9 มกราคม 2568 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย ในคดีหมายเลขดำที่ อทย.14/2568 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นโจทก์ ฟ้อง บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป และบอสดิไอคอนอีก 16 ราย โดยวันนี้ศาลได้มีคำสั่งให้เบิกตัวจำเลยทั้ง 16 คน มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อนำตัวมาสอบคำให้การที่ห้องเวรชี้ โดยมีนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ บอสพอล เดินทางมาร่วมการฟังการพิจารณาด้วย
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ขั้นตอนในวันนี้หลังจากที่พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 17 ราย เป็นนิติบุคคล 1 ราย เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้นัดสอบคำให้การจำเลยทั้งหมดในวันนี้ว่า จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ จากนั้นจะมีการนัดสอบคำให้การ และนัดตรวจพยานหลักฐานต่อไป คาดว่าจะอยู่ในราวช่วงมีนาคม-เมษายน
ทั้งนี้จำเลยทั้งหมดจะให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ส่วนเหตุผลในการปฏิเสธ จะมายื่นโดยละเอียดในชั้นนัดตรวจพยาน ตอนนี้ตนอยู่ระหว่างกำลังขอรายชื่อผู้ที่แจ้งความจะได้มาคัดกันว่า คนไหนอยู่ในสายบอสของคนไหน เพื่อแยกแต่ละคนว่า ผู้ที่แจ้งความไปถึงบอสแต่ละคนมีจำนวนเท่าไหร่ ในชั้นสืบพยานจะมีพยานประมาณ 100 ปาก พร้อมนำพยานที่ไม่ได้สอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวน มาร่วมสืบพยานในชั้นศาล มีพยานกลุ่มตัวแทน พยานที่เป็นแพทย์ที่ทำการพัฒนาสินค้า และฝ่ายการตลาดสื่อโฆษณาที่จะต้องเข้ามาเบิกความในชั้นศาลด้วย
นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการประกันตัวจำเลย ได้มีการประชุมกับทีมทนายว่า จะยื่นประกันช่วงไหนอย่างไร โดยได้มีความเห็นว่า จะยื่นประกันตัวในช่วงตรวจพยานหลักฐาน ทั้งนี้ตนมีความกังวลว่า ด้วยเอกสารการสอบสวนของ DSI มีจำนวนมากถึง 300,000 แผ่น เปรียบเสมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง และมีเอกสารของทางบริษัทเกี่ยวข้องกับ ดีลเลอร์ เก็ท ดีลเลอร์ อีก 2 แสนแผ่น และเอกสารการทำธุรกรรมของแต่ละคนอีกมหาศาล
หากปริ้นออกมาจากระบบคอมพิวเตอร์จะต้องมีเยอะมาก และคนที่รู้ดีเกี่ยวกับเอกสารคือตัวพนักงานและตัวจำเลย เพราะฉะนั้นการประกันตัวจำเลยออกมาต่อสู้คดี จึงมีความจำเป็นมาก คดีดังกล่าวเป็นคดีอาญาทางธุรกิจ ไม่ใช่คดีฆ่าคนตาย หรือค้ายาบ้า เพราะฉะนั้นการประกันตัวออกมาสู้คดี เพื่อเสนอข้อมูลหลักฐานต่อศาลและเอกสารอธิบายหลักฐานต่อศาลจึงมีความจำเป็น
ทนายความบอสพอล กล่าวว่า ส่วนที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ "บอสแชม" และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมิน" ตนรู้สึกดีใจมากที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง อันที่จริงบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ไม่ได้ขายสินค้าที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่มี อย. การสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองคนถือเป็นความกล้าหาญของทางอัยการ ที่ยึดถือความยุติธรรมเป็นหลัก
