รวบแล้ว “เอ็ม กองเรือ” มือสังหาร สส.กัมพูชา พบไถ่ปืนจาก ตร.มาก่อเหตุ

8 มกราคม 2568 ความคืบหน้ากรณีชายบุกยิงนายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิต บริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 ม.ค.) ซึ่งต่อมา ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญา ออกหมายจับ นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือเอ็ม  อดีตทหารเรือ ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และ ยิงปืนโดยใช้เหตุ แล้ว 1 คน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี


ล่าสุด ช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน ได้ระดมกำลังไล่ล่า หาเบาะแสเชื่อมโยงกับนายเอ็ม โดยได้ไปตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ทราบเบาะแสที่เกี่ยวข้องกับคนร้าย ประมาณ 5จุด ทั้งในย่ายรามคำแหง ย่านพระราม9 และช่วง อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี หลังสืบสวนทราบว่า เป็นเบาะแสที่ เกี่ยวข้องกับนายเอ็ม ทั้งก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ

หนึ่งในนั้นที่ไปพิสูจน์ทราบ คือบริเวณปั๊มแก๊ซ แอลพีจี บริเวณเรียบด่วนมอเตอร์เวย์ เขตสวนหลวง ซึ่งจุดนี้ เป็นจุดที่พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 125 สีแดง คันที่ นายเอ็ม ใช้ก่อนเหตุ มาจอดทิ้งไว้

 

พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล และชุดสืบสวน นำเจ้าหน้าที่ พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบรถจักรยานยนต์ คันที่ นายเอ็ม ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณหน้าห้องน้ำ ชองปั๊มแก๊ส ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีหมวกกันน็อก ที่ใส่ในวันเกิดเหตุ มีด รวมถึงสิ่งของใต้เบาะ

พล.ต.ท.สยาม เผยว่า หลังจากฝ่ายสืบสวนได้ไล่ติดตามตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทำให้ทราบว่า หลังก่อเหตุคนร้ายหลบหนีไปทางที่ใด ซึ่งคนร้ายได้นำรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุมาจอดในปั๊มแห่งนี้ จากนั้นมีการเรียกรถแท็กซี่ เพื่อขึ้นรถหลบหนีไปทางภาคตะวันออก ส่วนรถแท็กซี่เป็นการเรียกมารับ หรือมีการนัดแนะกันมารับนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบ วันนี้จึงได้เชิญพอพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอที่ติดอยู่ที่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ เพื่อนำไปประกอบหลักฐานสำนวนคดีในการมัดตัวผู้ก่อเหตุ

ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า หลังจากก่อเหตุเสร็จแล้วคนร้ายได้นำเสื้อวินรถจักรยานยนต์มาสวมใส่ และขี่รถจักรยานยนต์มาตรงปั๊ม ซึ่งเป็นที่มาที่ไปทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นบุคคลใด และหลังจากขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปไม่ได้มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าอีก

ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ได้มีการตรวจสอบแล้วและพบตัวเจ้าของรถแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด และจากแนวทางการสืบสวนพบว่า รถจักรยานยนต์คันนี้ คนร้ายได้ใช้มาหลายวันแล้ว ก่อนจะลงมือก่อเหตุ โดยอยู่ระหว่างการสอบถามเจ้าของรถว่าเป็นการยืมรถมา หรือว่านำมาใช้ก่อเหตุได้อย่างไร

พล.ต.ท.สยาม ยังบอกอีกว่า จากการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุ ขณะนี้มีมากกว่าหนึ่งคน อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และถือว่าคดีตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ส่วนกรณีที่พบข้อมูลของตำรวจนายหนึ่ง ที่มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับคนร้ายนั้น ประเด็นนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนความชัดเจนว่า คนร้ายทั้งสองราย คือคนชี้เป้า  นายเอ็ม หลบหนีออกนอกประเทศหรือยังนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัว และคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าคนร้ายมีพิกัดอยู่ที่บริเวณใด

