย่างไร ซึ่งหากเป็นเอกสารหรือข้อมูลส่วนตัว ของใคร บุคคลใด ต้องแจ้งรายละเอียดให้ครบถ้วน ถึงช่วงเวลา วันเวลาที่ระบุเพื่อจะเข้าใจได้

และหากเอกสารข้อมูลดังกล่าวเป็นของทางราชการ ขออนุญาตจากทางราชการ ซึ่งจะต้องดำเนินการในส่วนระเบียบปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อมิให้เป็นการปฏิบัติราชการโดยมิชอบ เพราะการขอความร่วมมือของท่านระบุเพียงว่า “พยานหลักฐาน” แต่ไม่มีรายละเอียด ห้วงเวลา การเชื่อมโยง วัน เดือนปี ใด ที่ผู้อื่นจะทราบ หรือจดจำได้  และหากรายละเอียดของท่านไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และเข้าใจประเด็นไม่ตรงกัน ข้อมูลไม่ตรง อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อทางราชการ ผู้เกี่ยวข้อง หรือกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมในส่วนอื่น รวมทั้งอาจสุ่มเสี่ยงต่อคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาพิพากษาซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นศาล

2.ข้อมูลที่ต้องการสืบสวน มีแหล่งที่มาหรือได้รับการร้องขอ จากส่วนราชการใด หรือ บุคคลใด และบุคคลดังกล่าวมีข้อขัดแย้ง หรือเป็นคู่ขัดแย้ง กับบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐคนใด หรือส่วนหนึ่งส่วนใดหรือไม่ เป็นผู้มีส่วนได้เสีย เกี่ยวข้องโดยตรงกับการตาย หรือเป็นการนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงที่มีลักษณะเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิชอบ

เพื่อให้ประชาชนสนใจ หรือนำเสนอข้อมูลให้เกิดประเด็นในโซเซียล หรือการสื่อสารออนไลน์ อันอาจก่อให้เกิดผลทางการตลาด รายได้ ยอดวิว ยอดไลน์ ยอดแชร์ เพื่อเข้าสู่สาธารณะแก่ประชาชน แก่ประชาชน อันมิชอบหรือไม่  เพราะการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านต้องการ อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาล และอาจมีคู่ความในคดีนำไปเป็นข้อต่อสู้เพื่อให้พ้นผิด หรือมิต้องรับผิดในคดีอาญาได้    

3.แหล่งที่มาของการสืบสวน ซึ่งเป็นพยานวัตถุ หรือบุคคล ที่จะนำไปใช้ในชั้นศาล ได้มาโดยถูกต้องตามบทกฎหมายวิธิพิจารณาความอาญา หรือกฎหมายอื่นใดหรือไม่  เช่น หากเป็นวัตถุพยาน หรือบุคคลที่อ้างอิงจากนอกราชอาณาจักร ท่านหรือหน่วยงานของท่านได้ดำเนินการ ตามพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญาหรือไม่ อย่างไร

4.ข้อมูลเพื่อทำการสืบสวน  มีที่มา หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่ง มีการเปลี่ยนแปลง ตัดทอน ข้อความ หรือเป็นข้อมูลที่ผ่านการตรวจสอบความแท้จริง ถูกต้อง หรือเป็นเท็จหรือไม่อย่างไร บุคคลใดเป็นผู้รับมอบ รับรอง นำมา พบการครอบครองเพื่อนำส่งเข้าสู่การสืบสวน เพราะหากวัตถุหรือ สิ่งของ ข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นเท็จ อาจส่งผลในการให้ถ้อยคำไปเกี่ยวพันกับพยานหลักฐานอันเป็นเท็จดังกล่าวได้  

5.เกี่ยวกับพยานวัตถุ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ตลอดระยะเวลาที่เกิดเหตุ จนถึงปัจจุบันพบว่า มีหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องพบว่า บางวัตถุพยาน ได้ออกแถลงข่าวว่า เป็นวัตถุพยานหลักฐานเท็จ อันเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาโดยตรง และอาจมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหากวัตถุพยานเท็จดังกล่าว เช่นผ้าเปื้อนเลือด หรือดินโคลนบรรจุวัสดุ นำเป็นพยานหลักฐานในชั้นศาล เพื่อใช้พิสูจน์ความผิดทางอาญา  ย่อมมีผลให้บุคคลไม่ต้องรับผิดในทางอาญา หรือรับโทษน้อยลง  

เพราะเป็นวัตถุพยานเท็จ หรือโดยมิชอบด้วยประการอื่น ซึ่งได้แนบภาพข่าวของหน่วยราชการที่แถลงข่าว ที่นำเสนอต่อสื่อมวลชน  ตามวันเวลา สำเนาที่แนบมาพร้อมกันนี้ เพื่อให้ พ.ต.ต.ณฐพล ทำการสืบสวนตามกฎหมาย ตามข้อสั่งการของอธิบดีต่อไป ทั้งนี้ได้แนบส่งคลิปและเอกสารตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ข้อ 2,3 ด้วย