ส่วนผู้ต้องหาที่สั่งฟ้อง ตนก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ยุติธรรมกับเรา แต่ต้องต่อสู้คดีกันไปตามกระบวนการชั้นศาล ตนอยากตั้งคำถามว่า การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดรวมถึงคุณมินและคุณแซม มีการคัดค้านการประกันตัวและไม่ได้รับการประกันตัว จะรับผิดชอบชีวิตของบอสแซมและบอสมินอย่างไร อยากถามว่าคุณทำงานตามกระแสสังคมหรือไม่ การที่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองคนแสดงว่าไม่มีพยานหลักฐานโยงถึงทั้งคู่เลย ต่อให้อธิบดี DSI แย้ง ตนก็ไม่ได้กังวลเรื่องดังกล่าว
"การจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วอายัดทรัพย์สิน เอาไปควบคุมตัวไว้ในเรือนจำ และคัดค้านการประกันตัว ปิดช่องทางการต่อสู้ยังมีความเป็นธรรมกับตัวผู้ต้องหาหรือไม่ เข้าใจได้ว่าทางตำรวจ DSI พนักงานอัยการ ท่านมีอำนาจรัฐในมือ ทนายความเป็นภาคเอกชนเพียงภาคเดียวที่ไม่มีอำนาจรัฐในมือ เรามีอย่างเดียวคือ การหาสิทธิการประกันตัว เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในการออกมาต่อสู้คดีให้แก่พวกเขา พวกผู้ต้องหาที่ติดคุกเขาไม่ได้ติดเพียงคนเดียว แต่ครอบครัวเขาก็ต้องตามไปเยี่ยม เหมือนกับครอบครัวต้องติดไปด้วย"
ทนายความบอสพอล กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มอ้างเป็นผู้เสียหาย มายื่นคำร้องต่อศาลขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดนั้น โดยอ้างว่าตนข่มขู่พยานและอ้างว่าตนข่มขู่ว่า จะฟ้องดำเนินคดี ตนยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับผู้ที่แจ้งความเท็จ เป็นสิทธิตามกฎหมาย ไม่ใช่การข่มขู่ส่วนเรื่องที่มีการมายื่นให้สภาทนายความสอบมรรยาททนายความกับตนนั้น เห็นว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันมากกว่า เพื่อที่จะปิดปากตน
ส่วนกรณีที่ สคบ.เพิกถอนทะเบียนการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปนั้น ทนายวิฑูรย์ ชี้แจงว่า การตลาดแบบตรงเป็นการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค โดยใช้เครื่องมือสื่อสารห่างไกล โดยระยะทางหรือที่เรียกกันว่าทีวีไดเร็ค แต่เมื่อถูกเพิกถอนใบอนุญาตการตบาดแบบตรง ก็ทำให้ ไม่สามารถขายตรงไปยังผู้บริโภคได้ บริษัทจะทำได้อย่างเดียวคือการขายสินค้าผ่านตัวแทน ดังนั้นตัวแทนสามารถซื้อสินค้าผ่านบริษัทได้เหมือนเดิม และสามารถจำหน่ายสินค้าต่อได้เหมือนเดิม ซึ่งการทำธุรกิจของดีไอคอนในขนาดนี้จะคล้ายๆ การทำธุรกิจของเอสซีจีหรือเบียร์ช้าง ที่จะต้องขายผ่านบริษัทตัวแทน
ต่อมาศาลออกนั่งบัลลังก์ เพื่อสอบคำให้การจำเลย ทั้งหมดโดยอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบถามว่า จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าจำเลยทั้งหมดแถลงให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความทั้งสองฝ่ายเพื่อตรวจพยานหลักฐานวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ เวลา 09.00 น.
ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องประกัน ’บอสวิน‘ 15 ม.ค.นี้
ภายหลังศาลสอบคำให้การจำเลย นายธวิณทรภัส ภูพัฒนรินทร์ หรือบอสวิน จำเลยที่ 10 ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาโดยอ้างเหตุเจ็บป่วย
ศาลพิเคราะห์คำร้องเเล้วแล้วเห็นควรไต่สวนข้อเท็จจริงตามคำร้องของจำเลยที่ 10 จึงให้นัดไต่สวน
ขอปล่อยชั่วคราว ในวันที่ 15 ม.ค.2568 เวลา 10.00 น.โดยเบิกจำเลยที่ 10 และหมายเรียกแพท์ย์ผู้ตรวจ
ร่างกายจำเลยที่ 10 ตามคำร้องมาในวันนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ท้ายคำฟ้องของพนักงานอัยการคดีพิเศษ ค้านประกันจำเลยทุกคนโดยให้เหตุว่า ความเสียหายมีมูลค่าสูงมีผู้เสียหายจำนวนมาก