"ศักดา นพสิทธิ์" โวย ตร.ทำคดีไม่เป็นธรรม ถูกยิงสาหัสเป็นเรื่องการเมือง

24 ธันวาคม 2567 นายศักดา นพสิทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเปิดใจ หลังถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บที่ร้านอาหารบางปะกง 3 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยระบุว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ตนทะเลาะ หรือมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ จนเกิดความไม่พอใจกันและนำมาสู่การยิงกัน แต่ตนเชื่อว่า เป็นความจงใจที่จะสังหารตน และมีความเกี่ยวข้องทางการเมืองอย่างแน่นนอน

ย้อนกลับไปในคืนเกิดเหตุ ตนเข้าไปหาผู้ใหญ่พร้อมครอบครัวที่ กรุงเทพ จากนั้นเดินทางกลับเข้า จ.ชลบุรี ได้มีการแยกย้ายกับลูกและภรรยา จากนั้นตนไปทีร้านที่ร้านดังกล่าวโดยจอดรถไว้ข้างอาคารพาณิชย์ ที่ตนซื้อไว้ทำธุรกิจ ซัก อบ รีด ห่างจากร้าน100เมตร จากนั้นได้เดินเข้าไปที่ร้านพร้อมสั่งเบียร์ 1 ขวด ต่อมาได้ลุกออกมาเพื่อไปปัสสาวะหลังร้าน แต่ไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำอาศัยที่มืดหลังร้าน

ขณะนั้นผู้ก่อเหตุก็เดินมาถามว่า ทำอะไร ตนจึงตอบไปว่า ปัสสาวะ ผู้ก่อเหตุจึงบอกว่าไม่ได้  ไม่ใช่ที่ ตนไม่สนใจทำธุระต่อจนเสร็จ จากนั้นผู้ก่อเหตุถามว่า มึงเป็นใคร ตนจึงตอบไปว่า กูศักดา จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ต่อยตน พร้อมชักปืนออกมา ตนเห็นแบบนั้นก็สู้กลับ จนล้มลงไปที่พื้นด้วยกัน จนเกิดการชุลมุนและตนถูกยิง 1 นัด ต่อมาตนพยายามจะหนี ผู้ก่อเหตุยิงตามอีก 3 นัด และพยายามยิงอีก แต่ปืนเกิดขัดข้อง จึงยิงต่อไม่ได้ ไม่ใช่เป็นความต้องการของผู้ก่อเหตุที่จะหยุดยิง


 

ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า หลังเกิดเหตุยังไม่มีตำรวจมาสอบสวน ข้อเท็จจริงกับตน แต่กลับให้ข่าวในทำนองที่ออกจะเป็นประโยชน์ เข้าข้างผู้ก่อเหตุ ทั้งที่อ้างว่า ตนทะเลาะวิวาท  การเปิดเผยการสอบปากคำผู้ต้องหาที่ว่า ผู้ต้องหาจะอ้างว่าสู้ เพื่อป้องกันตัว ทั้งๆ ที่ความเป็นจริง ผู้ก่อเหตุยิงตน ในขณะที่ตนไม่มีอาวุธ แถมยิงเพิ่มอีกหลังจากตนพยายามหนี และในส่วนที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าตามตัวมีร่องรอยถลอกจนต้องไปหาหมอ ตนมองว่า ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วมีการต่อสู่กัน

การที่ผู้กำกับ สภ.เสม็ด และ รองผู้บังคับการ จ.ชลบุรี ออกมาพูดในทำนองนั้น มันทำให้ตนรู้สึกว่า อาจจะมีการกระทำการช่วยเหลืออะไรกันหรือไม่  เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นลูกของนายเก่งเจ้าของร้าน และนายเก่งและลูก ก็เป็นหัวคะแนนให้กับนักการเมืองในท้องถิ่นรายหนึ่งเช่นกัน  และคำถามว่า ทำไมถึงมองว่าเป็นการช่วยกันหรือไม่นั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายเก่งพ่อของผู้ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนยิงคนอื่นจนเสียชีวิต  มีหมายจับจนถึงปัจจุบัน แต่ตำรวจ สภ.เสม็ด ยังไม่จับ ทั้งที่บ้านที่อาศัยของทั้งคู่อยู่ห่างจาก โรงพักไม่มากนัก และในวันที่มีการมอบตัว ผู้ก่อเหตุนั่งรถเบนซ์มามอบตัว มาพร้อมกับชายฉกรรจ์อีก 2 คน ซึ่งเป็นคนสนิทและทำงานอยู่ในสำนักงานของนักการเมืองคนดังด้วย


 

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนมองว่า ไม่ได้เป็นการสั่งการจากใคร แต่เป็นการก่อเหตุของหัวคะแนน หรือผู้สนับสนุน นักการเมือง ซึ่งเป็นคู่แข่งกับตน สาเหตุอาจจะเพราะไม่ชอบที่ช่วงหลัง ตนมักจะออกมาพูดพิพากษ์วิจารณ์การเมืองหลายเรื่อง และเป็นการจงใจสังหารตนอย่างแน่นอน คนเราทะเลาะกันซึ่งหน้า จะมีการพกปืนติดตัวมาทำไม ตั้งแต่แรก ถ้าเป็นการทะเลาะแล้วสู้ไม่ได้ วิ่งกลับไปเอาปืนมายิง ยังพอเข้าใจได้ แต่นั้นมีการกระหน่ำยิงซ้ำหวังให้ตาย และผลที่จะตามมาหากตนตาย คือการตัดคู่แข่งทางการเมือง ให้กับนักการเมืองคนดัง เพราะถึงแม้ว่าตอนนี้ตนจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ลูกสาวของตน ตอนนี้เป็น ส.ส.พรรคประชาชน ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการสนับสนุนของตน เมื่อขาดตนไปก็อาจจะหวังผลการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ส่วนในเรื่องที่ตนสงสัย การออกมาให้ข้อมูลของ ผกก.สภ.เสม็ด และรอง ผู้บังคับการ จ.ชลบุรี นั้น ก็มองว่า อาจจะไม่ได้มีการสั่งการจากใคร แต่ทำเพื่อเอาใจนักการเมืองคนดัง เพราะหวังผลทางหน้าที่การงานหรือไม่ ตนแค่อยากให้คดีตรงไปตรงมา  เพราะพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีความชัดเจน หลังจากนี้อาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะก่อนหน้านี้มันไม่เคยมีสัญญาณในเรื่องนี้มาก่อน

ทางด้าน น.ส.วรรณิดา นพสิทธิ์ สส.เขต 2 ชลบุรี พรรคประชาชนกล่าวว่า อยากเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการไปด้วยความโปร่งใส ที่สำคัญในเรื่องการพกอาวุธปืน อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะชลบุรีมีการแข่งขันทางการเมืองสูง อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นได้