27 กุมภาพันธ์ 2568 การเข้าช่วยเหลือ "น้องไข่มุก" หญิงสาววัยเพียง 14 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ นางเอ (นามสมมติ) คุณแม่แทบใจสลาย เมื่อรู้ว่าลูกสาวถูกหลอกไปประเทศกัมพูชา
กระทั่งต่อมา ได้เข้าแจ้งความและทางการไทย ขอควมช่วยเหลือไปทางกัมพูชา กระทั่งตำรวจกัมพูชา สามารถจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ขณะหลบหนี เมื่อเจอด่านตรวจ ยอมปล่อยตัวน้องไข่มุก พร้อมประสานตำรวจไทยรับตัวกลับสู่อ้อมกอดแม่
ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา คุณแม่ พร้อมกับตำรวจ ปคม. ตำรวจ ตม. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงต้นอ้อเป็นหนึ่ง และมูลนิธิวินวิน ไปรอรับน้องไข่มุก ที่บริเวณหน้าด่านถาวรคลองลึก อำเภออรัญประเทศ พร้อมผู้การทหารพรานที่12 ผู้กำกับ ตม. สระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทันทีที่มาถึง น้องไข่มุก ได้โผเข้ากอดคุณแม่และคุณพ่อ ร้องไห้ ด้วยความดีใจ ได้มีโอกาส เข้าสู่อ้อมกอดแม่และพ่ออีกครั้ง เคสของน้องไข่มุก ถือเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกไปอายุน้อยที่สุด ที่สามารถช่วยเหลือกลับมาได้
เปิดไทม์ไลน์ ตามหาตัว
เมื่อเวลา 20.00 น วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ด่านชายแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง พร้อม นางเอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี คุณแม่ของ น้องไข่มุก อายุ 14ปี ได้มารอรับลูกสาว หลังได้รับข่าวดีว่าได้รับการช่วยเหลือจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์
คุณแม่เอ บอกว่า ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง หลังจากตรวจสอบพบว่ามีรถยนต์มารับตัวลูกสาวหายตัวออกไปจากบ้าน และทราบว่าลูกตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปลวกแดง ให้ข้อมูลว่า ได้มีการประสานไป ยัง สภ. คลองลึก จ.สระแก้ว ในเบื้องต้น ก่อนประสานติดตามหาข่าวถึงกลุ่มขบวนการในกัมพูชา จนไปได้ข้อมูลจากกลุ่มรถซาเล้ง ชาวกัมพูชา ซึ่งเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะน้องไข้มุก มาถึงด่านคลองลึกแล้วถูกขบวนการนี้นำตัวไป
ทั้งนี้แนวทางการสืบสวนและประสานร่วมมือกับทางกัมพูชา กระทั่ง ทางกัมพูชาได้มีการกดดันและข่าวภายในประเทศไทยกดดันอย่างหนักจนเกิดความกลัว
ข้อมูลล่าสุด เมื่อช่วงคืนวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา น้องไข่มุก ถูกนำตัวไปที่บริเวณชายแดนกัมพูชา- เวียดนาม แล้วไปพบเจอด่านตรวจและการตรวจค้น จึงวกรถกลับมาเพื่อจะมาตั้งหลักใหม่ที่ปอยเปต แต่ถูกทางการกัมพูชา ซึ่งเฝ้าดูพฤติการณ์อยู่ จับได้กลางทางและนำมาสู่การจับกุม ส่งตัวน้องไข่มุกกลับมายังประเทศไทย
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปลวกแดง นำโดย พ.ต.อ.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย ผกก.สภ.ปลวกแดง มอบหมายให้ พ.ต.ท.วราวุฒิ นิตยวัน รอง ผกก. สืบสวน ประสานงานกับ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว รับตัว “น้องมุก” เด็กหญิงวัย 14 ปี กลับคืนสู่อ้อมกอดแม่ หลังถูกหลอกไปทำงานในฝั่งกัมพูชาเป็นเวลา 4 วัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อสืบหาผู้เกี่ยวข้องในขบวนการดังกล่าว
