7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.สตม.ชลบุรี นำกำลังชุดปราบปรามพิเศษ สภ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรี ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา หน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชลบุรี นำหมายค้น ศาลจังหวัดพัทยา (ลงวันที่ 6 ก.พ.68) เข้าปิดล้อมตรวจค้น บ้านหรูแห่งหนึ่ง พื้นที่ หมู่2 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า เป็นฐานที่ตั้งของแก๊งเงินกู้ออนไลน์ชาวต่างชาติ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพูลวิลล่าหรูเนื้อที่กว่า 1 ไร่ ภายในแบ่งเป็นอาคารหลังใหญ่ขนาด 2 ชั้น 1 หลัง และหลังเล็กอีก 2 หลัง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวจีน จำนวน 12 ราย เป็นชาย 11 ราย และหญิง 1 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง คอมพิวเตอร์ 10 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 61 เครื่อง หนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต) บัตรอิเล็กทรอนิกส์(บัตรกดเงิน) และเงินสดจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เดินทางมาในวีซ่านักท่องเที่ยวและนักเรียน ซึ่งเข้ามาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 และพบผู้ต้องหาอยู่เกินกำหนด (โอเวอร์สเตย์) จำนวน 2 ราย สอบปากคำหนึ่งในผู้ต้องหา ให้การอ้างว่า พวกตนเป็นลูกจ้างเท่านั้น โดยไม่เคยพบหน้าผู้เป็นเจ้านายแต่อย่างใด ทราบเพียงว่า เจ้านายได้เช่าบ้านหลังนี้กับเอเจนซี่ในราคา 150,000 บาท ต่อเดือน และเช่ามาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567
สำหรับพฤติการณ์ ผู้ต้องหาจะปล่อยเงินกู้ออนไลน์ผ่านแอปพิลเคชั่น Wechat ให้กับลูกค้าที่ประเทศจีน ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะสุ่มหาข้อมูลมาจากในระบบออนไลน์ โดยมีลูกค้ามากกว่าร้อยรายต่อเดือน ซึ่งจะปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้ารายละ 2,000 - 3,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาน 10,000 - 15,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 30 ส่วนลูกจ้างจะได้รับเงินค่าจ้าง 15,000 - 20,000 บาทต่อเดือน ไม่รวมค่าคอมมิชชั่น
ก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้ประเทศดูไบ เป็นฐานที่มั่นในการประกอบธุรกิจ นานกว่า 5 ปี แต่เนื่องจากค่าครองชีพสูง จึงย้ายมาปฏิบัติการที่ประเทศไทย ก่อนมาถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา คนต่างด้าวประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนความผิดอื่นๆ นั้นจะต้องสืบสวนขยายผลจากข้อมูลหลักฐานในคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งสืบหาตัวการและหัวหน้าของขบวนการจีนหลอกจีนข้ามชาติต่อไป