11 มีนาคม 2568 ที่ สน.ประชาชื่น เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ภายหลังจาก พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดติดตามคดีการตายของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ที่ผูกคอตายภายในเรือนจำคลองเปรม เป็นเวลากว่า 3 ชม.
โดย พล.ต.ท.สมประสงค์ เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนทำคดีคืบหน้าไปมาก ได้พยานหลักฐานมาจำนวนมาก อย่างกล้องวงจรปิด ตำรวจได้ทำการตรวจสอบดูแล้ว เป็นช่วงเวลาวันเกิดเหตุที่ 7 มี.ค.โดยดูเหตุการณ์ทั้งภาพก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุแล้ว เป็นช่วงเวลาวัน ไม่มีอะไรผิดปกติ ซึ่งเป็นการดูภาพแบบต่อเนื่องทั้งวัน
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท่วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.
และดูภาพหน้าห้อง 2 ตัว ที่ส่องมาจาก 2 ด้าน ซึ่งเป็นมุมที่เห็นคนเดินผ่านปกติ และห้องหมายเลข 50 เวลาจะเข้าไป หรือ เวลาจะออกมา ก็จะต้องมีคนมาไขกุญแจ และในวันเกิดเหตุ ก่อนเสียชีวิตที่ ผู้กำกับโจ้ เข้าไปในห้อง มีเจ้าหน้าที่มาไขประตู พอเข้าไปก็ล็อกประตู และจากการดูกล้องวงจรปิด ผู้กำกับโจ้ ก็ดูปกติเดินในเรือนจำ แต่งกายก็ปกติ ทักทายพูดคุยกับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ปกติ ไม่ได้มีท่าทีจะเป็นอันตราย ซึ่งการทักทายอัธยาศัยของผู้กำกับโจ้ดูปกติ
"เห็นภาพไกลๆ ก็มีทักทาย ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่บางจุด ก่อนที่จะกลับขึ้นห้อง เห็นยกมือไหว้ครั้งเดียว แล้วเดินขึ้นห้อง ซึ่งตอนเดินขึ้นภาพไม่เห็น มาเห็นอีกทีตอนเข้าห้อง ไม่เห็นว่ามีคนเดินคุมหรือไม่ แต่ตอนเปิดประตูเข้าห้อง จะมีผู้ช่วยผู้คุมไขเข้าไป แล้วพอล็อก กุญแจจะไปรวมที่ส่วนกลาง ถ้าจะไขต้องวิ่งไปเอา ซึ่งอยู่ห่าง และคนไขกุญแจให้เข้าห้อง เป็นผู้ช่วยผู้คุมที่เป็นผู้ต้องขังด้วยกัน"
และภาพวงจรปิดที่ตรวจสอบ ตอนเดินเข้าไปในห้อง ไม่มีการเอาผ้าขนหนูเข้าไป ส่วนผ้าขนหนูอยู่ตรงไหนของใคร ใช้เป็นประจำหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
ทั้งนี้ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนไปเอากล้องวงจรปิดย้อนหลังวันเกิดเหตุ มาทำการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย รวมถึงได้ส่งกล้องวงจรปิดชุดแรกที่ได้มา ให้กับทางพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบด้วยว่า มีการตัดต่อหรือไม่อย่างไร
ส่วนผ้าที่พบใช้ในการผูกคอ พล.ต.ท.สมประสงค์ บอกว่า มีขนาด 1 เมตร 12 เซนติเมตร และจากการดูวงจรปิด ประกอบกับจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ วันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะเอายาไปส่งผู้กำกับโจ้ พอไปเรียกแล้วเงียบเลยก้มดูตรงตะแกรงด้านล่าง เห็นผู้กำกับโจ้นั่งอยู่ เรียกขยับไม่ตอบ แล้วห้องขังเอามือสอดเข้าไปได้ ก็เจอที่คอเหมือนมีผ้าอยู่ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เลยรีบวิ่งไปเอากรรไกรมาตัด แต่ตัดไม่ออก เลยไปเอาคัตเตอร์มาตัดทำให้ผ้าขาด ซึ่งพอดูวงจรปิด ก็เป็นไปตามคำให้การ