ซึ่งการพบเห็นการนำส่งพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ ย่อมต้องก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางบุคคล หรือทางราชการอย่างหนึ่งอย่างใด รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไป กับการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าว อันเป็นความรับผิดทางอาญาที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องรับผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ซึ่งการสืบสวนเพื่อดำเนินการกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวที่ความผิดเกิดขึ้นแล้ว ได้มีการดำเนินการที่เกี่ยวข้องอันเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสืบสวนโดยตรงตามที่ท่านรับผิดชอบ และบุคคลดังกล่าว หรือผู้พบเห็น หากเกี่ยวข้องเป็นพนักงานในการยุติธรรมโดยตรงที่มีส่วนรู้เห็น ช่วยเหลือ ได้มีการดำเนินการ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร  จึงแจ้งต่อท่านให้ปรากฏข้อเท็จจริง เพื่อรวมในการสืบสวน

6.หาก พ.ต.ต.ณฐพล แจ้งรายละเอียด เพื่อข้อมูลในการสืบสวนดังกล่าวมาได้ครบถ้วนแล้ว   ให้แจ้งวันเวลา ในการสืบสวน เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลได้ โดยข้าพเจ้าจะแจ้งสถานที่นัดหมายให้ทราบ พร้อมวันเวลาที่พร้อมเพียงกัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้ การดำเนินของท่านเกี่ยวพันในคดีซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล อาจก่อให้บุคคลในทางคดีได้รับประโยชน์ และอาจย่อมมีผลกระทบต่อความรับผิดทางอาญาของบุคคลที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี หรือ ทำให้บุคคลที่ต้องรับผิดตามคำพิพากษาของศาลไปแล้ว  ยกขึ้นเป็นข้ออ้าง รื้อเพื่อเปลี่ยนแปลงผลหรือคำพิพากษา ให้มิต้องรับผิดในทางอาญาอีก รวมทั้งยกเป็นข้ออ้างเพื่อมิให้ต้องรับผิดทางแพ่งในทางใดทางหนึ่ง  


อนึ่ง ในปัจจุบันปรากฎตามสื่อออนไลน์ โดยมีบุคคลอ้างคำพิพากษาศาลอื่น นอกจากศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้บุคคลหรือประชาชนทั่วไปที่ไม่มีความรู้ความชำนาญทางด้านกฎหมาย เข้าใจสับสนคลาดเคลื่อน   จึงได้แนบ บทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งบัญญัติว่า ห้ามมิให้ศาลยุติธรรมศาลใดศาลหนึ่ง รับคดีซึ่งศาลยุติธรรมอื่นได้สั่งรับประทับฟ้องโดยชอบแล้วไว้พิจารณาพิพากษา

เว้นแต่คดีนั้นจะได้โอนมาตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความ หรือตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา บัญญัติว่า ห้ามมิให้พิพากษา หรือสั่ง เกินคำขอ หรือที่มิได้กล่าวในฟ้อง เพื่อประกอบข้อมูลในการสืบสวนของท่านต่อไป และเพื่อมิให้บุคคลหรือประชาชนเข้าใจกระบวนการทางกฎหมายในขั้นตอน ระหว่างการสืบสวน และการสอบสวนผิดพลาดคลาดเคลื่อน   เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของท่านย่อมอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ และบทบัญญัติของกฎหมายที่ให้อำนาจไว้เท่านั้น  

ดังนั้น การใช้อำนาจให้บุคคลใดมาพบ หรือให้ส่งเอกสารหรือพยานหลักฐานใด ต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมายเท่านั้น  พ.ต.ต.ณฐพล ซึ่งดำเนินการในชั้นสืบสวน มีอำนาจเท่าที่ระเบียบ กคพ.ว่าด้วยการสืบสวนคดีความผิดทางอาญาเพื่อนำเสนอ กพค.เท่านั้น แต่ได้ลงนามมีหนังสือโดยอ้างบทกฎหมายที่เป็นอำนาจของพนักสอบสวนตาม  พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547มาตรา 24 วรรคหนึ่ง อันเป็นคนละชั้นกับการสืบสวน

ซึ่งการสืบสวน ไม่ปรากฎว่ามีอำนาจเรียก หรือสั่งให้ส่งสิ่งใด หรือพยานหลักฐานใดได้ ทั้งนี้เป็นไปตามที่ระเบียบและบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดไว้ จึงให้ชี้แจงอำนาจหน้าที่ในชั้นสืบสวนของพ.ต.ต.ณฐพล เพื่อให้เข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตรงกันต่อไปด้ด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา