เหยื่อหวั่น “คดีหมอบุญ” มีเส้นสายคอยช่วย ขอ บช.ก.เป็นเจ้าภาพทำคดี

20 ธันวาคม 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ได้พาผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนในคดี นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ มาร้องขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เพื่อขอให้ บช.ก. รับดำเนินคดี ทั้งการเร่งนำตัวหมอบุญ​มาดำเนินคดี​ และการนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหายให้เร็วที่สุด

นายแทนคุณ เผยว่า วันนี้ตนมายื่นหนังสือถึง ผบช.ก. เพื่อให้ บช.ก. เป็นเจ้าภาพหลักในการทำคดีหมอบุญ แต่จากการพูดคุยกับ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. ทราบว่า มีข้อติดขัดในเรื่องของกฎหมาย  เนื่องจากคดีดังกล่าวเข้าหลักเกณฑ์คดีพิเศษ ทำให้ไม่สามารถส่งมายัง บช.ก.ได้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร


 

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวได้มีการตั้งคณะทำงานกรรมการชุดใหญ่ของสำนักงานตำรวจแห่งชา ติเพื่อกำกับดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ การขยายผลไปยังบริษัทติดตามผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม รวมทั้งการติดตามตัวหมอบุญ ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศ การตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดว่า มีการกระจายไปยังใคร หรือยักย้ายถ่ายโอนไปในรูปแบบใดบ้าง และส่วนที่สาม การตรวจสอบโรงพยาบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้กับผู้เสียหาย  เนื่องจากเป็นการออกตั๋วสัญญาในนามนิติบุคคล เพื่อให้เห็นเส้นทางการเงินหรือแผนประทุษกรรมที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้

โดย พ.ต.อ.กริช บอกกับตนว่า มีความจำเป็นที่จะต้องแยกแยะ กลุ่มผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ ในลักษณะหลอกล่อให้ผู้เสียหายมาลงทุนรูปแบบต่างๆ อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหายังมีความพยายามบอกว่า ในส่วนของคดีเช็คเป็นคดีแพ่ง แต่เมื่อตำรวจส่งสำนวนไปยังอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีดังกล่าวมีความซับซ้อนมากกว่านั้น จึงส่งสำนวนกลับมายังตำรวจเพื่อให้พิจารณาใหม่อีกครั้ง


 

ทั้งนี้ ตนอยากได้ความชัดเจนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ว่า หากเป็นเจ้าภาพหลักในคดีนี้แล้ว จะสามารถจัดให้สถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความในคดีนี้ได้หรือไม่ รวมทั้งอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดติดทรัพย์สิน มาคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด เพราะหากช้าจะถูกถ่ายโอนไปและติดตามเอาคืนได้ยาก

ขณะที่ ตัวแทนผู้เสียหาย ระบุว่า ทุกคนอยากได้ความชัดเจนว่า ตํารวจหรือหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับทําคดี เนื่องจากช่วงนี้รู้สึกว่า คดีค่อนข้างเงียบ จึงกังวลว่า “หมอบุญ” อาจจะมีเส้นสายคอยช่วยเหลือ ซึ่งตนเสียหายมูลค่าหลักร้อยล้านบาท จึงอยากได้เงินคืนมากที่สุดเท่าที่เจ้าหน้าที่จะทําได้