svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน

10 มีนาคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ ครึ่งร้อย เข้าแจ้งความกองปราบ กล่าวหา บริษัทเอเจนซี่ชื่อดังย่านลาดพร้าว โกงเงินค่าตัวและค่าสินค้า เสียหาย 20 ล้านบาท

10 มีนาคม 2568 เมื่อเวลา 09.30 น. กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ และ นักธุรกิจ เจ้าของแบรนด์ รวมตัวกันกว่า 20 ราย เข้าแจ้งความเอาผิดกับ "มิสเตอร์พี" (นามสมมติ) เจ้าของบริษัทเอเจนซี่ 3 แห่ง ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมระบุ พฤติกรรมเข้าข่ายการโกงเงินค่าตัวอินฟลูเอนเซอร์ และโกงเงินเจ้าของแบรนด์ รวมถึงไม่ได้จ่ายเงินพนักงาน มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท

น.ส.เขมิกา ฮุนตระกูล เจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางค์ และ น.ส. ดาวรัตณ์ เอียมสำอางค์ เจ้าของแบรนด์ สกินแคร์ เปิดเผยว่า มีการเปิดบริษัทเอเจนซี่ โดย "มิสเตอร์พี" เป็นเจ้าเป็นทั้ง 3 แห่ง ปัจจุบันบริษัทตั้งอยู่ย่านลาดพร้าว โดย น.ส.เขมิกา รู้จักกับบริษัทดังกล่าวเมื่อปี 65 และ น.ส.ดาวรัตณ์ รู้จักเมื่อปี 66 โดยรู้จักบริษัทดังกล่าวผ่านการยิงแอดโฆษณาในโซเชียล เมื่อเห็นว่าน่าสนใจจึงได้มีการติดต่อไปที่บริษัทด้วยความที่เป็นเจ้าของแบรนด์จะลงทุนอะไรซักอย่างก็จะต้องให้เกิดความน่าเชื่อถือมากที่สุด จึงได้ติดต่อเข้าไปขอดูบริษัท ณ ตอนนั้นตั้งอยู่ย่านรัชดา เมื่อไปดูก็พบว่า มีบริษัทจริงมีพนักงานจำนวน 40 ถึง 50 คน กำลังนั่งทำงานอยู่ภายในบริษัทจึงทำให้มีความเชื่อถือ จึงได้เริ่มลงทุน
เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน
 

น.ส.ดาวรัตณ์ กล่าวต่อว่า มีการลงทุนกับบริษัทนี้ในสัญญา 2 ล้านบาท เกี่ยวกับโปรดักส์สกินแคร์ ให้บริษัทเอเจนซี่นี้เป็นตัวการในการโปรโมทสินค้า ซึ่งทางบริษัทเอเจนซี่อวดอ้างว่า หากมาลงทุนกับบริษัทเขาก็จะได้กำไรกับคืนมา 8 ล้านบาท จึงได้มีการผลิตสินค้าดังกล่าวมา 6,000 ชิ้น ตามที่มีการคุยกันไว้ แต่ก็มีความสงสัยเลยได้ถามกับตัวเจ้าของบริษัทว่า ดีลที่คุยกันไว้สามารถทำได้จริงหรือไม่ ซึ่งทางบริษัทก็อ้างอีกว่า เขามีแผนสำรอง โดยการจะจ้างดารามาจัดแฟนมีต และขายบัตร ควบคู่กับสินค้าไปด้วย ซึ่งก็อ้างว่าทำสำเร็จมาแล้วหลายเจ้า 

"แต่สุดท้าย ก็ถูกโกง ไม่ได้รับผลงานจากทางบริษัท จึงได้กลับไปดูที่บริษัทย่านรัชดาอีกครั้ง ปรากฏว่าตึกดังกล่าวถูกล็อก พอไปสอบถามเจ้าของตึก พบว่าทางเจ้าของบริษัทเอเจนซี่นั้นติดค่าเช่าไม่ยอมจ่ายค่าเช่ามาแล้วหลายเดือน ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ย่านลาดพร้าว"

เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน

ขณะที่ น.ส.เขมิกา ระบุว่า ตนเองทำสัญญากับบริษัทดังกล่าว 2 ส่วน คือ อีเวนต์และการตลาด ในส่วนของงานอีเวนท์นั้นมีได้งานบ้าง แต่กว่าจะได้งานก็ค่อนข้างลำบาก อย่างดาราที่มีการตกลงกันว่าจะให้มาโปรโมทแบรนด์ พอติดต่อไปที่ค่ายของดาราคนดังกล่าวก็พบว่าทางค่ายไม่ได้รับงานจากทางบริษัทเอเจนซี่นี้แล้ว เพราะมีปัญหาในเรื่องของการจ่ายค่าตัว เลยมองว่าทางบริษัทมีเจตนาในการหลอกลวงมาตั้งแต่ต้น

