20 ธันวาคม 2567 จากกรณี ชายคลั่งกราดยิงชาวบ้าน เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเองภายในบ้านพัก เหตุเกิดพื้นที่ ต.หนองหัวช้าง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายธนพล หรือ ศักดิ์นรินทร์ สิงห์โต อายุ 33 ปี เบื้องต้นพบว่า มูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ เกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัว โดยผู้ก่อเหตุเคยต้องโทษจำคุก เพราะฆ่าลูกชายคนโตของอา และเคยขู่ว่าหลังจากพ้นโทษออกมา จะกลับมาล้างแค้นยกครัว โดยวันที่เกิดเหตุนายธนพล ได้ยิงอา และลูกชายอีก 1 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงชาวบ้านที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งอีก 2 คนเสียชีวิต
ลำดับเหตุการณ์
ช่วงเช้าวันที่ 19 ธ.ค.2567 นายธนพล ได้เข้าไปทำลายทรัพย์สินที่บ้านของนายประกอบ สมภาร ซึ่งเป็นอาของเขา และมีบ้านอยู่ติดกัน จากนั้นได้ใช้อาวุธปืน ขนาด .38 ยิง นายประกอบ และลูกชายได้รับบาดเจ็บ ก่อนยิงเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังจะเข้าไปช่วยเหลือสองพ่อลูกที่ได้รับบาดเจ็บเป็นรายที่ 3
และระหว่างที่นายธนพล จะเดินกลับเข้าบ้านตัวเอง ก็ได้ยิงชาวบ้านซึ่งเป็นผู้หญิง 1 คน ทราบชื่อคือ นางนันทิดา วงศ์กระโซ่ อายุ 41 ปี ที่กำลังเดินผ่านมาเสียชีวิตกลางถนน โดยที่ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งแต่อย่างใด และระหว่างนั้นมีชาวบ้าน ชาย 1 คนอีกราย ทราบชื่อคือ นายจำเนียร วรรณรม อายุ 50 ปี ขี่จักรยานยนต์ผ่านมา และกำลังจะเข้าไปช่วยเหลือ นางนันทิดาที่ถูกยิง ก็ถูกนายธนพล ยิงเสียชีวิตเป็นรายที่ 2 จากนั้น นายธนพล วิ่งหลบเข้าไปในบ้านของเขา ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเองเสียชีวิต
ขณะที่ ภรรยาของ นายประกอบ สมภาร ผู้ถูกยิง และเป็นอาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีมีเรื่องขัดแย้งกับหลานคนนี้ ตั้งแต่ปี 2553 เพราะผู้ก่อเหตุได้ฆ่าลูกชายคนโตของเธอและนายประกอบ จนเสียชีวิต นายธนพล ถูกศาลตัดสินจำคุกช่วงปี 2553-2563 โดยมีการขู่ว่าถ้าพ้นโทษออกมา จะกลับมาล้างแค้น
ต่อมา ในปี 2563 ผู้ก่อเหตุพ้นโทษออกมาก็ไปบวช และไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร ก่อนเดินทางกลับมาบ้าน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2567 แต่เมื่อมาถึง เขาก็ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ
เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นมูลเหตุจูงใจก่อเหตุ เกิดจากความขัดแย้งภายในครอบครัว และยังไม่พบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติใช้ยาเสพติด หรือเข้ารับการรักษาอาการจิตเวช แต่พบว่ามีบุคคลิเงียบขึม ชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว
ทั้งนี้จากการตรวจค้นร่างกาย นายธนพล (ผู้ก่อเหตุ) หลังจากเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ถึงกับอึ้ง เพราะพบปืนสั้นกึ่งอัติโนมัติขนาด 9 มม.อีก 1 กระบอก และกระสุนขนาด .38 จำนวน 29 นัด อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวาด้านล่าง , กระสุนขนาด .38 อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งขวา(หน้าอกบน) จำนวน 24 นัด, กระสุนขนาด 9 มม.อยู่ในกระเป๋าเสื้อฝั่งซ้าย(ด้านล่าง) จำนวน 36 นัด และมีดพกสั้นแบบพับ 1 เล่ม
ขณะที่ น.ส.สินินาฎศ์ สิงห์โต อายุ 27 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า พี่ชายเป็นคนเก็บกดหวาดระแวงในความคิดของตัวเองว่ามีคนคอยพูดจานินทาใส่ร้ายให้ พี่ชายไม่เคยคุยกับใครเลย ขนาดพูดกับพ่อตัวเองก็พูดแค่ 2-3 คำแค่นั้น แกมักจะเอาตัวเองเป็นหลัก ซึ่งบ้านหลังที่เกิดเหตุพี่ชายอาศัยอยู่กับพ่อ 2 คน บางครั้งพ่อก็ไปอยู่สวนยาง ส่วนตัวเองก็ออกเรือนไปอยู่บ้านสามี
ล่าสุด ที่พี่ชายโทรมาหาบอกว่า เพื่อนที่เป็นพระด้วยกันชวนกันลงไปปฏิบัติธรรมที่ กทม. ตอนอยู่ กทม.ก็โทรลงมาหาพ่อว่าคนนั้นคนนี้แอบดูแกอยู่ในโทรศัพท์ พ่อยังถามว่า ไปทำอะไรถ่ายรูปลงโทรศัพท์ หรือยังไง เขาถึงไปแอบดูได้ พี่ชายก็ตะโกนกลับมาว่า "พวกมันแอบดู พวกมันติดกล้องแอบดูตัวเอง"
หลังจากพี่ชายออกมาจากคุก เวลาพี่ชายนอนก็จะเอาอะไรมาอุดหูไว้ ไม่อยากได้ยินไม่อยากรับรู้อะไร เมื่อเช้านี้พ่อเข้ามาบ้านหุงข้าว ก็มองหาพี่ชายอยู่ว่าไปไหนถึงไม่อยู่บ้าน แต่ก็หาไม่แจอ