21 มกราคม 2568 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวถึงกรณี “บอส ณวัฒน์” นำมิสแกรนด์ 77 จังหวัดไปยื่นร้องดีเอาไอ ให้รับคดี “แตงโม นิดา” เป็นคดีพิเศษ และมีการอ้างว่า ร่างของแตงโมถูกมัดไขว้หลัง
ทนายเดชา กล่าวว่า ต้องถามก่อนว่า คนที่พูดได้เห็นร่างจริงๆ หรือไม่ ถ้าเห็นเมื่อ 2 ปีก่อน ทำไมถึงไม่ไปให้การในชั้นศาล แพทย์นิติเวช ที่มีรายชื่อในสำนวน แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ด้วย เพียงแต่ไม่ได้มีชื่อหมอธวัชชัยอยู่ในสำนวน ซึ่งตนก็อยู่ในกระบวนการของการชันสูตรและรายงานผลต่างๆ เกี่ยวกับศพ ไม่มีเรื่องฟันหัก ไม่มีการถูกมัดมือไขว้หลัง เรื่องของการถูกเอาเชือกมัดมองว่า เป็นนิทาน เป็นเรื่องเล่าที่หาที่มาไม่ได้ ยืนยันศพแตงโมไม่มีเชือกมัดแน่นอน
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์
ส่วนกรณีการยื่นละเมิดอำนาจศาลทราบว่า มีทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความของแซน วิศาพัศ ไปยื่นต่อศาลแล้ว และตนคงไม่เกี่ยวเพราะไม่ได้ไปร้องอะไรใคร และการละเมิดอำนาจศาล ต้องเป็นการชี้นำศาล ชี้นำประชาชน อิทธิพลเหนือศาล จึงจะมีความผิด ตาม ม.32 ตามวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งเท่าที่ทราบมีนักวิชาการที่เป็นนักอาชญวิทยา 1 คน ที่วิจารณ์ศาล
ส่วนแม่พนิดา แม่ของแตงโม คงต้องดูเป็นรายสัปดาห์ สัปดาห์นี้แม่ยังให้รื้อคดีอยู่ เพราะแม่ไปเห็นคลิปในติ๊กต็อก แม่จึงเชื่อว่าเป็นความจริงว่า น่าจะมีเจตนาฆ่า ซึ่งคลิปปลอมพวกนี้ มีอยู่ในสำนวนคดีหมดแล้ว ผลจีพีเอส รายงานชันสูตรศพ หมอมี 8 ปากในสำนวนหมดแล้ว และตนก็คุยกับแม่ รักกันเหมือนเดิม
ส่วนกรณีที่ นายณวัฒน์ นำมิสแกรนด์ 77 คน ไปที่ยื่นดีเอสไอให้รับเป็นคดีพิเศษ และต้องมีคำตอบภายใน 1 เดือนนั้น มองว่า ก็เป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจจะมีเจตนาหวังดีให้รื้อคดี แต่คงไม่มีผลอะไรในชั้นศาลแล้ว เพราะในชั้นศาลแก้คำฟ้องอะไรไม่ทันแล้ว คดีกำลังจะจบแล้ว ทั้งนี้มองว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้รับเป็นคดีพิเศษภายใน 1 เดือนก่อนศาลตัดสิน และเชื่อว่า ดีเอสไอ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คงจะรอบคอบ ไม่งั้นก็จะติดคุกกันหมด เพราะคดีอยู่ในอำนาจศาล ไม่ได้อยู่ในอำนาจสอบสวนแล้ว
ส่วนกรณีที่มีความต้องการเชิญคุณแม่แตงโม ไปบ้านพระอาทิตย์ ก็ต้องดูก่อนว่า เชิญไปทำอะไร ซึ่งส่วนตัวไม่ได้ขัดข้องอะไร