คุณแม่เอ เล่าว่า ทางไทยและกัมพูชา ร่วมถึงสื่อในประเทศกดดันอย่างหนัก ทำให้เขายอมปล่อยตัวน้องกลับมา โดยที่น้องปลอดภัยและไม่มีการทำร้ายร่างกายน้อง ระหว่างทางน้องก็ยังกลัวว่าเขาจะหลอกอีกหรือไม่ แต่พอเห็นแม่น้องก็โล่งใจเป็นอย่างมาก
"น้องอยากให้เข้าไปช่วยคนไทยที่เหลือด้วย มีเป็นร้อยๆคน ต่างชาติก็มี จีนและกัมพูชาก็มี อยู่ทางฝั่งชายแดนกัมพูชาติดเวียดนาม"
น้องไข่มุก เหยื่อ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ระบุว่า ออกจากบ้านพักที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้แชตกับชายคนหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันไลน์ หลอกให้ไปทำงานที่จังหวัดสระแก้ว โดยขับรถมารับถึงที่บ้าน บอกว่า ห้ามนำเรื่องนี้ ไปบอกใครเด็ดขาด
หลังจากออกจากบ้าน ถูกพาเดินทางไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มุ่งหน้าเข้าไปประเทศเพื่อนบ้าน ตอนแรกไม่รู้ว่าต้องไปทำงานผิดกฎหมาย หรือไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์
น้องไข่มุก บอกอีกว่า ถูกพาไปทำงานที่ฝั่ง ประเทศกัมพูชา ชายแดน ติดกับประเทศเวียดนาม ตลอด 5 วัน ที่อยู่ที่นั่นถูกบังคับให้ทำงานตั้งแต่ 09.00 น. และต้องหาเหยื่อให้ได้ 100 ราย หากทำไม่ได้ก็จะไม่ได้กินข้าว และจะถูกทำร้าย ถูกกักขัง
ทั้งนี้ ในการเดินทางกลับไทยของ น้องไข่มุก เป็นไปด้วยความยากลำบากต้องเดินทางตลอดทั้งวัน ระยะทางประมาณ 200-300 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง ต้องมีการสลับรถตลอดการเดินทาง บางจุดไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทำให้ไม่สามารถ ติดต่อใครได้ ทำให้ต้องลุ่นอย่างหนักว่าจะมาถึงชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อใด
น้องไข่มุก ยังบอกอีกว่า ยังมีคนอื่น ๆ ที่เป็นคนไทย และอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน น้องไข่มุก ที่ทำงานอยู่ที่นั่น ขณะที่แม่ของน้องไข่มุก ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และสื่อมวลชน ที่ช่วยเหลือลูกสาวกลับมาสู่อ้อม อกได้สำเร็จ บรรยากาศเต็มไปด้วย รอยยิ้มบนคราบน้ำตาแห่งความยินดี ของทุกหน่วยงานที่ได้เข้าช่วยเหลือ
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ บก.ปคม. และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสระแก้ว จะทำการสอบปากคำ น้องไข่มุก ว่าการเดินทางข้ามประเทศไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ครั้งนี้ เป็นเหยื่อถูกหลอก หรือเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือไม่ โดยมีเจ้าหน้าที่ พ.ม.สระแก้ว ร่วมกับสอบในครั้งนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ ภัทรพงศ์ สุภาพร ผกก.ตม.สระแก้ว หลังจากได้รับการประสานงาน จากทางเจ้าหนาที่ สภ. ปลวกแดง ตนเอง ก็ไม่รอช้า รีบประสานงานไปยังฝั่งตม.ประเทศกัมพูชา ซึ่งเคสนี้ ถือว่า พบตัวน้องได้เร็ว และยังโชคดี ที่สามารถนำตัวน้องกลับคืน สู่อ้อมกอดของ พ่อ-แม่ได้ และยังอยากฝากเตือน สำหรับคนที่คิดว่า จะมาทำงาน โดยที่ มีข้อเสนอรายได้สูงๆ นั้นมันไม่มีอยู่จริง มันจะมีแต่พวกที่ทำงานไม่สุจริต เท่านั้น