14 ธันวาคม 2568 จากกรณีแม่วัย 29 ปี ร้องทุกข์กับ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีหลังไปทำงานภาคใต้ ฝากลูกสาว 10 ขวบ อยู่กับตายาย แต่กลับถูก 3 เฒ่าลามกขยี้กาม
โดยทั้ง 3 คน คือ
(1.)คนข้างบ้าน อายุ 64 ปี
(2.)ครูมวย อายุ 60 กว่าปี
(3.)ลุงเขย (ลูกเขยของตา) อายุ 68 ปี
ซึ่งทั้ง 3 คน จะรู้จักคุ้นเคยกับตาของเด็ก และแวะเวียนมาที่บ้านเป็นประจำ โดยจะกระทำกับลูกสาวที่บ้านตาเวลาที่ตาไม่อยู่บ้าน และที่ห้องน้ำสาธารณะของหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี มิหนำซ้ำยังถ่ายรูปลามกเด็กไว้ในมือถือ หลังกระทำกับเด็กเสร็จ ก็จะให้เงินไปซื้อขนมเพื่อปิดปากไม่ให้บอกใคร เรื่องนี้ แม่ต้องการจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแต่เกรงจะว่าไม่ปลอดภัย
ภายหลัง "ปวีณา" รับเรื่องดังกล่าว ได้ประสาน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ จับกุมตัวได้ทั้ง 3 คน สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพ
โดยครูมวย 1 ใน 3 ผู้ต้องหาขณะถูกรวบตัวได้ที่บุรีรัมย์ เจ้าตัวแชตมาหาเด็กจะขอคุยกับแม่ให้ถอนแจ้งความพร้อมขอชดใช้ค่าเสียหาย แต่แม่เด็กยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุดขอคัดค้านการประกันตัว ตร.เตรียมส่งฝากขังศาลวันนี้ (14 ธ.ค.67)
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันที่ 30 พ.ย.2567 น.ส.ป๊อบ (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เดินทางมาจากจ.กระบี่ ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ด.ญ.มุก (นามสมมุติ) ลูกสาววัย 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ถูกชายสูงวัย 3 คน ข่มขืนกระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศกันคนหลายครั้ง นอกจากนี้ ยังถ่ายรูปลามกของเด็กเก็บไว้ พร้อมกับส่งรูปอวัยวะเพศตัวเองมาให้เด็กดู ซึ่งมีหลักฐานอย่างชัดเจน
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับสองแม่ลูกเข้าอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิปวีณาฯ และได้ประสาน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาสองแม่ลูกไปพบ ผกก. และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำกับเด็กทั้ง 3 คน
ด้านพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เป็นผู้พาไป และพาเด็กไปสอบปากคำกับสหวิชาชีพในวันที่ 4 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ
1.คนข้างบ้าน อายุ 64 ปี
2.ครูมวย อายุประมาณ 60 กว่าปี ในข้อหา กระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน13ปี และกระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี
3. ลุงเขย (ลูกเขยของตา) อายุ 68 ปีข้อหา กระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี
ล่าสุดวานนี้ 13 ธ.ค.67 นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับ และได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคนสุดท้ายคือครูมวย จับได้ขณะหลบหนีไปที่ จ.บุรีรัมย์ อยู่ระหว่างทำการสอบสวน เบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพ และจะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลในช่วงบ่ายวันนี้