ในส่วนของการตลาดในสัญญาฉบับนี้ทางแบรนด์ไม่ได้รับงานเลย เพราะเวลาได้ดูงานก็จะพบว่างานนั้นนำมาใช้ไม่ได้ บริษัทเอเจนซี่ชอบทำงานมาให้ทางแบรนด์มีตำหนิ มีการประวิงเวลา อีกทั้งยังอ้างในส่วนของอินฟลูเอนเซอร์ว่า ทำงานไม่เรียบร้อย ขอเวลาไปแก้ไข แล้วก็จะหายไป พอถึงเวลากำหนดก็จะอ้างว่าฝั่งอินฟลูเอนเซอร์นั้นเรื่องมากติดงานอื่นต้องรอเวลา แต่เมื่อผ่านไปสักพักทางอินฟลูเอนเซอร์ก็ติดต่อเข้ามาที่แบรนด์ว่า งานมีปัญหาอะไรหรือไม่ ทำไมถึงยังไม่โอนเงินมาให้ ทั้งที่ทำงานเสร็จไปเป็นเดือนแล้ว 

"ตอนนั้นรู้สึกสับสน เพราะได้จ่ายเงินก้อนดังกล่าวตามสัญญาให้กับบริษัทเอเจนซี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยืนยันว่า มีเอกสารการจ่ายเงินการทำสัญญาทั้งหมด  จนถึงที่สุดแล้วเขาจะเป็นคนขอยกเลิกสัญญาเอง แต่ทางบริษัทเอเจนซี่ก็ยังทำเอกสารปลอม และอ้างว่าทางแบรนด์เป็นคนขอยกเลิกสัญญา เมื่อถูกทางแบรนด์ทวงถามเรื่องเงิน และงานมากๆทางบริษัทเอเจนซี่ก็บอกว่าจะรับผิดชอบ แต่การรับผิดชอบนั้นจ่ายมาแค่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท ทั้งที่ความเสียหายบางคนมีมูลค่าเป็นหลักแสนถึงล้านบาท"

น.ส.เขมิกา กล่าวอีกว่า ทางเจ้าของบริษัทก็บอกกับแบรนด์ว่า ไม่หนีแน่นอน อ้างว่าตอนนี้ตนเองทำธุรกิจล้ม แต่เธอก็ตั้งคำถามว่าล้มอะไร เมื่อรายรับของคุณแค่บัญชีเดียวคุณก็มีเงินหมุนเวียนในบัญชี 35 ล้านบาท อีกทั้งยังตั้งคำถามว่าทันทีที่ลูกค้าโอนเงินให้อีกวันนึงคุณก็จะไปเบิกเงินออกมาทันทีคุณทำเพื่ออะไร ทั้งที่ไม่ได้เอาเงินไปทำงาน อีกทั้งกรมสรรพากรได้มีการเรียกเก็บภาษีที่บริษัทของสามีของเธอที่มีการดีลงานกับบริษัทเอเจนซี่นี้ปรากฏว่า ไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวนี้จดทะเบียนกับสรรพากร 

อยากให้สังคมรับรู้กระบวนการแบบนี้ เพราะตอนนี้ได้ยินว่ามีผู้เสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ และมีคนที่ใช้วิธีการแบบนี้ในการไปเอาเปรียบคนที่ทำมาหากิน เพราะอินฟลูเอนเซอร์ก็ทำงานเพื่อที่จะเอาเงินไปเลี้ยงดูครอบครัว หรือเอาไปเรียนหนังสือ พร้อมฝากไปถึงเจ้าของบริษัทว่า “อย่ามุดหัวหนีหายไป” 

เธอยังเล่าอีกว่า ทางเจ้าของบริษัทไปข่มขู่ว่าจะฟ้องร้องจนคนอื่นจนทำให้ไม่กล้าเข้ามาแจ้งความ อย่างพนักงานภายในบริษัทของเขาก็ถูกข่มขู่ว่า “ไปฟ้องสิกรมแรงงาน เขาไม่กลัว” เพราะทางเจ้าของบริษัทไม่จ่ายเงินให้กับพนักงานมาแล้วหลายเดือน ทำให้พนักงานบางส่วนทยอยลาออก แต่ก็ไม่กล้าเข้ามาแจ้งความเนื่องจากกลัวถูกฟ้อง

