24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณา 812 ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายงานสนธิทอร์ค เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "ทนายเดชา" นายเดชา กิตต์วิทยานันท์ หรือทนายจุ๊กกรู เป็นจำเลยในความผิดฐาน หมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328 และมาตรา 332
นายสนธิ ลิ้มทองกุล
โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล โจทก์เดินทางมาศาลพร้อมทนายความ ขณะที่ทนายเดชา ซึ่งเคยอ้างว่าประสงค์จะไกล่เกลี่ยคดีไม่ได้มาศาล มีเพียงทนายความมาแทน
เมื่อถึงเวลานัดทนายความจำเลย แถลงต่อศาลว่า ขอเลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไปก่อน เนื่องจากนายเดชาติดว่าความในคดีอื่น ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้เลื่อนไปนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นายอติชาต แสงขาว ทนายความนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง แต่ทนายความจำเลยแถลงต่อศาลว่านายเดชา จำเลยติดภารกิจที่ศาลอื่น จึงไม่สามารถมาศาลได้ จึงเลื่อนไปอีกครั้งวันที่ 16 มิ.ย.นี้
ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีวันว่างตรงกัน แต่แม้ว่าคดีนี้ทนายเดชา ประสงค์จะขอไกล่เกลี่ย แต่คุณสนธิยืนยันว่าในชั้นนี้ยังจะไม่ไกล่เกลี่ยกับนายเดชา ตามขั้นตอนจึงจะต้องดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องต่อไปแน่นอน
นายอติชาต แสงขาว ทนายความนายสนธิ
คดีนี้โจทก์ฟ้อง เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 ว่า โจทก์ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนมากว่า 50 ปี ยึดมั่นในหลักวิชาชีพและจรรยาบรรณของสื่อมวลชนมาโดยตลอดต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นมาทุกยุคทุกสมัยรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและส่วนรวมเป็นหลัก เกี่ยวกับคดีนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ (เจ๊อ้อย) ได้มาพบกับโจทก์และทีมงานข่าวบ้านพระอาทิตย์ เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ว่าฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท อีกทั้งเคยเป็นทนายความที่ปรึกษากฎหมายให้กับน.ส.จตุพร ดังกล่าว จนต่อมานายษิทราถูกตำรวจจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊กมีชื่อว่า “ทนายคลายทุกข์” ประชาชนทั่วไปรู้จัก หรือ เรียกจำเลยว่า “ทนายเดชา หรือทนายจุ๊กกรู” ได้จัดรายการและโพสต์หรือออกรายการให้สัมภาษณ์สื่อทั่วไป เข้าข้างทนายตั้ม โดยจำเลยพูดว่าคดีนี้ขาดอายุความแล้วเพราะไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน พี่อ้อยโอนเงินให้ทนายตั้มมาตั้งแต่ต้นปี 2566 จึงขาดอายุความ ทำให้ประชาชนทั่วไปอาจเข้าใจผิด ทำให้โจทก์ต้องออกมาเตือนสติว่าควรเห็นใจผู้เสียหายมากกว่า
นอกจากนี้ยังออกรายการและโพสต์ในช่องทางต่างๆว่าโจทก์เป็นคนไม่ดีและหมิ่นประมาทด้วยถ้อยคำหยาบคาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร และ จ.สมุทรปราการ
ขอให้ศาลสั่งยึดหรือทำลายโพตส์ในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อทนายคลายทุกข์ ของจำเลย และให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาฉบับเต็มลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360 องศา ,เว็บไซต์ www.mgronline.com เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 7 วัน