จากกรณี เพจเฟสบุ๊ก "Social Hunter 2022" โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า เหตุเกิดที่สถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อ นักท่องเที่ยวเมาทะเลาะกัน ยิงปืนขึ้นฟ้าและทำท่าจ่อยิง ฝากเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบด้วย #ทองหล่อ10 #เอกมัย10 #กรุงเทพฯ
16 ธันวาคม 2567 ล่าสุดทีมข่าวเดินทางไปติดตามคืบหน้าคดีที่ สน.ทองหล่อ ก่อน พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ทองหล่อ ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า วันที่ 15 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 02.55 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีชายไม่ทราบชื่อได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าบริเวณสถานที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถอาคารเท็น ซอยเอกมัย 5-ทองหล่อ10 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพ
จึงได้รีบทำการเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุ ทราบว่าคือ จ่าสิบตำรวจ (จ.ส.ต.) ผู้บังคับหมู่ ฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ อยู่ในอาการ มึนเมา
ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว สน.ทองหล่อ จึงได้ตรวจค้นตัวพบอาวุธปืนยี่ห้อ sig sauer รุ่น 320 รหัสประจำปืน Tx0124xx พร้อมซองกระสุนเหน็บอยู่ที่เอวของผู้ก่อเหตุ จึงได้ทำการปลดอาวุธและควบคุมตัวไว้ จากนั้นพบพยานใกล้เคียงให้การว่า
ตนได้ยินเสียงโวยวายบริเวณหน้าอาคารดังกล่าว จึงได้ออกมาตรวจสอบพบผู้ก่อเหตุ อยู่ในอาการมึนเมาและได้ใช้อาวุธปืนชี้มายังตนและได้ต่อว่าด่าทอตนไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร จึงได้บอกให้ใจเย็นๆ แต่ยังคงโวยวายและชักปืนออกมายิงบริเวณหน้าทางเข้าลานจอดรถอาคาร จากนั้นได้วิ่งกลับไปยังรถจักรยานยนต์ของตนเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมชุดเคลื่อนที่เร็วจะรีบเข้าควบคุมตัว นำมาสอบปากคำ ที่โรงพัก
ภายหลังจากการสอบสวนผู้ก่อเหตุอ้างว่า เมามากจึงได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดพบ 136 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ในเลือด จึงได้พูดคุยผู้ต้องหาบอกว่า จำอะไรไม่ได้เลย ซึ่งจะให้การอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องของเขา
เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน แจ้ง ข้อหา
1.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต (โทษ10ปี)
2.พาอาวุธปืนไปในเมืองและหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร(โทษ5ปี)
3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านฯโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้พยานในที่เกิดเหตุสามารถเข้ามาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้ จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด และมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเข้าข่ายพยายามฆ่า เนื่องจากผู้เกิดเหตุชี้ปืนไปที่บุคคลอื่นอีกด้วย
ซึ่งตนในฐานะ ผกก.สน.ทองหล่อ รับไม่ได้ ตำรวจต้องใช้ปืน เพื่อยิงโจรคนร้าย หรือใช้ป้องกันตนเมื่อมีอันตรายใกล้ตนอันสมควรแก่เหตุ การที่ตำรวจใช้ปืนชี้ไปที่บุคคลอื่น เพราะการ์ดเขาไม่ให้เข้าร้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเมามาก เป็นเหตุไม่สมควรกระทำ
ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง โทษสูงสุดคือไล่ออกจากราชการตำรวจ เพื่อไม่ให้ตำรวจเอาเป็นเยี่ยงอย่าง
เบื้องต้น ตนได้สั่งการให้ปลดอาวุธปืนหลวง 2 กระบอกของผู้ก่อเหตุเอาไว้ และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่
ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานส่งเอกสารไปที่ผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาลงโทษวินัยร้ายแรงไล่ออกจากราชการตำรวจต่อไป
ส่วนเรื่องประกันตัว ตอนนี้มีญาติมาติดต่อขอประกันตัว ก็จะพิจารณาวงเงินขั้นสูง 150,000 บาท คิดว่าอาจให้ปล่อยตัวชั่วคราว ไปในระหว่างสอบสวน เนื่องจากเป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญถ้าไม่ยุ่งเหยิงพยานหลักฐานไม่มีการหลบหนีมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งก็สามารถดุลพินิจปล่อยตัวชั่วคราวได้ แต่จะดำเนินการทางวินัยร้ายแรงทางคดีอาญาเที่ยงตรงเด็ดขาด
จากนั้น พ.ต.อ.พันษา ลุกขึ้นจากเก้าอี้และกราบขอโทษประชาชนผ่านสื่อ กับการกระทำของจ่าสิบตำรวจคนดังกล่าว