จากกรณี เฟซบุ๊กชื่อว่า Wara Kiss ได้โพสต์ข้อความว่า “ตามหาผู้กระทำความผิด มาลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมายหากพบเห็นโปรดแจ้ง สภ. บ้านบึง หรือทางครอบครัวเราได้เลยค่ะ รบกวนทีนะคะ” พร้อมกับรูปภาพของนายนันทวัฒน์ ปิ่นทองทองคำ อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ
2 ธันวาคม 2567 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบึงบวรสถิต ศาลา 3 เขตเทศบาลบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นสถานนี้ประกอบพิธีทางศาสนาให้กับ นายนพดล หล้าหลาบ อายุ 32 ปี ผู้เสียชีวิต โดยวันนี้ได้มีพิธีฌาปนกิจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องมาร่วมงาน เพื่อร่วมส่งดวงวิญญาณนายนพดล สู่สรวงสวรรค์
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสาวอรเนตร พงษ์ภักดี อายุ 31 ปี ภรรยาของนายนพดล (ผู้เสียชีวิต) เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่ม ของวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 สามีตนนอนอยู่ในซุ้มไก่ชน ได้มีนายทอย (ผู้ก่อเหตุ) ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาที่บ้าน จากนั้นได้กระหน่ำยิงสามีของตนโดยไม่ทันตั้งตัว โดยยิงไปประมาณ 10 นัด สามีตนถูกกระสุนเข้าที่ลำตัว 8 นัด และมีหลานอีกคนถูกยิงที่ขา ได้รับบาดเจ็บกระดูกแตก ส่วนหลานอีกคนที่เป็นผู้หญิง สามีของตนผลักออกจากวิถีกระสุนจนล้มลงได้รับบาดเจ็บแขนหัก
ส่วนปมเหตุ ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุได้คิดว่าสามีตนไปแจ้งตำรวจให้มาจับ นายทอย และภรรยา โดยนายทอย ก็ได้มาด่าสามีตนก่อนหน้านี้แล้ว พอวันที่เกิดเหตุ เป็นวันตัดสินคดีของภรรยานายทอย โดยสารสั่งจำคุก 7 ปี พอตกเย็นนายทอย ก็มาก่อเหตุยิงเลย ตนจึงคิดว่านายทอย น่าจะเข้าใจผิด คิดว่าสามีตนนั้นไปแจ้งความตำรวจให้มาจับภรรยาของนายทอย ซึ่งสามีตนไม่ได้เป็นคนไปแจ้งความเลย คาดว่าน่าจะเป็นการเข้าใจผิด และมาก่อเหตุอย่างอุกอาจแบบนี้
ตนอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งดำเนินการจับตัวนายทอย มาดำเนินคดีได้เร็วเร็ว และฝากถึงนายทอย อยากจะถามว่าจิตใจทำด้วยอะไร ทำไมถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้ ก่อนจะทำอะไรทำไมไม่ถามก่อน
ด้านน้องไอด้า อายุ 11 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บแขนหักจากเหตุการณ์ดังกล่าวและอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุนั่งเล่นอยู่ และกำลังจะวิ่งไปเอาลูกกอล์ฟมาเก็บ พอผู้ก่อเหตุมาถึงจอดรถข้างบ้านแล้วเดินขึ้นมา จากนั้นก็มาเรียกชื่อน้า ซึ่งน้านอนอยู่บนเปลก็ถูกยิงต่อหน้า พอน้าลงจากเปลก็รีบมาผลักตนเอง เพื่อให้หลบลูกกระสุน ไม่ให้ถูกลูกปืน ตนจึงล้มแขนกระแทกกับพื้นจนแขนหัก และมี ด.ช.กันตทิพย์ อายุ 14 ปี พี่ชายอีกคนถูกลูกหลงโดนยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บ ขาขวาหัก เพราะลูกปืนโดนกระดูก
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ อยู่ที่บริเวณซอยวัดต้นสน 7 หมู่ 3 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พบเป็นซุ้มไก่ชน โดยในที่เกิดเหตุมีเปลที่ผู้ตายนอนแขวนอยู่ และพบรอยคราบเลือดหยุดเป็นทาง จากจุดที่ถูกยิงไปจนถึงประตูเหล็กหลังซุ้มไก่ชนประมาณ 30 เมตร และร่องรอยของผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณหลังซุ้มไก่ชน มีกองเลือดที่กำลังแห้งกรังจำนวนมาก
จากนั้่น เดินทางต่อไปที่ สภ.บ้านบึง โดยมีนางสาวอรเนตร ภรรยาของผู้เสียชีวิต และบรรดาญาติ ๆ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าของคดี โดย พันตำรวจโทพิสิฐ กิจขุนทด รอง ผกก.สืบสวน สภ.บ้านบึง ได้เปิดเผยภาพจากกล้องวงจรปิดของผู้ก่อเหตุที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางเข้ามาในซุ้มไก่ชน โดยภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพตอนที่นายทอย ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในซอยบ้าน เมื่อเวลา 20.19 น. และขากลับนายทอยได้ขี่รถออกบริเวณปากซอยที่เดิม เวลา20.24 น. ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดแยกห้วยน้ำโจรจับภาพได้ และจะผ่านไปแยกบ้านผู้ใหญ่ลม ก่อนออกถนน 344 เมื่อเวลา 20.28 น.