ส่วนลักษณะการตัดรอยตัดของผ้า ที่เอาไปผูกเป็นผืนเดียวหรือมีรอยฉีกอื่นหรือไม่นั้น จะต้องรอผลการตรวจสอบของทางพิสูจน์หลักฐาน เพราะตอนที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และภาพที่ได้ดูจากพนักงานสอบสวน พบว่า
“ผ้าถูกตัดออกอยู่แล้ว จะมีผ้าอยู่ 2 ส่วนคือ ส่วนที่ผูกกับเหล็ก และบางส่วนอยู่ที่พื้นด้านข้างตัวศพแล้ว เนื่องจากตอนที่ตำรวจเข้าไป ผู้กำกับโจ้ นอนอยู่กับพื้นแล้ว ไม่ได้ อยู่ในท่าผูกคอตาย ดังนั้นขณะที่เกิดเหตุ จึงไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร ตำรวจตอบไม่ได้ เพราะไม่มีใครเข้าไปนอกจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์”
“พนักงานสอบสวนไปที่เกิดเหตุ ตอนห้าทุ่ม ศพไม่ได้อยู่ในท่าแขวนคอตาย แต่ศพนอนกับพื้นแล้ว และศพมีผ้าคลุมนอนอยู่กับพื้นในห้อง ส่วนจะเป็นการเคลียร์แล้วหรือไม่นั้น จะต้องทำการสอบสวน กล้องไม่ได้เห็นภาพด้านในห้อง เห็นแค่ทางเดินเข้าออก ซึ่งหลังจากผู้กำกับโจ้ เข้าไปไม่เห็นคนอื่นเข้าไป”
ส่วนทีมชันสูตร ฝ่ายปกครอง แพทย์ เข้าไปตอน 10 โมงเช้า และเห็นเหมือนกันว่า ศพอยู่ที่พื้นแล้ว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เข้าไป ในวงจรปิดที่เห็น หลังผู้กำกับโจ้เสียชีวิต คือมีประมาณ 3-4 คน คนวิ่งไปใช้คัทเตอร์ตัด อีกคนโทรศัพท์ อีกคนมาด้านข้าง ทั้งนี้ ราชทัณฑ์ แจ้งว่าที่ต้องตัดผ้า เพราะผูกอยู่เป็นชิ้นเดียว เวลาจะดันประตู มันหนักดันไม่ได้ เลยทำให้ต้องตัดผ้า ดังนั้นเมื่อมีการตัดเอาศพมานอน มีผ้าคลุม ทำให้ต้องตรวจสอบโดยละเอียด มากกว่าการไปเจอร่างที่ผูกคออยู่เหมือนเคสอื่นๆ
ส่วนความยาวผ้าน่าจะผูกได้หรือไม่นั้น พล.ต.ท.สมประสงค์ บอกว่า ก็ยังตอบไม่ได้ และได้สั่งให้ พิสูจน์หลักฐานเข้าไปจำลองเหตุการณ์แล้ว และ ผู้กำกับโจ้ เสียชีวิต ตั้งแต่ประมาณ 2 ทุ่ม แจ้งตำรวจ 5 ทุ่ม ส่วนทำไมแจ้ง 5 ทุ่ม ต้องถามราชทัณฑ์ เพราะการจะเข้าไปในเรือนจำ จะต้องประสานเพื่อเข้าไปตรวจสอบ เพราะตามกฎหมายที่ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ กำหนดไว้ว่า การเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุไม่ใช่ตำรวจฝ่ายเดียว มีทั้งอัยการ แพทย์ ฝ่ายปกครอง และพนักงานสอบสวน ทำให้ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไรถึงได้นัดเข้าไปตรวจชันสูตรร่างตอน 10 โมงเช้า
ส่วนถ้าพบว่าเสียชีวิตแล้วต้องเรียกแพทย์เข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ แล้วทำไมถึงไม่มีการเรียกนั้น ก็เป็นประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเช่นกัน