นอกจากนี้ได้ยินมาจากอดีตพนักงานของบริษัทเอเจนซี่ว่า ทางเจ้าของแบรนด์ตั้งใจที่จะทำให้งานของเธอนั้นล่ม ทั้งไม่จ่ายเงินค่าสถานที่ ไม่จ่ายเงินดาราที่จ้างมา นอกจากนี้ตนได้มีการจ้างบริษัทเอเจนซี่อื่นให้จัดอีกอีเว้นท์ ซึ่งทางบริษัทคู่กรณี ได้มีการส่งคนมาถ่ายรูปภายในงานและนำไปขึ้นในเพจอ้างว่างานนี้ทางบริษัทดังกล่าวเป็นคนทำเอง เป็น ผลงานของบริษัทตนเอง 
เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน

ด้าน นางสาว อัมพาพันธุ์ คำคุณ หรือ การ์ตูน เจ้าของเพจ แม่จ๋าๆพามาตาไปเที่ยวหน่อย เล่าว่า ได้มีการรวบรวมกันระหว่างอินฟลูเอนเซอร์หลายๆคน และเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์สินค้าชื่อดัง และได้มีการพูดคุยกันว่าเราจะทำยังไงให้คนอื่นๆที่เขาโดนเหมือนกันให้เขารู้ตัวว่าโดนหลอกแล้วก็ได้มีการโพสต์บนเพจส่วนตัวว่าโดนบริษัทนี้หลอก และบริษัทดังกล่าวก็ได้ติดต่อมาหาตนส่วนตัวว่าจะฟ้องอาญาว่าทำให้บริษัท

เราก็สงสัยว่าทำไมคุณไม่โทษตัวเองว่าทุกอย่างที่คุณล้มก็เกิดจากคุณเองและอีกอย่างเราก็แค่อยากจะออกมาเป็นกระบอกเสียงให้กับคนอื่นเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคุณและอีกอย่างจะได้รวบรวมผู้เสียหายทั้งหมดที่ตกเป็นเหยื่อของคุณได้มาแจ้งความร้องทุกข์ด้วยกันและยังได้มีการแอบอ้างว่าเคยจ้างหนุ่มกรรชัยมาโปรโมทสินค้าให้บริษัทเขาด้วย เขายังบอกอีกว่าถึงแม้เขาจะจ่ายเงินไม่ครบแต่เขาก็ยังจ่ายอยู่ แล้วยังมีการบอกว่าไม่กลัวและยังบอกว่ากล้าที่จะไปออกรายการโหนกระแส ก็ยืนยันว่าถ้าเขากล้าที่จะไปออกรายการพวกเราก็กล้าเหมือนกันเราก็อยากให้เขาพูดทุกอย่างออกมาว่าสิ่งที่เขาทำมันเป็นสิ่งที่ผิดหรือเป็นสิ่งที่ถูกหรือว่าเราเข้าใจผิดไปเองแต่อยู่ที่ว่าเขาจะไปหรือไม่  

ส่วนความเสียหายทั้งหมดที่ตนเสียไปคือตอนแรก 80,000 บาท และตนได้ฟ้องร้องไปแล้วต้องจ่ายค่าดอกเบี้ย ก็โดยรวมทั้งหมดก็ประมาณประมาณ 100,000 บาท และเงินที่ควรจ่ายให้กับอินฟลูเอนเซอร์ แต่เขาก็ไม่จ่ายกับหายตัวไปทั้งที่เขารับเงินมาจากเเรียบจ้าของแบรนด์เรียบร้อยแล้ว แต่เงินไม่ถึงมืออินฟลูเอนเซอร์และพนักงานในบริษัทเลย 
เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน
นายเลิศฤทธิ์ จันทริมา และ นายบุญรอด อารีย์วงษ์ จาก ช่องภูเขา ชาแนล ผู้ติดตาม 3 แสนคน เล่าว่า วันนี้ตนก็เป็นหนึ่งผู้เสียหายเหมือนกันที่จะมาแจ้งความในวันนี้ ยอดความเสียหายของตนอยู่ที่ 45,000 บาท ซึ่งก็ไม่ได้เป็นยอดเงินที่เยอะมาก แต่ตนอยากมาเป็นกระบอกเสียงให้กับอินฟลูเอนเซอร์หน้าใหม่ให้ระวัง  โดยพฤติการณ์ของเขา คือจะทักมาทางไลน์ซึ่งเราทำงานมากับเอเจนซี่หลายคนไม่เคยเกิดปัญหาแบบนี้ จนมาเจอกับเอเจนซี่คนดังกล่าวนี้ เราจึงเชื่อใจไม่คิดว่าเขาจะมาหลอก 

