svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

มีหนาว! อสส.ตั้ง "วัชรินทร์" อัยการเอฟบีไอ ดูคดี 7 ตร.รุมยำผิดตัว

งานนี้มีหนาว! อัยการสูงสุดตั้ง "วัชรินทร์ ภาณุรัตน์" อัยการเอฟบีไอ นั่งหัวหน้าคณะทำงาน ดูคดี 7 ตำรวจจราจรรุมยำผิดตัว เตรียมประชุมร่วมดีเอสไอ 12 มี.ค.นี้

กรณี 7 ตำรวจจราจร สังกัดกองกำกับ 1 บก.จร. ก่อเหตุร่วมกันทำร้ายร่างกายคนขับรถมาสด้าสีแดง นายธนานพ อายุ 33 ปี ลูกชาย พ.ต.ท.ธนชัย อายุ 61 ปี อดีต สว.กก.2 บก.ปทส. เกษียณอายุราชการ ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณใกล้ด่านตรวจบริเวณซอยประเสริฐมนูกิจ 21 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กทม. เจ้าหน้าที่เข้าใจผิดว่า นายธนานพ เป็นคนขับรถมาสด้าสีแดงแหกด่านตรวจ แต่ปรากฏว่าเป็นการจับผิดตัว เมื่อกลางดึก วันที่ 4 ธ.ค.67 โดยในส่วนคดีอาญาได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ ตร.ทั้ง 7 นาย ความผิดฐาน "เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ" ตำรวจทั้ง 7 นาย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ได้มีหนังสือแจ้งพนักงานอัยการเพื่อทราบและพิจารณาข้อเท็จจริงว่าเป็นความผิดหรือไม่ 

 

 

มีหนาว! อสส.ตั้ง \"วัชรินทร์\" อัยการเอฟบีไอ ดูคดี 7 ตร.รุมยำผิดตัว

 

26 กุมภาพันธ์ 2568 คืบหน้าในเรื่องนี้ นายโชคชัย สิทธิผล อธิบดีอัยการ สำนักงานสอบสวนได้มีหนังสือตอบกลับไปยังดีเอสไอ แจ้งรายชื่อพนักงานอัยการที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งตั้งคณะทำงานผู้เข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ ในคดีดังกล่าวซึ่ง ประกอบด้วย 

 

 

มีหนาว! อสส.ตั้ง \"วัชรินทร์\" อัยการเอฟบีไอ ดูคดี 7 ตร.รุมยำผิดตัว นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีสำนักงานการสอบสวน อัยการมือสอบสวนชื่อดัง

 

หัวหน้าคณะทำงาน

 

 

1.นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีสำนักงานการสอบสวน อัยการมือสอบสวนชื่อดัง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ฉายาอัยการเอฟบีไอ
2.นางสาววณี เกษตรธรรม อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 5 เป็นรองหัวหน้าคณะทำงาน 

 

 

มีหนาว! อสส.ตั้ง \"วัชรินทร์\" อัยการเอฟบีไอ ดูคดี 7 ตร.รุมยำผิดตัว

 

มีหนาว! อสส.ตั้ง \"วัชรินทร์\" อัยการเอฟบีไอ ดูคดี 7 ตร.รุมยำผิดตัว

 

 

 


คณะทำงานประกอบด้วย 

 

 

1.นางสาวทักษอร สุวรรณสายะ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด 
2.นางสาวบุษยภา เมณฑกา อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
3.นายธีรัช ลิมปยารยะ อัยการจังหวัดประจำสำสำสำนักงานอัยการสูงสุด 
4.นางสาวศรัณย์ตา พงศ์หมายเกื้อ เจ้าพนักงานคดีชำนาญการพิเศษ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ 

 

 

มีอำนาจหน้าที่ ดำเนินการตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนในทันที เพื่อให้เป็นตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ฯ เเละระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าด้วยการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯและแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการดำเนินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายฯ โดยเคร่งครัด

 

โดยจะให้เข้าร่วมการประชุมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วันที่ 12 มี.ค.68 ที่ห้องประชุม 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานคดีนี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ฯ ซึ่งถือว่าเป็นการจับกุมควบคุมตัวและมีการทำร้ายร่างกาย ไม่ต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  เนื่องจาก  พรบ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 31 บัญญัติไว้เพียงแค่แจ้งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบเท่านั้น  

 

เพราะเมื่ออัยการสูงสุดชี้ขาดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบแทนพนักงานสอบสวนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลก็เป็นอำนาจหน้าที่ อสส.สั่งชี้ขาดให้กรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจสอบสวนได้ แต่การสอบสวนดังกล่าวต้องมีอัยการเข้าไปตรวจสอบและกำกับการสอบสวนซึ่งเป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว เมื่อพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบแล้วถือว่าคดีนี้เป็นคดีพิเศษ  

 

เทียบเคียงกับคดีที่เกิดขึ้นคือคดีลุงเปี๊ยกที่ถูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วมีการซ้อมทรมาน ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นผู้มีอำนาจสอบสวนและมีอัยการเข้ามาตรวจสอบกำกับการสอบสวน