เร่งออกหมายจับ “หม่องชิตตู่” ดีเอสไอหารืออัยการ อุบมีใครโดนอีกบ้าง

11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่สำนักงานอัยการคดีค้ามนุษย์ 1 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยคณะทำงานได้เข้าหารือกับ นายศักดา คล้ายร่มไทร อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 1  เพื่อหารือกรณีที่จะยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหา ซึ่ง นายทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้เปิดเผยรายชื่อช่วงเช้าวันนี้ว่ามี พันเอก หม่องชิตตู่ , พันโท โมเต โธน และ พันตรี ทิน วิน ในความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์แก๊งคอลเซ็นเตอร์

หลังใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง เวลา 15.00 น. ร.ต.อ.สุรวุฒิ พร้อมคณะได้ลงมาจากอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระบุสั้น ๆ เพียงแค่ว่า ในวันนี้เป็นการหารือเกี่ยวกับคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการค้ามนุษย์ตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยได้ข้อแนะนำไปในทิศทางที่ดี แต่ในส่วนรายละเอียดถือเป็นความลับไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งเจ้าตัวยืนยันกับสื่อมวลชนว่า หลังจากนี้ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเป็นผู้แถลงอย่างละเอียดในภายหลัง
ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทางดีเอสไอ โดยกองคดีค้ามนุษย์ ได้รับคำแนะนำจากพนักงานอัยการแล้ว ก็จะนำไปดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย ทั้งการสอบสวนเพิ่มเติมตามที่พนักงานอัยการให้คำแนะนำ ก่อนจะนำมาสู่การพิจารณาการขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพัก แต่ทางอธิบดีได้สั่งการเร่งรัดให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่แล้ว

สำหรับประเด็นเรื่องของการออกหมายจับนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผู้ต้องหาว่าจะเป็นใคร และมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องอย่างไร รวมทั้งมีทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาติหรือไม่ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เพราะยังถือเป็นความลับ ส่วนเรื่องออกหมายจับแล้ว หากเป็นชาวต่างชาติจะต้องประสานตำรวจสากลหรือไม่ ขอให้เป็นกระบวนการหลังจากนี้
พันเอก หม่องชิตตู


 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับผู้นำกองกำลังบริเวณชายแดนฝั่งประเทศเมียนมาหรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ ไม่ตอบคำถามนี้

ทั้งนี้ ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีเก่าตั้งแต่ปี 2565 และเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ที่อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสอบสวนมาตั้งนานแล้ว ซึ่งในส่วนรายละเอียดของคดีจะแถลงให้ทราบในภายหลัง