svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผบ.ตร. เผย คดีสังหารอดีต สส.กัมพูชา พบปมจากความขัดแย้งส่วนตัว

15 มกราคม 2568
เกาะติดข่าวสาร >> NationTV
logoline

ผบ.ตร. เผย คดีสังหารอดีต สส.กัมพูชา พบปมจากความขัดแย้งส่วนตัว ระหว่างผู้ใช้จ้างวานกับผู้เสียชีวิต นำไปสู่การจ้าง "จ่าเอ็ม" ลั่นไกสังหาร ยัน ไม่เกี่ยวการเมืองระดับประเทศ ส่วนคดีจีนหลอกจีน และมี ตร.ถูกร้องพัวพันรีดทรัพย์ เตรียมเรียกทุกหน่วยงานหารือร่วมกัน 20 ม.ค.นี้

15 มกราคม 2568 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีสำคัญที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยเปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีที่ "นายลิม กิมยา" อดีต สส.ฝ่ายค้าน กัมพูชาจากพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ถูกนายเอกลักษณ์ หรือ "จ่าเอ็ม" อดีตทหารเรือ ยิงเสียชีวิต ในพื้นที่สน.ชนะสงคราม ว่า หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิดได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ คือมือยิงมาดำเนินคดีได้ ส่วนผู้เกี่ยวข้อง อย่างคนพาหลบหนีก็สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 

ส่วนคนใช้จ้างวาน เป็นบุคคลต่างชาติ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการออกหมายแดง และประสานงานกับต่างประเทศที่จะส่งตัวมาดำเนินคดี

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.

"ผมไม่ได้พูดเพื่อปกป้องใคร ยืนยันในฐานะที่เป็น ผบ.ตร. ไม่ได้พูดเพื่อเอาใจใคร แต่จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองประเทศต่างๆ เลย แต่เป็นความขัดแย้งระหว่าง ผู้ใช้จ้างวานกับผู้เสียชีวิต นำไปสู่การจ้าง มือยิงมาสังหารในประเทศไทย" ผบ.ตร. ระบุ



นายลิม กิมยา อดีต สส.กัมพูชา นายลิม กิมยา อดีต สส.กัมพูชา 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยอีกว่า การเดินทางมาประชุมวันนี้ เกิดจากความไม่สบายใจ กรณีที่มีประชาชนร้องเรียน ว่า มีชาวจีน หลอกลงทุนเงิน USDT กันเองในหลายพื้นที่ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ในพื้นที่ สน.ประเวศ สน.พญาไท และ สน.บางรัก ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะพบว่า มีพฤติการณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งรับแจ้ง และติดตามพฤติการณ์ผู้ต้องหาชาวจีน รวมถึงการรีดทรัพย์ โดยจะมีการตรวจสอบว่า มีตำรวจนายใดเกี่ยวข้องในเรื่องใดบ้าง ทั้งนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีทั้งหมดกี่นาย ขอทำการตรวจสอบก่อน ยืนยันว่า ตำรวจไม่เข้าข้างตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน หากพบผู้ใดกระทำความผิด จะดำเนินการทางวินัยอย่างเข้มข้น

ส่วนคดีที่คนจีนหลอกลงทุนกันเอง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ บอกว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรมด้วย

ส่วนคดีที่คนจีนวิ่งราวทรัพย์คนจีนด้วยกัน ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง และสน.มักกะสัน นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ในวันดังกล่าวมีเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน 3 คดี ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง 2 คดี เรื่องของเงิน 5 ล้านบาท และ 8 ล้านบาท ส่วน สน.มักกะสัน 4.5 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เคส มีนายเฉิน เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินดิจิทัล โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องประสานกับกองการต่างประเทศ ในเรื่องของการออกหมายแดง เพื่อติดตามตัวนายเฉิน มาดำเนินคดี  แม้ว่านายเฉินจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทั้งนี้ จากการสืบสวนยังทราบว่า ทุกเคสที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายและผู้ต้องหา จะรู้จักกันทั้งหมด แต่กลับมาก่อเหตุในประเทศไทย ดังนั้น ในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค. จะมีการเรียกประชุมใหญ่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกันด้วย

ส่วนกรณีที่ ชาวต่างชาติ ใช้ประเทศไทย เป็นประเทศทางผ่านในการก่อเหตุอาชญากรรมนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ขณะนี้ ได้ประสานสถานทูตจีนและทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เรื่องของข้อมูลต่างๆโดยเฉพาะข้อมูลบุคคลที่จะเข้ามาในประเทศไทย แล้วจะมีการหารือกับทูตของแต่ละประเทศ ถึงการประสานงานหาทางป้องกันร่วมกัน

logoline