และภาพจากกล้องวงจรปิดในซอยซีแพค จับภาพของนายทอยขับผ่านไปเมื่อเวลา 20.2 8.52 น. และกล้องตัวสุดท้ายที่ได้จากแยกหนองชากนายทอยได้เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางอำเภอพนัสนิคม เมื่อช่วงเวลา 20.3 8.47 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างแกะรอยเส้นทางการหลบหนีของนายทอย เนื่องจากกล้องวงจรปิดเป็นของเอกชนต้องใช้เวลาในการติดต่อ และขอดูภาพจากกล้องของเจ้าของบ้าน โดยตำรวจได้ติดตามการทำงานอยู่ทุกวันตลอดระยะเวลา 3 วันที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุ ไม่มีการหยุดพัก มีการเรียกกลุ่มเพื่อนสนิทของผู้ก่อเหตุ และซุ้มต่าง ๆ ที่ ผู้ก่อเหตุได้รู้จัก และได้ไปหา โดยมีการแกะรอยไปทุกกลุ่ม
และจากการตรวจสอบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวพบว่า นายทอย ได้ไปยืมจากร้านซ่อมรถ ที่เป็นเพื่อนสนิท โดยเป็นรถของลูกค้าที่เอามาซ่อมเอาไว้ และล่าสุดเจ้าของรถก็มีการมาแจ้งความ ข้อหาลักทรัพย์ที่ สภ. บ้านบึงไว้แล้ว โดยประเด็นที่ก่อเหตุ ตำรวจตั้งไว้เบื้องต้นมี 2 ประเด็น คือ ประเด็นชู้สาวและยาเสพติด เนื่องจากระหว่างที่นายทอย อยู่ในเรือนจำนั้น ผู้ตายกับภรรยาของผู้ต้องหา มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนม ลักษณะคล้ายเป็นแฟนกัน 2. ผู้ตายมีพฤติกรรมเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ ต่อมาผู้ต้องหาถูกจับยาเสพติดมีความเชื่อว่าผู้ตายเป็นคนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม จึงทำให้เกิดความขัดแย้งและมีความแค้นกัน อีกทั้งภรรยาของผู้ต้องหาถูกจับในคดียาเสพติด และถูกศาลตัดสิน จำคุก 7 ปี ภายในวันที่เกิดเหตุ จึงเป็นเหตุจูงใจทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห เพราะเข้าใจว่าผู้ตายเป็นคนแจ้งให้ตำรวจมาจับ
อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงผู้ก่อเหตุ อยากให้มามอบตัว และมาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า สาเหตุที่ทำไปเพราะอะไร เหตุจูงใจเกิดจากอะไร อยากให้เข้ามาอยู่ในขบวนการยุติธรรม เพราะเชื่อว่าความยุติธรรมจะช่วยให้ตนเองได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้ได้บอกกับญาติของผู้เสียชีวิตว่า ตำรวจได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ และติดตามคดีความคืบหน้าอยู่ทุกวัน ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน
โดยทางตำรวจเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจหลังจากเกิดเหตุ ตอนนี้คดีมีความคืบหน้ามากขึ้นพอสมควร ทั้งจากแหล่งข่าวไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนผู้ก่อเหตุ หรือกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิต และแม่ของผู้ก่อเหตุเองที่ให้ความร่วมมือในการให้เบาะแสเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุ และจากการสืบประวัติผู้ก่อเหตุ มีประวัติความรุนแรง เรื่องการใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกาย และขายยาเสพติดในพื้นที่ โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะต้องเคร่งครัดและเฝ้าระมัดระวัง โดยกำชับทุกหน่วยให้เตรียมรับมือในการเข้าพื้นที่ และหาเบาะแส เพราะผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืน ทางตำรวจก็ไม่อยากกระทำการรุนแรง จึงอยากให้มามอบตัวไม่อยากให้มีการสูญเสีย