ทั้งนี้ ที่มี กระแสข่าวพบว่านายเอ็มหลบหนีออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.ท.สยาม ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่ รวมถึงผู้ร่วมขบวนการด้วย โดยขอเวลาให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน

ส่วนอาวุธปืน ก็อยู่ระหว่างการสืบสวนว่า เป็นของเจ้าตัวหรือมีการจัดหามา ทั้งนี้ขอให้ตำรวจได้ทำการไล่ติดตามคนร้ายและตรวจสอบพยานหลักฐานและขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน คาดว่าช่วงค่ำวันนี้ จะมีการประชุมกัน และจะมีรายงานความชัดเจนทางคดีเพิ่มเติม สำหรับบุคคลที่เชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้าย จะมีการเรียกมาสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงขนาดไหนนั้นอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบ

ส่วนจะมีความเกี่ยวข้องกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไรนั้น พล.ต.ท.สยาม ระบุว่า ต้องขอให้ได้ตัวคนร้ายมาซักถามก่อนจึงจะมีความชัดเจน รวมไปถึงแรงจูงใจของการก่อเหตุด้วย และมีใครว่าจ้างหรือไม่ด้วย

ทั้งนี้ เชื่อว่า ถ้าได้ตัวนายเอ็ม มาจะทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น แต่ขณะนี้ ยืนยันได้ว่า ‘คนร้ายมีการวางแผน เตรียมการมา ส่วนจะเตรียมการมานานกี่วันนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบย้อนหลังถึงพฤติกรรมของคนร้ายรายนี้

พล.ต.ท.สยาม ยังบอกด้วยว่า ส่วนจากการสอบปากคำภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร ส่วนจะเป็นความขัดแย้งที่มีมานานแล้วหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถที่จะเปิดเผยได้ และจะเป็นความจัดแย้งส่วนตัวหรือความขัดแย้งทางการเมือง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยก็จะต้องรอให้ได้ตัวคนร้ายมาซักถามก่อน

พร้อมยืนยันด้วยว่า คดีนี้ตำรวจไทยสามารถดำเนินการกันเองได้ ยังไม่จำเป็นต้องประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนจะเป็นคำสั่งเก็บข้ามประเทศหรือไม่ พล.ต.ท.สยาม ตอบว่า คงไม่ถึงขนาดนั้นคงเป็นเพียงแค่คดีอาชญากรรมทั่วไป และตำรวจจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีโดยเร็ว

ทั้งนี้ ทางการไทย ได้ประสานไปยัง ฝรั่งเศสยังสถานทูตฝรั่งเศส รายงานว่ามีประชากรเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นขั้นตอนปกติไม่ได้มีอะไรพิเศษซับซ้อน และทางฝรั่งเศสไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษด้วย


ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง บอกด้วยว่า พิสูจน์หลักฐานได้รับการประสานมาจากตำรวจนครบาล และได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเมื่อคืนนี้ พบหัวกระสุนในที่เกิดเหตุ 1 หัว ซึ่งได้นำส่งพิสูจน์หลักฐานกลาง เพื่อได้นำหัวกระสุนที่เกิดเหตุ1 นัด และที่ตัวผู้ตาย 2 นัด ไปตรวจเปรียบเทียบในสารระบบ

ส่วนวันนี้ได้เจอรถที่ใช้ในการก่อเหตุ พิสูจน์หลักฐานจึงได้เก็บตัวอย่างลายนิ้วมือที่ปรากฏที่รถ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับคนร้าย รวมถึงมีการนำไปเปรียบเทียบลายนิ้วมือแฝงด้วย อีกทั้งยังได้มีการเก็บตัวอย่างลายนิ้วมือที่บริเวณหมวกกันน็อก รวมถึงอาวุธมีดอที่อยู่บริเวณใต้เบาะรถด้วย

