svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สรุปจบ "กราดยิงบึงกาฬ" ชนวนเหตุปมสังหารสุดแค้น 14 ปี

สรุปจบ "กราดยิงบึงกาฬ" ชนวนเหตุปมสังหารสุดแค้น 14 ปี ก่อนเหมาแท็กซี่จากกรุงเทพฯ เพื่อมาก่อเหตุ ก่อนปลิดชีพตัวเองหนีความผิด

20 ธันวาคม 2567 จากกรณี ชายคลั่งกราดยิงชาวบ้าน เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพัก เหตุเกิดพื้นที่ ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายธนพล หรือ ศักดิ์นรินทร์ สิงห์โต อายุ 33 ปี เบื้องต้นพบว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ เกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษจำคุก เพราะฆ่าลูกชายคนโตของอา และเคยขู่ว่าหลังจากพ้นโทษออกมา จะกลับมาล้างแค้นยกครัว โดยวันที่เกิดเหตุนายธนพล ได้ยิงอา และลูกชายอีก 1 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงชาวบ้านที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งอีก 2 คนเสียชีวิต 

สรุปจบ \"กราดยิงบึงกาฬ\" ชนวนเหตุปมสังหารสุดแค้น 14 ปี

ลำดับเหตุการณ์

ช่วงเช้าวันที่ 19 ธ.ค.2567 นายธนพล ได้เข้าไปทำลายทรัพย์สินที่บ้านของนายประกอบ สมภาร ซึ่งเป็นอาของเขา และมีบ้านอยู่ติดกัน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ยิง นายประกอบ และลูกชายได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังจะเข้าไปช่วยเหลือสองพ่อลูกที่ได้รับบาดเจ็บเป็นรายที่ 3

และระหว่างที่นายธนพล จะเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ก็ได้ยิงชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิง 1 คน ทราบชื่อคือ นางนันทิดา วงศ์กระโซ่ อายุ 41 ปี ที่กำลังเดินผ่านมาเสียชีวิตกลางถนน โดยที่ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งแต่อย่างใด และระหว่างนั้นมีชาวบ้าน ชาย 1 คนอีกราย ทราบชื่อคือ นายจำเนียร วรรณรม อายุ 50 ปี ขี่จักรยานยนต์ผ่านมา และกำลังจะเข้าไปช่วยเหลือ นางนันทิดาที่ถูกยิง ก็ถูกนายธนพล ยิงเสียชีวิตเป็นรายที่ 2 จากนั้น นายธนพล วิ่งหลบเข้าไปในบ้านของเขา ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเองเสียชีวิต 

ขณะที่ ภรรยาของ นายประกอบ สมภาร ผู้ถูกยิง และเป็นอาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีมีเรื่องขัดแย้งกับหลานคนนี้ ตั้งแต่ปี 2553 เพราะผู้ก่อเหตุได้ฆ่าลูกชายคนโตของเธอและนายประกอบ จนเสียชีวิต นายธนพล ถูกศาลตัดสินจำคุกช่วงปี 2553-2563 โดยมีการขู่ว่าถ้าพ้นโทษออกมา จะกลับมาล้างแค้น 

ต่อมา ในปี 2563 ผู้ก่อเหตุพ้นโทษออกมาก็ไปบวช และไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางกลับมาบ้าน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2567 แต่เมื่อมาถึง เขาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ 

นายธนพล หรือ ศักดิ์นรินทร์ สิงห์โต

เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นมูลเหตุจูงใจก่อเหตุ เกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัว และยังไม่พบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติใช้ยาเสพติด หรือเข้ารับการรักษาอาการจิตเวช แต่พบว่ามีบุคคลิเงียบขึม ชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว

ทั้งนี้จากการตรวจค้นร่างกาย นายธนพล (ผู้ก่อเหตุ) หลังจากเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง เพราะพบปืนสั้นกึ่งอัติโนมัติขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก และกระสุนขนาด .38 จำนวน 29 นัด อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวาด้านล่าง , กระสุนขนาด .38 อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวา(หน้าอกบน) จำนวน 24 นัด, กระสุนขนาด 9 มม.อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งซ้าย(ด้านล่าง) จำนวน 36 นัด และมีดพกสั้นแบบพับ 1 เล่ม 

ขณะที่ น.ส.สินินาฎศ์ สิงห์โต อายุ 27 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนเก็บกดหวาดระแวงในความคิดของตัวเองว่ามีคนคอยพูดจานินทาใส่ร้ายให้ พี่ชายไม่เคยคุยกับใครเลย ขนาดพูดกับพ่อตัวเองก็พูดแค่ 2-3 คำแค่นั้น แกมักจะเอาตัวเองเป็นหลัก ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุพี่ชายอาศัยอยู่กับพ่อ 2 คน บางครั้งพ่อก็ไปอยู่สวนยาง ส่วนตัวเองก็ออกเรือนไปอยู่บ้านสามี 

ล่าสุด ที่พี่ชายโทรมาหาบอกว่า เพื่อนที่เป็นพระด้วยกันชวนกันลงไปปฏิบัติธรรมที่ กทม. ตอนอยู่ กทม.ก็โทรลงมาหาพ่อว่าคนนั้นคนนี้แอบดูแกอยู่ในโทรศัพท์ พ่อยังถามว่า ไปทำอะไรถ่ายรูปลงโทรศัพท์ หรือยังไง เขาถึงไปแอบดูได้ พี่ชายก็ตะโกนกลับมาว่า "พวกมันแอบดู พวกมันติดกล้องแอบดูตัวเอง" 

หลังจากพี่ชายออกมาจากคุก เวลาพี่ชายนอนก็จะเอาอะไรมาอุดหูไว้ ไม่อยากได้ยินไม่อยากรับรู้อะไร เมื่อเช้านี้พ่อเข้ามาบ้านหุงข้าว ก็มองหาพี่ชายอยู่ว่าไปไหนถึงไม่อยู่บ้าน แต่ก็หาไม่แจอ