ขณะนี้ยังรอผลการตรวจสอบ ดีเอ็นเอผ้าขนหนูโดยจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งดีเอ็นเอจะพิสูจน์ว่า ผ้าผืนนี้ เป็นผ้าที่ทำให้ผู้กำกับโจ้ตายจริงมั้ย เพราะตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็น ทั้งถูกทำให้ตาย หรือตายด้วยตัวเอง แล้วตายด้วยผ้าผืนนี้เพราะอะไรยังไง ซึ่งผู้ชำนาญการแต่ละด้านจะต้องไปหาคำตอบ โดยพนักงานสอบสวนมีหน้าที่รวบรวมพยานหบักฐานไม่มีมวยล้มต้มคนดู มีหน้าที่ต้องทำให้ปราศจากข้อสงสัยของสื่อมวลชนและสังคม เพื่อให้เกิดความคลี่คลาย
พล.ต.ท.สมประสงค์ ยังพูดถึง รอยเลือดที่พบ ด้วยว่า พบรอยเลือดเจอใกล้ๆ ตัวผู้กำกับโจ้ ในห้องเกิดเหตุ พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้วเป็นเลือดมนุษย์ อยู่ระหว่างตรวจดีเอ็นเอว่า เป็นเลือดของผู้กำกับโจ้หรือไม่ และจากการตรวจสอบตามร่างกายผู้กำกับโจ้ แขนด้านซ้ายมีรอยแทะกัดของสัตว์ ซึ่ง เป็นรอยใหม่ ซึ่งกว่าทีมชันสูตรจะได้เข้าไปชันสูตร ก็คือเวลา 10.00 น.หลังเสียชีวิตมาแล้ว 14 ชม. โดยเลือดที่เจอไม่เยอะ เป็นรอย2จุด แต่เห็นรอยชัด
พล.ต.ท.สมประสงค์ ยังบอกอีกว่า ในวันนี้พนักงานสอบสวนไปสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภายในเรือนจำ ทั้งผู้ต้องขัง ห้องข้างเคียง ห้องตรงข้าม เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เข้าเวรในวันดังกล่าว รวมถึงประเด็นที่ญาติติดใตการเสียชีวิตด้วย โดยจะต้องรอผลการสอบปากคำก่อน รวมถึงประเด็นเรื่องยาที่เอาไปให้ เบื้องต้นพบว่า เป็นยาคลายเครียด แต่จะให้ทุกวันเป็นประจำ หรือผู้กำกับโจ้เป็นคนขอ อยู่ระหว่างรอผลการสอบสวนเช่นกัน
ซึ่งประเด็นที่ตำรวจต้องตรวจสอบเพิ่ม เมื่อมีนักโทษเสียชีวิตจะต้องชันสูตร และเสนอให้ศาลไต่สวนดังนั้นจะต้องพิสูจน์ทราบทุกอย่างให้สิ้นข้อสงสัยว่า ผู้กำกับโจ้ตายเพราะผูกคอตาย หรือตายเพราะมีคนทำให้ตาย ดังนั้นจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ปราศจากข้อลังเลสงสัย ซึ่งได้กำหนดเวลาทำสำนวนให้แล้วเสร็จภายใน 30วันก่อนเสนอให้อัยการพิจารณา
ส่วนที่ญาติไปร้องดีเอสไอ ทางตำรวจก็พร้อมทำงานด้วยกัน ไม่มีปัญหา และไม่ได้อึดอัดใจอะไร ก็ขึ้นอยู่กับญาติ ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริง
ส่วนการมาร้องขอความเป็นธรรม 14 ม.ค. หลังจากนั้น พนักงานสอบสวนไปที่ราชทัณฑ์ แต่ยังไม่ได้เข้าไปสอบ เพราะติดขัดเรื่องระเบียบของราชทัณฑ์ เพราะการเข้าไปด้านในมีระเบียบที่จะเข้าไป ตำรวจจึงไปลงหนังสือขอเข้าพบเกี่ยวกับเรื่องการสอบสวน ตำรวจไม่ได้ล่าช้า เพราะได้ทำหนังสือให้ไปตรวจร่างกาย และแพทย์ก็ระบุว่า มีบาดแผลชายโครงด้านซ้าย รักษาหายใน 5 วัน ส่วนสาเหตุแผลมาจากโดนทำร้ายหรือไม่ตำรวจยังไม่ทราบ แต่ญาติมาแจ้งความไว้
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ลักษณะผ้าขนหนูเป็นผ้าบาง จุดที่ผูกกับลูกกรง เป็นการผูกเหมือนผูกผ้าทั่วไป เพียงแค่ 1 ทบ เท่านั้น