ส่วนลักษณะวิถีกระสุนการยิง ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประสานกับทางแพทย์ถึงผลการชันสูตรศพว่า วิถีกระสุนเข้าออกทางไหน จึงยังไม่สามารถตอบได้

 

เด็กปั๊ม เผย เห็นรถ จยย.ตอนตั้งแต่ค่ำเมื่อวาน แต่ไม่เห็นคนขี่รถ

นักข่าวได้สอบถาม พนักงานปั๊มแก๊สแอลพีจี เล่าว่า เมื่อวานนี้ตอนค่ำๆ ตนเองเห็นรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว แต่ไม่ทราบว่าใครขับมาจอด เพราะตอนนั้นไม่เห็น เนื่องจากที่ปั๊มมีรถเข้าออกตลอดเวลา และไม่ได้รู้สึกผิดสังเกต เพราะจะมีรถมาจอดทิ้งไว้เป็นประจำ และส่วนตัวไม่เห็นว่าขั้นรถแท็กซี่ หรือมีแท็กซี่คันไหนมาจอดรอ เพราะมีรถแท็กซี่เข้ามาที่ปั๊มเป็นประจำอยู่แล้วเช่นกัน
 

วงจรปิด ผู้ต้องสงสัยตัวชี้เป้า สังหาร อดีต สส.กัมพูชา

นักข่าวยังได้ ภาพจากหลักฐานกล้องวงจรปิดอีกมุมหนึ่ง บันทึกภาพช่วงใกล้เวลาเกิดเหตุ พบชายเสื้อขาว ใส่เสื้อขาวสวมหมวก สะพายกระเป๋า ซึ่งคาดว่า เป็นบุคคลต้องสงสัย โดยข้อมูลการสืบสวนพบว่า ชายคนดังกล่าวเป็นชาวกัมพูชา เดินทางมากับรถบัสท่องเที่ยวข้ามประเทศ มาจากด่านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยบุคคลต้องสงสัย คนนี้ เชื่อว่า เป็นบุคคลชี้เป้า เดินทางมากับกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยว จำนวน 20 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตเดินทางมาด้วย เมื่อลงรถบริเวณสวนสาธารณะ ใกล้เคียงวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้ต้องหาจึงลงมือก่อเหตุ

โดยพบว่า หลังเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง ผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว ได้เดินทางออกนอกประเทศโดยสายการบินสกายอังกอร์ ปลายทางที่กรุงพนมเปญ เมื่อเวลา 21:05 น. เมื่อวานนี้

‘เอ็ม กองเรือ’ รับโอนเงิน 30,000 บาท จากชาวกัมพูชา นำไปไถ่ปืนที่จำนำไว้กับตำรวจท่องเที่ยวมาลงมือสังหาร

มีรายงานว่าแนวทางการสืบสวนของจากชุดคลี่คลายคดี สังหาร อดีตสส.กัมพูชา โดยพบข้อมูลว่า ก่อนก่อเหตุนายเอ็ม กองเรือ มือปืน ได้รับเงินโอนจากชาวกัมพูชาจำนวน 30,000 บาท ก่อนที่นายเอ็มผู้ต้องหาจะนำเงินไปไถ่อาวุธปืนขนาดจุด 38 ยี่ห้อ Smith And wandson พร้อมกระสุน 6 นัด จากตำรวจคนหนึ่งในสังกัดตำรวจท่องเที่ยว ที่นำไปจำนำ ไว้ จำนวน 20,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย อีก 2,000 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินให้กับตำรวจคนดังกล่าวไป จำนวน 22,000 บาท ก่อนที่จะนำปืนกระบอกดังกล่าวไปก่อเหตุ โดยตำรวจพบหลักฐานเส้นทางการโอนเงิน ทำให้ได้นำตัว ตำรวจนายนี้ มาทำการสอบปากคำแล้ว