น.ส.ป๊อบ กล่าวภายหลังทราบข่าวว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คนถูกจับว่า
"หนูได้ทำหน้าที่ของแม่แล้ว ทั้ง 3 คนที่ทำกับลูกสาวหนูต้องได้รับโทษ วันนี้ครูมวย 1 ในผู้ต้องหา ขณะถูกจับได้โทรมายังเฟซบุ๊กของลูกหนูหลายสาย แต่ไม่ไม่รับ และเขายังแชตมาหาลูกสาวหนู ส่งสติ๊กเกอร์รูปหัวใจ และบอกว่า ให้คุยกับแม่เพื่อถอนแจ้งความและจะดูแลเรื่องค่าเสียหายให้ ซึ่งหนูไม่ยอมเด็ดขาด และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนด้วย หนูกับลูกขอบคุณมูลนิธิปวีณาฯ ที่ช่วยเหลือทวงความยุติธรรมให้กับลูกสาวหนู และได้ให้ที่พักพิงความปลอดภัยอย่างดียิ่ง แลหนูขอขอบคุณ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ที่ช่วยจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว"
นางปวีณา กล่าวว่า ตำรวจได้จับกุมผู้กระทำผิดไปแล้วทั้ง 3 คน และได้รับการประกันตัวกันทุกคน แม่ของเด็กห่วงว่าผู้ต้องหาจะไปก่อกวนครอบครัว เพราะตอนที่ตำรวจจับครูมวย 1 ในผู้ต้องหายังแชทมาหาลูกบอกให้แม่ไปถอนแจ้งความ และจะชดใช้ค่าทำขวัญให้ ตอนนี้ตากับยายอยู่บ้านกัน 2 คน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นางปวีณาจะให้แม่ไปแจ้งความตำรวจ หากมีการคุกคามสามารถขอถอนการประกันตัวผู้ต้องหาได้
หลังจากนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะพาผู้เสียหายไปกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี หากต่อไปถูกคุกคามก็จะขอให้ตำรวจถอนการประกันผู้ต้องหา และขอกระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยานโดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
ความเป็นมา น.ส.ป๊อบ เล่าว่า ตนเลิกรากับสามีเก่าเลี้ยงลูกสาวมาตั้งแต่เล็ก โดยอาศัยอยู่กับตายายที่ จ.นนทบุรี ช่วงปลายปี 66 ตนมีสามีใหม่และพากันไปรับจ้างตัดปาล์มที่ จ.กระบี่ ลูกสาวจึงอยู่กับตายาย ปกติลูกก็จะไปเรียนหนังสือยายไปทำงานเช้ากลับเย็น ส่วนตาอายุ 80 ปี จะช่วยชาวบ้านเกี่ยวกับการจ่ายเงินกองทุนฌาปนกิจศพ ซึ่งต้องออกไปพบชาวบ้านบ่อยๆ บางครั้งลูกสาวจึงต้องอยู่บ้านคนเดียว ขณะที่แม่เองก็จะโทรมาหาตายายและลูกสาวเป็นประจำกระทั่งวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา แม่คุยกับลูกถามว่ามีใครทำอะไรลูกหรือไม่ ลูกจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นแม่ได้รีบเดินทางมาจากจ.กระบี่เพื่อมาดูลูกทันที
ลูกสาวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า
1.ลุงข้างบ้าน อายุ 50 กว่าปี ได้ข่มขืนกระทำชำเรา และอนาจารกอด จูบอวัยวะเพศหลายครั้ง, ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพอวัยวะเพศเด็กเก็บไว้ โดยอาศัยจังหวะที่ตาไม่อยู่แอบมากระทำกับลูกสาวที่บ้าน ช่วงเดือน ก.ค. - ต.ค. 67
2.ครูมวย อายุประมาณ 50 กว่าปี ได้กระทำอนาจารโดยการใช้ปาก, จับอวัยวะเพศ และบังคับให้เด็กอมอวัยวะเพศโดยทำทีชวนเด็กไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ เหตุเกิดช่วงเดือน ก.ค. - ต.ค. 67 มีหลักฐานครูมวยแชตคุยกับเด็กในเชิงชู้สาว ส่งรูปอวัยวะเพศตัวเองมาให้เด็กดู บอกคิดถึงอยากเจออีก และบอกให้เด็กลบแชตทุกครั้ง
3. ลุงเขย (ลูกเขยของตา) ได้กระทำอนาจาร โดยการใช้ปาก, และจับอวัยวะเพศ กระทำ 2 ครั้ง ที่บ้านตาเด็ก เหตุเกิดช่วยเดือน มิ.ย. - ต.ค. 67