24 ธันวาคม 2567 ที่วัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีการจัดเตรียมสถานที่สำรับพิธีรดน้ำศพของ ร.ท.ต.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ รอง สว.จร. สภ.เมืองนครราชสีมา ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูก อดีตข้าราชการเมาแล้วขับพุ่งชนจนเสียชีวิตในระหว่างกำลังไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรที่บริหน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง
โดยทันที ที่รถของเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตาธรรมสถานได้นำร่างของ ร.ท.ต.วิมุตต์ เข้ามายังบริเวณศาลาของวัด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนเข้าแถวรอรับร่าง พร้อมกับครอบครัวของ ร.ท.ต.วิมุตต์ ที่นั่งรถมาด้วย
ต่อมานำร่างของ ร.ท.ต.วิมุตต์ พร้อมกับธงชาติไทยคลุมเข้ามาภายในศาลา เพื่อประกอบพิธีรดน้ำศพ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวของ ทั้งแม่ ภรรยาและลูกสาว ที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการเสียชีวิตของ ร.ท.ต.วิมุตต์ฯในครั้งนี้
โดยเฉพาะ น.ส.วารุวรรณ แทนสุโพธิ์ อายุ 30 ปี ลูกสาวคนโตที่กอดหมวกตำรวจจราจรของ ร.ท.ต.วิมุตต์ฯ ที่ใส่ไปปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ พร้อมกับร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
โดยทาง นางใจทิพย์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี ภรรยาของ ร.ท.ต.วิมุตต์ เปิดใจทั้งน้ำกับผู้สื่อข่าวว่า ทาง ร.ท.ต.วิมุตต์ นั้นไปปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรหน้าบริเวณโรงเรียนอนุบาลเมืองนครราชสีมาเป็นประจำช่วง เช้า-เย็น เพื่อคอยนำนักเรียนข้ามถนน ปฏิบัติหน้าที่มาเกือบ 10 ปีแล้ว ตั้งแต่ย้ายมาจากจังหวัดสุรินทร์
โดยในวันเกิดเหตุนั้นมีคนมาโทรบอกกับตนว่า ร.ท.ต.วิมุตต์ นั้นประสบอุบัติเหตุแต่ไม่ได้ยืนยันว่าเสียชีวิตหรือไม่ จนตนมารู้ว่าเสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาล หลังเกิดเหตุทางฝ่ายคู่กรณีเขาก็มาพูดคุยด้วย แต่ตนก็ไม่ได้ฟังอะไรจากทางฝั่งเขา เราห่วงแต่คนของเรา ตนอยากฝากบอกสามีว่าไม่ต้องห่วงอะไร ไม่ต้องเป็นห่วงลูก เพราะลูกโต และทำงานแล้ว ทั้งนี้ก็อยากให้ดำเนินคดีกับฝ่ายคู่กรณีให้ถึงที่สุด
ด้าน นายเจษฎา เลขจิตร อายุ 55 ปี เพื่อนสนิทของ ร.ต.ท.วิมุตต์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนของ ร.ต.ท.วิมุตต์ ซึ่งผู้ตายมีใจรัก จึงได้ไปสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ ก่อนเกิดอุบัติเหตุเพียงไม่กี่นาทีตนก็เพิ่งทักไปพูดคุยกับผู้ตาย อุบัติเหตุครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น ปัญหาเมาแล้วขับเป็นปัญหาใหญ่ของสังคม อยากให้ทุกคนช่วยกันตระหนัก และไม่ให้เกิดเรื่องเศร้าใจแบบนี้อีก
สำหรับอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ล่าสุดผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อาการปลอดภัยแพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว เหลือผู้บาดเจ็บอีกเพียง 2 ราย ที่ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา คือ
ด.ช.อัษฎาวุธ อายุ 5 ปี อาการโคม่า รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ชั้น 6 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน)
ส่วน ด.ญ.กัญญาภัทร อายุ 10 ปี ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก อาการปลอดภัยแล้ว รักษาตัวอยู่ที่ชั้น 4 ห้องศัลยกรรมเด็ก และผู้หญิง อาคารผู้ป่วย 8 ชั้น