และในวันก่อเหตุ เมื่อนายเอ็มได้ยิงผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ได้ขับรถหลบหนี พร้อมใส่เสื้อวินรถจักรยานยนต์ ขับผ่าน ปากซอยจารุรัตน์ ย่านเพชรบุรีตัดใหม่  แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่ปั๊มแก๊สริมถนนมอเตอร์เวย์ เพื่อมาจอดทิ้ง  ก่อนที่จะ จ้างคนชื่อโต๊ด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้ขับแท็กซี่ ในราคา 1,500 บาทอให้ไปส่งที่อำเภอบ่อวิน จังหวัดชลบุรี เมื่อไปถึง อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี ได้มีวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์มารับ ก่อนจะมาทราบว่า ได้หลบหนีออกผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเพื่อออกไปนอกประเทศแล้ว

ล่าสุดมีรายงานตำรวจสามารถจับกุมนายเอ็มที่ได้ที่ประเทศเพื่อนบ้าน และอยู่ระหว่างคุมตัวกลับมาสอบสวน

มีรายงานว่า ทางการกัมพูชา ได้จับกุมตัว นายเอ็ม กองเรือ ได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา และได้ประสานกับทางการไทย โดยมีชุดสืบสวนนครบาล นำโดยสารวัตรแจ๊ะ ตำรวจภูธรภาค2 และกองปราบปราม เดินทางไปเพื่อประสานการรับตัว นายเอ็ม กลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย หลังพบว่า นายเอ็ม หลบหนีออกไปช่องทางธรรมชาติ จ.จันทบุรี ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ อยู่ในระหว่างการประสาน เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ที่ประเทศกัมพูชา ในข้อหา "หลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย"

ภายหลังจากสิ้นสุดกระบวนการ จึงจะสามารถนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยต่อได้ 

ทั้งนี้มีรายงานว่า สารวัตรแจ๊ะ นำทีมชุดสืบ บช.น. ร่วมตำรวจกัมพูชา แกะรอยบุกจับ "จ่าเอ็ม" มือยิง นายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถึงพระตะบอง

 

เปิดพฤติการณ์ หลบหนีข้ามแดน ‘เอ็ม กองเรือ’ พบแลกเงิน 4,000 บาท ร้านริมชายแดนกัมพูชา หลังข้ามไปทางช่องทางธรรมชาติ ก่อนถูกรวบ

สำหรับปฏิบัติการบุกจับกุม "จ่าเอ็ม" ข้ามประเทศครั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะไล่ล่าติดตามไป กระทั่งไล่ล่าคนร้ายไปถึงบริเวณชายแดน ไทย-กัมพูชา (เขาดิน-สำเภารูน) ไปเมื่อประมาณ เที่ยงคืนที่ผ่านมานี้

ชุดสืบสวนคลาดกับคนร้ายโดยสามารถหลบหนีผ่านช่องทางธรรมชาติไปได้อย่างฉิวเฉียด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงเปิดทางประสานงานกับ ผกก.สถานีตำรวจ สำเภารูน ประเทศกัมพูชา ก่อนส่งชุดสืบนครบาล ข้ามแดนไปร่วมไล่ล่าติดตามคนร้าย 

โดยสืบทราบว่า ได้แลกเงินจำนวน 4,000 บาท ณ ร้านรับแลกเงินริมชายแดน จากนั้นได้เดินทางขึ้นรถโดยสาร เพื่อเข้าไปใจกลางประเทศกัมพูชา แต่เจ้าหน้าที่สืบทราบก่อนไล่ล่าติดตามไป จนกระทั่งจับได้ ขณะที่คนร้ายแวะพักทานอาหารใน ต.ปเรยสวย อ.โมงรึไทร จ.พระตะบอง เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 67 เวลา 16:30 น.

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา และชุดสืบนครบาล ได้นำตัวผู้ต้องหาไปที่ กองบังคับการจังหวัดพระตะบอง ก่อนจะส่งตัวไปที่ กองบัญชาการความมั่นคงภายใน จ.พนมเปญ เพื่อซักถามเพิ่มเติมต่อไป