4 มีนาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยความคืบหน้า "คดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก" ว่า เมื่อวานที่ผ่าน (3 มี.ค.68) คณะพนักงานสอบสวน ได้มีการประชุมหารือกับ พล.อ.เดชนิธิศ เหลืองงามขำ ผอ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พร้อมด้วย แพทย์หญิง จิตติมา ปรีชา ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ถึงแนวทางการดำเนินคดี แนวทางการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตยา
โดยแบ่งกลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับคดีเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือ กลุ่มผู้ป่วย
กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มระดับสั่งการ
กลุ่มที่สาม คือ ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ส่วนการทำงานหลังจากนี้ ตนสั่งระดมคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดของกองบัญชาการสอบสวนกลางมาร่วมทำคดีนี้ เพื่อให้คดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องที่รัฐฯได้รับความเสียหายมานานแล้ว ซึ่งในวันพุธนี้ (5 มี.ค.68) พนักงานสอบสวนทั้งคณะจะเข้าประชุมวางกรอบการทำงาน
พร้อมทั้งวางแนวคำถาม ตรวจสอบเวชระเบียนของผู้ป่วย ชื่อผู้ป่วย ประวัติของผู้ป่วยแต่ละคน เพื่อตรวจสอบว่าแต่ละคนเป็นผู้ป่วยจริงหรือไม่ และเป็นผู้ป่วยที่ต้องได้รับการใช้ยาตัวใดบ้าง หลังจากนั้นจะมีการไปสอบปากคำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอีกกว่า 100 รายที่จังหวัดลพบุรีด้วย ซึ่งจะพยายามทำให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน
เบื้องต้นตามรายงานการสืบสวนพบว่า คดีนี้มีผู้ร่วมกระทำผิดเป็นขบวนการใหญ่ ผู้เกี่ยวข้องมีทั้ง ทหาร ,หมอ ,พยาบาล ,เจ้าหน้าที่ธุรการ และผู้ป่วย
ส่วนคำถามที่หลายคนติดใจสงสัยว่าจุดหมายปลายทางของยาดังกล่าวถูกนำออกไปอยู่ที่ไหน ขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะรู้แล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้
คดีนี้ผู้กระทำผิดบางคนยังกระทำผิดต่อเนื่องในโรงพยาบาลอื่นอีก ตำรวจสอบสวนกลางจะดำเนินการขยายผลต่อไป โดยเชื่อว่ายังมีโรงพยาบาลของรัฐอีกหลายแห่งที่กระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีกด้วย