หลังจากได้มีการพูดคุยก็ได้มีการตกลงการทำงานเมื่อทำงานเสร็จก็ได้ส่งงานให้กับบริษัทดังกล่าวและได้ทวงถามเรื่องค่าจ้าง ทางบริษัทบอกว่าจะจ่ายให้  แต่ก็รอนานผิดปกติจึงได้ทักท้วงไปที่ทางบริษัท เขาเลยถ่ายหลักฐาน เป็นเช็คเงินสด และบอกให้ตนไปเช็คว่าเงินได้หรือยัง ซึ่งตนก็พยายามเช็ค แต่กับไม่มีเงินเข้าในบัญชีเลย พอทวงถามไปมากๆเขาก็ยอมรับว่า เช็คเงินสดแค่ถ่ายมาให้ดูเฉยๆ ยังไม่ได้เอาเงินไปเข้าให้  ถามเรื่องเงินบ่อยครั้งเขาก็โมโหแล้วบอกว่า “เขาเป็นประธานบริษัทเขาจ่ายเงินอย่างแน่นอน“

ซึ่งตนก็ตั้งคำถามว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือเป็นประธานบริษัทมันก็ไม่ใช่ข้ออ้างในการที่คุณจะมาเบี้ยวเงินค่าจ้างของเรา และเราก็มีหลักฐานทุกอย่าง เขาก็มีการบ่ายเบี่ยงมาตลอดเวลา และเราทวงเงินมาประมาณหนึ่งปีแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เลย จึงได้ออกมาในวันนี้เพื่อที่จะมาแจ้งความแล้วก็เป็นกระบอกเสียงให้กับอินฟลูเอนเซอร์ หน้าใหม่หลายๆคนเรื่องของการรับงานว่าต้องเช็คให้ดี ก่อนรับงานว่าเอเจนซี่ที่จ้างเราน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

ด้าน นายเอ  กล่าวว่า บริษัทนี้ส่วนใหญ่มีพฤติการณ์ให้ผู้เสียหายแต่ละรายแยกกันไปฝ้องร้อง เนื่องจาก จะเข้าเป็นคดีแพ่ง พอเป็นเช่นนี้ทางบริษัทดังกล่าวก็จะไม่จ่ายเงินเช่นเดิม เพราะฉะนั้นในวันนี้ที่พวกเรามารวมตัวแจ้งความกัน ไม่ใช่เเค่อยากที่จะได้เงินคืนแต่ต้องการที่จะให้คู่กรณีได้รับกรรมกับให้ได้รับบทเรียนทางคดีอาญา
เจ้าของแบรนด์-อินฟลูฯ แจ้งความกองปราบฯ บริษัทเอเจนซี่ โกง 20 ล้าน
ต่อมา เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน ภายหลังกลุ่มผู้เสียหายอินฟลูฯ และเจ้าของแบรนด์ เข้าพบพนักงานสอบสวนที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเริ่มต้นจาก บก.ปคบ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค) พิจารณาแล้วไม่เข้าหน้างานรับผิดชอบ จึงส่งต่อไปพบ พงส.บก.ป. (กองบังคับการปราบปราม) เมื่อพิจารณาแล้วไม่เข้าฉ้อโกง จึงส่งต่อไปพบ พงส.บก.ปอศ.(กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) โดยใช้เวลาทั้งหมดกว่า 2 ชม. ออกมาด้วยความผิดหวัง

พร้อมระบุว่า สรุปสุดท้าย บก.ปอศ. รับแจ้งความผู้เสียหายในส่วนของเจ้าของแบรนด์สินค้าที่ถูกโกงจำนวน 2 ราย นอกนั้นที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ พนักงานสอบสวนแนะนำให้ฟ้องแพ่งเอาผิดต่อไป

ก่อนหน้านี้ มีเจ้าของแบรนด์รายหนึ่งได้เคยฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย "มิสเตอร์พี" เจ้าของบริษัทรายนี้ ศาลตัดสินให้จ่ายค่าเสียหายรวมดอกเบี้ย 1 แสนบาท  แต่ "มิสเตอร์พี" ก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายตามคำสั่งศาลแต่อย่างใด

logoline
News Hub